กรมเจ้าท่าผนึก กทม. พร้อมจิตอาสา ร่วมกำจัดผักตบชวาในแม่น้ำเจ้าพระยาตั้งแต่สะพานพระราม 7 ขึ้นไป นนทบุรี และปทุมธานี เพื่อกำจัดสิ่งกีดขวางการสัญจรและการระบายน้ำ
วันนี้ (13 ก.ย.) นายวิทยา ยาม่วง อธิบดีกรมเจ้าท่า (จท.) พร้อมด้วย นายสมพงษ์ จิรศิริเลิศ รองอธิบดีกรมเจ้าท่า (ด้านปฏิบัติการ) ร่วมกิจกรรมจิตอาสาแก้ไขปัญหาผักตบชวาในแม่น้ำเจ้าพระยาในพื้นที่กรุงเทพมหานคร โดยมี พลตำรวจเอก อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วยจิตอาสาพระราชทาน เจ้าหน้าที่กรมเจ้าท่าและกรุงเทพมหานคร ณ บริเวณลานพระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ ๘ สวนหลวงพระราม 8
นายวิทยา ยาม่วง อธิบดีกรมเจ้าท่า เปิดเผยว่า ผักตบชวาเป็นพืชที่เจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว ซึ่งปัจจุบัน กรมเจ้าท่า โดยสำนักพัฒนาและบำรุงรักษาทางน้ำ ได้ดำเนินการจัดเก็บผักตบชวาและวัชพืชอย่างต่อเนื่องได้จำนวนถึง 432,848 ตัน จากแผน 422,000 ตัน ซึ่งมากกว่าแผนคิดเป็น 102.5% ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในภารกิจของกรมเจ้าท่า ช่วยขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจการขนส่งทางน้ำให้เกิดความสะดวก รวดเร็ว ปลอดภัยในการสัญจรทางน้ำ เพิ่มประสิทธิภาพในการระบายน้ำในช่วงฤดูน้ำหลาก
สำหรับกิจกรรมในวันนี้ กรมเจ้าท่าได้นำเครื่องจักรร่วมบูรณาการจัดเก็บผักตบชวาและวัชพืชในแม่น้ำเจ้าพระยา ได้แก่ เรือเจ้าท่า ผ.3, 5, 6, 7, ผ.302 และ ผ.602 ดำเนินการจัดเก็บผักตบชวาและดำเนินการติดตั้งทุ่นตักขยะตั้งแต่ช่วงสะพานพระราม 7 ขึ้นไปทางจังหวัดนนทบุรี และปทุมธานี
สำหรับกิจกรรมดังกล่าว เป็นการร่วมมือจากหลายภาคส่วน เช่น กรมโยธาธิการและผังเมือง กรมชลประทาน สำนักงานการระบายน้ำ สำนักสิ่งแวดล้อม กรุงเทพมหานคร ได้ระดมเครื่องจักรกลประสิทธิภาพสูงและกำลังคนเข้าดำเนินการ โดยแบ่งพื้นที่ดำเนินการ 4 โซน ได้แก่ ช่วงที่ 1 ตั้งแต่พระราม 7 ขึ้นไปทางจังหวัดนนทบุรีและปทุมธานี ดำเนินการโดยสำนักพัฒนาและสิ่งแวดล้อมทางน้ำ กรมเจ้าท่า ช่วงที่ 2 ตั้งแต่สะพานพระราม 7 ถึงสะพานพระราม 8 ดำเนินการโดยสำนักสิ่งแวดล้อม ช่วงที่ 3 ตั้งแต่สะพานพระราม 8 ถึงสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า ดำเนินการโดยสำนักการระบายน้ำ และช่วงที่ 4 ตั้งแต่สะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้าถึงสะพานพระราม 9 ดำเนินการโดยสำนักสิ่งแวดล้อม (เรือเก็บขยะ จำนวน 15 ลำ เรือลำเลียงและขนวัชพืช จำนวน 2 ลำ เจ้าหน้าที่ จำนวน 50 คน)
ทั้งนี้ ในช่วงฤดูฝนของทุกๆ ปี ผักตบชวาจะขยายพันธุ์อย่างรวดเร็ว เป็นอุปสรรคต่อการระบายน้ำ กีดขวางการสัญจรทางน้ำ กรมเจ้าท่า พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจึงได้จัดกิจกรรมดังกล่าวเพื่อเปิดทางน้ำ ช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เกิดความสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย