ซุปเปอร์ฯ ยันมีพื้นที่ 2-3 จังหวัดพร้อมเข้าประมูลโรงไฟฟ้าขยะชุมชนโควตาใหม่ 400 เมกะวัตต์ ขณะที่ปี 65 ลุยก่อสร้างโรงไฟฟ้าขยะในมืออีก 4 โครงการ
นายจอมทรัพย์ โลจายะ ประธานคณะกรรมการ บริษัท ซุปเปอร์ เอนเนอร์ยี คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SUPER เปิดเผยว่า บริษัทฯ สนใจเข้าร่วมการประมูลโครงการโรงไฟฟ้าขยะชุมชน ภายใต้แผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย พ.ศ. 2561-2580 ฉบับปรับปรุงครั้งที่ 1 (PDP 2018 Revision 1) มีเพิ่มเป้าหมายการรับซื้อไฟฟ้าอีก 400 เมกะวัตต์ จากโควตาเดิม 500 เมกะวัตต์
โดยบริษัทอยู่ระหว่างเตรียมความพร้อม เบื้องต้นบริษัทมีที่ดินรองรับแล้ว 2-3 จังหวัด เช่น สมุทรปราการ ปทุมธานี และสมุทรสาคร ส่วนขนาดของโรงไฟฟ้านั้นขึ้นอยู่กับปริมาณขยะในแต่ละพื้นที่ คาดว่าโครงการละ 20 เมกะวัตต์
ปัจจุบันบริษัทมีโครงการโรงไฟฟ้าขยะในมือร่วม 64 เมกะวัตต์ ที่เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ (COD) แล้ว 2 โครงการ คือ ตั้งอยู่ที่ จ.พิจิตร และ จ.สระแก้ว และอยู่ระหว่างการก่อสร้างอีก 1 โครงการที่ จ.หนองคาย ขนาด 8 เมกะวัตต์ คาดว่าจะแล้วเสร็จในไตรมาส 1/2565
นอกจากนี้ ยังมีโรงไฟฟ้าขยะอีก 3 โครงการในมือที่เตรียมก่อสร้าง คือ โครงการโรงไฟฟ้าขยะขนาด 10 เมกะวัตต์ จ.เพชรบุรี ที่มีสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) แล้ว และอยู่ระหว่างกระบวนการรับฟังความคิดเห็นของประชาชน (ประชาพิจารณ์)
ส่วนโครงการโรงไฟฟ้าขยะ จ.นนทบุรี ขนาด 20 เมกะวัตต์ และ จ.นครศรีธรรมราช ขนาด 20 เมกะวัตต์ ได้เซ็นสัญญารับกำจัดขยะกับองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) และเทศบาลไปเรียบร้อยแล้ว เหลือดำเนินการจัดทำรายงานวิเคราะห์ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (EIA) จากนั้นจะเข้าสู่กระบวนการทำประชาพิจารณ์ แล้วจึงลงนาม PPA โดยทั้ง 3 โครงการนี้จะทยอยจ่ายไฟเชิงพาณิชย์ในช่วงปี 2566-2576
ด้านแหล่งเงินลงทุนโรงไฟฟ้าขยะนั้นจะขึ้นอยู่กับประเภทของเทคโนโลยีที่บรรจุไว้ในเงื่อนไขและหลักเกณฑ์การเปิดประมูลโครงการ (ทีโออาร์) โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 100-150 ล้านบาทต่อเมกะวัตต์
สำหรับโครงการโรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐานรากที่เปิดประมูลรับซื้อไฟฟ้า 150 เมกะวัตต์นั้น บริษัทไม่ได้เข้าร่วมการประมูล เนื่องจากมีการแข่งขันสูง และส่วนใหญ่เป็นการผลิตไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงชีวมวลและชีวภาพ ซึ่งต้องใช้วัตถุดิบเป็นสำคัญและบริษัทไม่มีความเชี่ยวชาญ