xs
xsm
sm
md
lg

งบโฆษณา 8 เดือนโต 4% “สิงหาคม” ดิ่ง 13% ร่วงลงทุกสื่อ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



การตลาด - นีลเส็นเปิดภาพรวมเม็ดเงินโฆษณาทั้งระบบช่วง 8 เดือนแรกปี 64 มูลค่า 70,685 ล้านบาท ยังเติบโตอยู่ 4% ขณะที่ภาพรวมแค่เดือนสิงหาคมเดือนเดียวตกลงทุกสื่อ ส่งผลกระทบต่อภาพรวมทั้งเดือนสิงหาคมวูบตกหนักมากถึง 13% อยู่ที่มูลค่า 8,118 ล้านบาท

บริษัท นีลเส็น (ประเทศไทย) จำกัด ได้เปิดเผยถึงตลาดมูลค่างบโฆษณาโดยรวมล่าสุดของเดือนสิงหาคม ปี 2564 ปรากฏว่าตกอยู่ในสถานการณ์ที่น่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง เนื่องจากว่ามูลค่ารวมอยู่ที่ 8,118 ล้านบาทเท่านั้นเอง ซึ่งเท่ากับว่าเม็ดเงินรวมตกลงอย่างมากจากเดือนเดียวกันปีที่แล้วที่มีมูลค่า 9,330 ล้านบาท หรือลดลงถึง 13%
 
ขณะที่ช่วง 8 เดือนแรกของปี 2564 ตั้งแต่เดือนมกราคม-สิงหาคม กลับเป็นช่วงที่มีมูลค่าโดยรวมสูงถึง 70,685 ล้านบาท ซึ่งเติบโตจากช่วงเดียวกันปีที่แล้ว 4% จากเดิมที่มีมูลค่า 67,812 ล้านบาท ซึ่งสื่อทีวียังคงเป็นสื่อที่มีสัดส่วนของการใช้เม็ดเงินโฆษณาสูงสุดอยู่ที่ 61%
 


ทั้งนี้ เดือนสิงหาคม 2564 เทียบกับสิงหาคม ปี 2563 หากแยกการใช้งบโฆษณาตามประเภทสื่อจะพบว่าทุกสื่อลดลงทั้งหมด โดยสื่อทีวีมีมูลค่า 4,914 ล้านบาท ลดลง 12% จากเดิมที่มี 5,575 ล้านบาท, สื่ออินเทอร์เน็ตมูลค่า 1,931 ล้านบาท จากเดิมมี 1,927 ล้านบาท, สื่อกลางแจ้งและสื่อเคลื่อนที่มีมูลค่า 706 ล้านบาท ลดลง15% จากเดิมมี 834 ล้านบาท, สื่อวิทยุมูลค่า 259 ล้านบาท ลดลง 11% จากเดิมที่มี 291 ล้านบาท, สื่อสิ่งพิมพ์ มูลค่า 246 ล้านบาท ลดลง 29% จากเดิมที่มี 348 ล้านบาท, สื่อโรงหนัง มูลค่า 17 ล้านบาท ลดลง 94% จากเดิมที่มี 308 ล้านบาท, สื่ออินสโตร์ มูลค่า 45 ล้านบาท ลดลง 4% จากเดิมที่มี 47 ล้านบาท

ส่วนงบรวมช่วง 8 เดือนแรก ปี 2564 เทียบช่วงเดียวกันปี 2563 พบว่ามีเพียง 3 สื่อที่เติบโต คือ สื่อทีวี มีมูลค่า 42,209 ล้านบาท เติบโต 6% จากเดิมมี 40,000 ล้านบาท, สื่ออินเทอร์เน็ต มีมูลค่า 15,593 ล้านบาท เติบโต 17% จากเดิมมี 13,351 ล้านบาท, สื่ออินสโตร์ มีมูลค่า 435 ล้านบาท เติบโต 9% จากเดิมมี 398 ล้านบาท

สื่อที่เหลือลดลงหมดคือ สื่อกลางแจ้งและสื่อเคลื่อนที่ มีมูลค่า 6,447 ล้านบาท ลดลง 8% จากเดิมมี 7,029 ล้านบาท, สื่อวิทยุ มีมูลค่า 2,116 ล้านบาท ลดลง 10% จากเดิมมี 2,355 ล้านบาท, สื่อสิ่งพิมพ์ มีมูลค่า 2,059 ล้านบาท ลดลง 15% จากเดิมมี 2,430 ล้านบาท และสื่อโรงหนัง มีมูลค่า 1,826 ล้านบาท ลดลง 19% จากเดิมมี 2,249 ล้านบาท


ขณะที่ในมุมของอุตสาหกรรมและธุรกิจแต่ละประเภทที่มีการใช้จ่ายงบโฆษณาตั้งแต่เดือนมกราคม- สิงหาคม 2564 เทียบช่วงเดียวกันปี 2563 ก็ล้วนมีความแตกต่างที่น่าสนใจต่างกันไป บางกลุ่มมีการใช้งบเพิ่มขึ้น บางกลุ่มก็ใช้งบน้อยลง

ทั้งนี้ 3 กลุ่มอุตสาหกรรมที่ใช้เม็ดเงินมากที่สุดก็ยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง กล่าวคือ อุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม ใช้งบมูลค่า 11,963 ล้านบาท เติบโต 16%, กลุ่มเพอร์ซันนัลแคร์และเครื่องสำอาง ใช้งบ 9,835 ล้านบาท เติบโต 5%, กลุ่มมีเดียและมาร์เกตติ้ง ใช้งบ 9,111 ล้านบาท เติบโต13%

ส่วนกลุ่มที่รองลงมาคือ กลุ่มยานยนต์ มูลค่า 3,850 ล้านบาท ลดลง5%, กลุ่มเวชภัณฑ์ มูลค่า 3,690 ล้านบาท ลดลง 3%, กลุ่มของใช้ในครัวเรือน มูลค่า 3,123 ล้านบาท เติบโต 13%, กลุ่มสื่อสาร มูลค่า 2,566 ล้านบาท ลดลง 14%, กลุ่มการเงิน มูลค่า 2,253 ล้านบาท ลดลง 20%, กลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้า มูลค่า 2,179 ล้านบาท เติบโต 64%, กลุ่มร้านค้าปลีกอาหาร มูลค่า 1,976 ล้านบาท ลดลง 6%, กลุ่มรัฐบาล มูลค่า 1,699 ล้านบาท ลดลง 20%

กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ มูลค่า 709 ล้านบาท ลดลง 13%, กลุ่มน้ำมัน มูลค่า 701 ล้านบาท ลดลง 3%, กลุ่มท่องเที่ยว มูลค่า 631 ล้านบาท ลดลง 62%, กลุ่มเกษตรกรรม มูลค่า 429 ล้านบาท ลดลง 29%, กลุ่มเสื้อผ้า มูลค่า 374 ล้านบาท เติบโต 14%, กลุ่มการศึกษา มูลค่า 303 ล้านบาท ลดลง 25%, กลุ่มวัสดุก่อสร้างและเครื่องจักร มูลค่า 272 ล้านบาท ลดลง 31%, กลุ่มเฟอร์นิเจอร์ มูลค่า 208 ล้านบาท ลดลง 10% และกลุ่มบันเทิงใช้งบ 128 ล้านบาท ลดลง 62%


มองในประเด็น 10 บริษัทที่ใช้งบโฆษณามากที่สุดในช่วง 8 เดือนแรก มกราคม-สิงหาคม ปี 2564 คือ 1. ยูนิลีเวอร์ ไทย โฮลดิ้งส์ ใช้งบมูลค่า 3,474 ล้านบาท, 2. เนสท์เล่ ไทย ใช้งบมูลค่า 2,011 ล้านบาท, 3. พรอคเตอร์ แอนด์ แกมเบิ้ล ประเทศไทย ใช้งบมูลค่า 1,565 ล้านบาท, 4. โมโนช้อปปิ้ง ใช้งบมูลค่า 1,268 ล้านบาท, 5. แมสมาร์เก็ตติ้ง ใช้งบมูลค่า 1,074 ล้านบาท,

6. โคคา โคลา ประเทศไทย ใช้งบมูลค่า 975 ล้านบาท, 7. คอลเกตุ ปาล์มโอลีฟ ประเทศไทย ใช้งบมูลค่า 868 ล้านบาท, 8. ไลฟ์สตาร์ ใช้งบมูลค่า 838 ล้านบาท, 9. จีเอ็มเอ็ม ซีเจโอ ช้อปปิ้ง ใช้งบมูลค่า 835 ล้านบาท และ 10. เรคคิทท์ เบนคิสเซอร์ ประเทศไทย ใช้งบมูลค่า 784 ล้านบาท


สำหรับรายละเอียดของ 3 บริษัทที่ใช้เม็ดเงินโฆษณาสูงสุดช่วงมกราคม-สิงหาคม 2564 โดย 3 ลำดับแรก คือ
1. บริษัท UNILEVER (THAI) HOLDINGS CO.,LTD. มูลค่า 3,474 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว 33% โดยแคมเปญที่ใช้เม็ดเงินโฆษณาสูงสุดในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาคือ ซันซิล สีชมพู ช่วยจัดทรงง่ายขึ้น 5 เท่า หอมนาน 72 ชม. ทางสื่อทีวี มูลค่า 33 ล้านบาท รองลงมาคือ ซันซิล ไฮเดรนเยีย&แพร์ ผมหอมนานตลอดวัน ทางสื่อทีวี มูลค่า 24 ล้านบาท


2. บริษัท NESTLE(THAI) CO.,LTD. มูลค่า 2,011 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว 20% โดยแคมเปญที่ใช้เม็ดเงินโฆษณาสูงสุดในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา คือ เนสกาแฟ กระป๋องเขียว อร่อยเข้ม เต็มเหนี่ยว ทางสื่อทีวี มูลค่า 27 ล้านบาท รองลงมาคือ เอส-26 โกลด์ โปรเกรส มีสฟิงโก ไมอีลิน ทางสื่อทีวี มูลค่า 26 ล้านบาท


3. บริษัท PROCTER & GAMBLE (THAILAND) มูลค่า 1,565 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว 13% โดยแคมเปญที่ใช้เม็ดเงินโฆษณาสูงสุดในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา คือ เฮดแอนด์โชว์เดอร์ เหนือกว่า 5 เท่า ทางสื่อทีวี มูลค่า 32 ล้านบาท รองลงมาคือ รีจอยส์ สีเขียวใหม่ ผมสลวย กลิ่นหอมติดยาวนาน ทางสื่อทีวี มูลค่า 28 ล้านบาท


กำลังโหลดความคิดเห็น