นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เปิดเผยภายหลังการประชุมหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับการบริหารจัดการน้ำ และปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการ ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุม เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา ว่า กนอ. ได้รายงานถึงการบริหารจัดการเพื่อป้องกันการเกิดอุทกภัยในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมบางปู พร้อมทั้งเสนอแนวทางการระบายน้ำแบบบูรณาการในพื้นที่ที่เกี่ยวข้องของนิคมอุตสาหกรรมบางปู การเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำของคลองลำสลัดตลอดทั้งแนว เพื่อใช้เป็นทางระบายน้ำ หรือ Flood Way และการเตรียมขยายขนาดของท่อระบายน้ำด้วย
ขณะเดียวกัน กนอ. ได้ประสานไปยังกรมชลประทาน เพื่อขอยืมเครื่องสูบน้ำประสิทธิภาพสูงเพื่อใช้ในนิคมอุตสาหกรรมต่างๆ ที่อยู่ในพื้นที่ลุ่มต่ำ มีความเสี่ยงต่อการเกิดอุทกภัยในระยะนี้ ได้แก่ นิคมอุตสาหกรรมบางปู จังหวัดสมุทรปราการ นิคมอุตสาหกรรมบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ นิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี นิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง และนิคมอุตสาหกรรมบางชัน กรุงเทพมหานคร เป็นต้น รวมถึงกรณีล่าสุดที่นิคมอุตสาหกรรมเวลโกร์วด้วย
นายวีริศ กล่าวว่า สำหรับแผนการดำเนินงานที่นำเสนอนายกรัฐมนตรีในวันนี้ สอดคล้องกับผลการประชุมคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ครั้งที่ 3/2564 เมื่อวันที่ 10 ก.ย.ที่ผ่านมา ที่มี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ว่า กนอ. จะเร่งแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในนิคมอุตสาหกรรมต่างๆ ที่เป็นพื้นที่เศรษฐกิจ โดยมีหน่วยงานร่วมเข้าประชุมด้วย อาทิ สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) รายงานสถานการณ์น้ำภาพรวมทั้งประเทศ, กรมชลประทาน รายงานแนวทางแก้ไขปัญหาน้ำท่วมบางปูและหนองจอก, กรมทางหลวง และกรมโยธาธิการและผังเมือง เป็นต้น
“กนอ. ตระหนักถึงผลกระทบที่เกิดจากอุทกภัยในพื้นที่ที่ส่งผลต่อเศรษฐกิจและการลงทุน จึงดำเนินการตามมาตรการป้องกันอย่างเคร่งครัด เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบในวงกว้างทั้งต่ออุตสาหกรรมและชุมชน เช่น การบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ลุ่มต่ำเพื่อรองรับน้ำหลาก การปรับปรุงบริหารจัดการแหล่งน้ำ การปรับปรุงสิ่งกีดขวางทางน้ำ เป็นต้น นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังสนับสนุนให้ขยายคลองรอบนิคมอุตสาหกรรมบางปู เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการระบายน้ำลงสู่ทะเลอีกด้วย