กรมรางเตรียมแผนเชื่อมรถไฟไทย-ลาวรองรับหลังรถไฟลาว-จีนเปิด 2 ธ.ค. 64 ให้ รฟท.เพิ่มขบวนรถหนองคาย-เวียงจันทน์ผ่านสะพานเดิมรองรับปริมาณเดินทางและสินค้าข้ามแดนเพิ่ม พร้อมเร่งออกแบบไฮสปีดกรุงเทพฯ-นครราชสีมา-ถึงหนองคาย เปิดให้บริการปี 71
นายกิตติพันธ์ ปานจันทร์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง (ขร.) พร้อมด้วย นายพิเชฐ คุณาธรรมรักษ์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางราง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมประชุมคณะอนุกรรมการพัฒนาการเชื่อมต่อและการขนส่งข้ามแดนทางรถไฟช่วงหนองคาย-เวียงจันทน์ ครั้งที่ 1/2564 เพื่อจัดทำข้อเสนอในการเชื่อมต่อและการขนส่งข้ามแดนทางรถไฟช่วงหนองคาย-เวียงจันทน์ และนำไปสู่การพิจารณากำหนดท่าทีฝ่ายไทยในการเชื่อมต่อและการขนส่งข้ามแดนทางรถไฟช่วงหนองคาย-เวียงจันทน์ สำหรับการประชุมคณะกรรมการร่วมเพื่อความร่วมมือด้านรถไฟระหว่างไทย-จีนต่อไป
นายกิตติพันธ์กล่าวว่า ที่ประชุมได้พิจารณาการเชื่อมต่อการเดินทางและการขนส่งสินค้าข้ามแดนผ่านทางรถไฟช่วงหนองคาย-เวียงจันทน์ ซึ่งได้มอบหมายให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) พิจารณาจัดขบวนรถรองรับการเดินทางช่วงหนองคาย-เวียงจันทน์ และรองรับปริมาณการขนส่งสินค้าทางรางที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นที่สถานีท่านาแล้งของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) นำไปสู่การเชื่อมโยงการขนส่งระหว่างประเทศต่อไป
ในส่วนโครงการรถไฟจีน-ลาวนั้น ได้เตรียมเปิดดำเนินการในวันชาติของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวในวันที่ 2 ธันวาคม 2564 โดยเส้นทางรถไฟลาว-จีนมีระยะทางประมาณ 420 กิโลเมตร มีทั้งหมด 31 สถานี เริ่มต้นที่นครคุนหมิง มณฑลยูนนาน เชื่อมต่อที่เมืองบ่อเต็น สปป. ลาว และมีปลายทางที่นครหลวงเวียงจันทน์ซึ่งอยู่ใกล้กับจังหวัดหนองคาย
ประเทศไทยอยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูง ระยะที่ 1 ช่วงกรุงเทพฯ-นครราชสีมา มีระยะทาง 253 กม. มีกำหนดเปิดให้บริการปี 2569 สำหรับระยะที่ 2 นครราชสีมา-หนองคาย ระยะทาง 356 กิโลเมตร ปัจจุบันได้ออกแบบรายละเอียด โดยมีกำหนดเปิดให้บริการปี 2571 โดยเตรียมหารือร่วมกันสามฝ่ายเพื่อเตรียมการเดินรถเชื่อมต่อไทย-ลาว-จีน ต่อไป
สำหรับการเตรียมความพร้อมของฝ่ายไทยในการเชื่อมโยงทางรถไฟไทย ลาว จีน นั้น ประเทศไทยได้มีการเตรียมความพร้อมในการเปิดเส้นทางรถไฟจีน-ลาวไว้ 2 ระยะ ได้แก่ ระยะที่ 1 คือการพัฒนาสถานีหนองคายให้รองรับการขนส่งผ่านสะพานเดิม โดยพัฒนาบริเวณสถานีที่มีพื้นที่ประมาณ 80 ไร่ ให้เป็นพื้นที่ตรวจปล่อยสินค้าระหว่างประเทศ และการเปลี่ยนถ่ายจากถนนสู่ราง โดยให้เอกชนเช่าบริหารจัดการพื้นที่ 4 แปลง อีก 1 แปลงเป็นพื้นที่ส่วนกลาง
ระยะที่ 2 จะเป็นการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโขงแห่งใหม่ ซึ่งมีที่ตั้งอยู่ห่างจากสะพานเดิมประมาณ 30 เมตร โดยเป็นสะพานรถไฟที่มีทั้งทางขนาด 1 เมตร และ 1.435 เมตร โครงสร้างสะพานจะเป็นรูปแบบสะพานคานคอนกรีตอัดแรงรูปกล่อง ก่อสร้างโดยวิธีคานยื่นสมดุล
นอกจากนี้ จะมีการจัดเตรียมพื้นที่และสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับศูนย์ย่านเปลี่ยนถ่ายสินค้า (Transshipment Yard) สามารถรองรับการแลกเปลี่ยนสินค้าจากรถไฟที่เข้ามาจากจีนและลาว และส่งออกไปยังลาวและจีน โดยตั้งอยู่ในพื้นที่ด้านหลังของลานขนถ่ายสินค้า สำหรับกองเก็บตู้สินค้าประเภทต่างๆ รวมถึงอาคารสำนักงาน, คลังสินค้า และอาคารประกอบอื่นๆ ของหน่วยงานที่เกี่ยวกับการนำเข้า-ส่งออก รวมถึงศูนย์เอกซเรย์ตู้สินค้าเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้มาใช้บริการแบบ One-Stop Service
อย่างไรก็ตาม เส้นทางรถไฟเชื่อมจีน-ลาวมายังชายแดนหนองคายส่งผลดีด้านการค้าไทยจะสามารถส่งออกสินค้าไปลาวและจีนได้เพิ่มขึ้น เช่น สินค้าอุปโภค บริโภค โดยเฉพาะสินค้าทางการเกษตร ไปยังประเทศจีนนั้นใช้เวลานาน โดยเฉพาะผลไม้ไทยเป็นผลไม้เมืองร้อน มีอายุการเก็บรักษาสั้น ซึ่งการขนส่งที่ใช้เวลานานจะทำให้เกิดการเน่าเสียของสินค้า ดังนั้นการเปิดให้บริการเส้นทางรถไฟลาว-จีนจึงเป็นผลดีต่อสินค้าเกษตร ให้สามารถกระจายไปยังมณฑลต่างๆ ของจีนได้อย่างทั่วถึงในระยะอันสั้น
ในด้านการบริการและการท่องเที่ยว คาดว่านักท่องเที่ยวจีนและลาวจะมาเที่ยวไทยได้สะดวกขึ้น ซึ่งจะมีส่วนช่วยสนับสนุนธุรกิจบริการ อาทิ กลุ่มบริการสุขภาพ เช่น โรงพยาบาล นวดแผนไทย เนื่องจากความเชื่อมั่นในคุณภาพ และมาตรฐานสาธารณสุขของไทย รวมถึงกลุ่มร้านอาหาร และโรงแรม เนื่องจากราคาสินค้าและบริการถูก รวมถึงอาหารและเครื่องดื่มของไทยเป็นที่นิยมของทั้งชาวจีนและลาว ที่จะเป็นโอกาสให้ผู้ประกอบการไทยในการค้าขายผ่านแนวเส้นทางดังกล่าว