xs
xsm
sm
md
lg

“จุรินทร์” สั่งลุยทำแผนเร่งผลักดันส่งออกสินค้าที่ตอบโจทย์เมกะเทรนด์ของโลก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“จุรินทร์” สั่งเดินหน้ายุทธศาสตร์ “ตลาดนำการผลิต” มอบกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศผลักดันการส่งออกสินค้าที่ตอบโจทย์เมกะเทรนด์ของโลก ทั้งสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม อาหารอนาคต สินค้าฮาลาล สมุนไพรและเครื่องสำอาง พร้อมให้ทำแผนขยายตลาดสินค้า 3 กลุ่มที่คนต้องการช่วงโควิด-19 เร่งขายกลุ่มสินค้ารับเศรษฐกิจฟื้นตัว และบริการมูลค่าสูง

นายสมเด็จ สุสมบูรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมฯ ได้จัดทำแผนตามยุทธศาสตร์ “ตลาดนำการผลิต” ตามที่นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้สั่งการให้เร่งดำเนินการเพิ่มเติม โดยได้วางแผนในการส่งเสริมและผลักดันการส่งออกสินค้าที่ตอบโจทย์เมกะเทรนด์ของโลกในหลายด้าน ทั้งเรื่องการปกป้องสิ่งแวดล้อม ความต้องการสินค้าอาหารที่มีคุณภาพสูง อาหารฮาลาลสำหรับผู้บริโภคชาวมุสลิม และสินค้าที่มีแนวโน้มเติบโตสูง หลังจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจากผลกระทบจากโควิด-19

สำหรับสินค้าที่กรมฯ ประเมินว่ากำลังเป็นแนวโน้มใหม่ของโลก และเป็นเทรนด์ที่จะเป็นที่นิยมเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก ได้แก่ สินค้าไลฟ์สไตล์ ที่พัฒนามาจากของเหลือใช้ 2 รูปแบบ คือ ผลผลิตเหลือใช้ทางการเกษตร และขยะคุณภาพดีจากแหล่งอุตสาหกรรมที่นำมาแปรรูปและออกแบบเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่เชิงสร้างสรรค์ สินค้าในกลุ่มอาหารแปรรูป เกษตรแปรรูป และสินค้าที่ไม่ใช่อาหาร ที่ได้รับการพัฒนาด้านบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (circular packaging) เพื่อตอบโจทย์นโยบาย BCG โดยกรมฯ มีแผนที่จะดำเนินการพัฒนาและส่งเสริมด้านการตลาด ผ่านการประชาสัมพันธ์ เพื่อสร้างการรับรู้และสร้างภาพลักษณ์สินค้า BCG ของไทยในตลาดต่างประเทศเพิ่มขึ้น


นอกจากนี้ ยังมีอาหารอนาคต (future food) ที่ประกอบด้วย 4 กลุ่มหลัก คือ 1. อาหารฟังก์ชัน (functional food) 2. อาหารนวัตกรรมใหม่ (novel food) 3. อาหารทางการแพทย์ (medical food) และ 4. อาหารอินทรีย์ (organic food) ที่ตอบสนองพฤติกรรมผู้บริโภคในด้านต่างๆ เช่น การเพิ่มภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย เพื่อโภชนาการเฉพาะบุคคล เพื่อสุขภาพจิตที่ดี เพื่อโภชนาการรูปแบบใหม่ที่ไม่บริโภคอาหารที่มาจากเนื้อสัตว์ (Plant-based) และอาหารผู้สูงอายุ เป็นต้น โดยมีตลาดส่งออกหลัก เช่น สหรัฐฯ จีน ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย ส่วนอาหารมังสวิรัติ มีตลาดเป้าหมาย คือ อินเดีย

ส่วนสินค้าฮาลาล มีเป้าหมายจะเร่งส่งเสริมและผลักดันการส่งออกสินค้าในกลุ่มอาหาร แฟชั่นและเครื่องนุ่งห่ม เครื่องสำอาง โดยมีตลาดเป้าหมายในกลุ่มประเทศมุสลิม เช่น มาเลเซีย อินโดนีเซีย ซาอุดีอาระเบีย อียิปต์ UAE เป็นต้น และตลาดในประเทศที่ไม่ใช่มุสลิมแต่มีชาวมุสลิมอาศัยอยู่มาก เช่น อินเดีย จีน รัสเซีย เป็นต้น รวมทั้งจะเร่งผลักดันการส่งออกสินค้าในกลุ่มสมุนไพร เครื่องสำอาง ที่มีแนวโน้มเติบโตดี โดยมีตลาดเป้าหมาย ได้แก่ จีน เวียดนาม รัสเซีย

ขณะที่สินค้ากลุ่มอื่นๆ จะเน้นสินค้าที่มีความต้องการเพิ่มขึ้น ในช่วงที่ตลาดโลกฟื้นตัวจากสถานการณ์โควิด-19 ได้แก่ ชิ้นส่วนอุปกรณ์และส่วนประกอบยานยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า อัญมณีและเครื่องประดับ วัสดุก่อสร้าง เครื่องจักรกลการเกษตร สิ่งทอ ผลิตภัณฑ์ยาง และธุรกิจบริการมูลค่าสูง ได้แก่ ดิจิทัลคอนเทนต์ เช่น ภาพยนตร์ เกม แอนิเมชันคาแรกเตอร์ และธุรกิจบริการเพื่อสุขภาพ

อย่างไรก็ตาม กลุ่มสินค้าเดิมที่มีความต้องการเพิ่มสูงขึ้นในช่วงสถานการณ์โควิด-19 จำนวน 3 กลุ่มหลัก ได้แก่ 1. สินค้าเกษตร และอุตสาหกรรมการเกษตร โดยเฉพาะอาหาร ทั้งอาหารคน และอาหารสัตว์เลี้ยง 2. สินค้าที่เกี่ยวข้องกับการทำงานที่บ้าน และ 3. สินค้าที่เกี่ยวกับการป้องกันการติดเชื้อ และสินค้าเพื่อสุขภาพและอนามัย กรมฯ ยังจะเดินหน้าผลักดัน และจัดกิจกรรมส่งเสริมการส่งออกอย่างต่อเนื่อง เพราะสินค้าเหล่านี้ยังคงเป็นที่ต้องการ


กำลังโหลดความคิดเห็น