กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศโชว์ผลงานจัดกิจกรรมส่งเสริมการส่งออกผ่านช่องทางออนไลน์ช่วงครึ่งปี 64 ตามนโยบาย “จุรินทร์” สร้างรายได้แล้ว 10,152 ล้านบาท ทั้งการจัดงานแสดงสินค้าเสมือนจริง รูปแบบ Mirror Mirror การเจรจาจับคู่ธุรกิจออนไลน์ และยี่ปั๊ว ออนไลน์ คอนเนกต์ เล็งจัดต่อครึ่งปีหลังอีกเพียบ
นายสมเด็จ สุสมบูรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมฯ ได้สรุปผลการดำเนินการส่งเสริมการส่งออกผ่านช่องทางออนไลน์ตามนโยบาย นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ในช่วงครึ่งแรกปี 2564 ท่ามกลางข้อจำกัดทั้งเรื่องการเดินทาง การขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 โดยสามารถผลักดันการขายสินค้าไทยผ่านช่องทางออนไลน์ในรูปแบบต่างๆ ได้เป็นมูลค่า 10,152 ล้านบาท
ในด้านการจัดงานแสดงสินค้า ได้ใช้รูปแบบเสมือนจริงมาจัดงานแสดงสินค้าอาหารและเครื่องดื่ม THAIFEX Virtual Trade Show เมื่อวันที่ 25 พ.ค. 2564 และจะจัดต่อเนื่องถึงวันที่ 3 ต.ค. 2564 ซึ่งผลการจัดนัดหมายเจรจาธุรกิจออนไลน์ผ่านแพลตฟอร์ม www.thaifex-vts.com ระหว่างวันที่ 25-29 พ.ค. 2564 มียอดสั่งซื้อทันที 2,845,100 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 85 ล้านบาท และคาดการณ์สั่งซื้อภายใน 1 ปีมีมูลค่า 22,515,133 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 675 ล้านบาท ส่วนรูปแบบออฟไลน์ จะจัดวันที่ 29 ก.ย.-3 ต.ค. 2564 ณ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี คาดว่าจะมียอดขายเพิ่มขึ้นอีก
ส่วนการจัดกิจกรรมในรูปแบบ Mirror-Mirror ที่ผู้ประกอบการไม่ต้องเดินทางไป ส่งแค่สินค้าเพื่อไปจัดแสดง และใช้วิธีการเจรจาผ่านออนไลน์ โดยได้เข้าร่วมงานแสดงสินค้าอาหารนานาชาติแล้ว 2 งาน ที่ Gulfood 2021 ณ นครดูไบ วันที่ 21-25 ก.พ. 2564 และ Foodex Japan 2021 ณ เมืองชิบะ ญี่ปุ่น วันที่ 9-12 มี.ค. 2564 และยังมีการจัดงาน Top Thai Brands ที่กรุงฮานอย และโฮจิมินห์ มีผู้ประกอบการเข้าร่วม 213 ราย มีมูลค่าสั่งซื้อทันที 41.47 ล้านบาท และภายใน 1 ปี 602.52 ล้านบาท
ทั้งนี้ ยังมีผลการจัดงาน Bangkok Gems and Jewelry Fair วันที่ 22-24 มิ.ย. 2564 มีการเจรจาธุรกิจ 489 คู่ เป็นผู้ส่งออกไทย 317 ราย ผู้ซื้อ ผู้นำเข้า 368 ราย จาก 76 ประเทศ มีมูลค่า 576 ล้านบาท งาน MOVE 2021 ซึ่งเป็นการเร่งรัดส่งออกด้านมัลติมีเดียต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์ แอนิเมชัน หรือดิจิทัลคอนเทนต์ จัดขึ้นวันที่ 23-25 มิ.ย. 2564 มีการลงนามซื้อขาย 359 คู่ เป็นผู้ผลิตไทย 50 ราย ต่างประเทศ 80 รายจาก 17 ประเทศ มูลค่า 1,586 ล้านบาท และงานคอนเทนต์ Y วันที่ 29-30 มิ.ย. 2564 มีผู้ประกอบการไทยเข้าร่วมจำนวน 10 ราย เกิดการนัดหมายเจรจาธุรกิจรวมกว่า 158 นัดหมาย ทำรายได้กว่า 360 ล้านบาท
ขณะที่การจัดโครงการยี่ปั๊วออนไลน์ คอนเนกต์ วันที่ 24-28 พ.ค. 2564 ที่ดึงกลุ่มผู้ซื้อ ผู้นำเข้า ผู้จัดจำหน่าย ทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงแพลตฟอร์มที่มีศักยภาพในต่างประเทศที่มีความชำนาญในการขายสินค้าทางออนไลน์มาเลือกซื้อสินค้าไทย มีจำนวน 52 ราย เช่น สหรัฐฯ จีน และอินเดีย มีมูลค่าซื้อขาย 288 ล้านบาท
สำหรับผลการจัดกิจกรรมเจรจาการค้าออนไลน์ (Online Business Matching-OBM) ระหว่างผู้ซื้อ ผู้นำเข้าในต่างประเทศ กับผู้ส่งออกไทย ในช่วง 5 เดือน ปี 2564 กรมฯ ได้จัด OBM ไปแล้วรวม 37 ครั้งในสินค้าต่างๆ เช่น อาหาร ผลไม้ สินค้าฮาลาล สินค้าเครื่องมือแพทย์ ชิ้นส่วนยานยนต์ เป็นต้น สร้างยอดขายรวม 5,937.85 ล้านบาท ในจำนวนนี้เป็นยอดขายสินค้าอาหารและผลไม้ 4,209.05 ล้านบาท
นายสมเด็จกล่าวว่า ในช่วงครึ่งปีหลังจะมีการจัดงานแสดงสินค้าออนไลน์แบบเสมือนจริงและไฮบริดอีกหลายงาน เช่น งาน THAILOG LOGISTIX Virtual Exhibition งาน TOP Thai Brands, Thailand Week, Mini Thailand Week รวม 15 งาน ที่กัมพูชา ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย เมียนมา อินเดีย และบังกลาเทศ และเข้าร่วมงานแสดงสินค้านานาชาติในต่างประเทศในรูปแบบ Mirror-Mirror เช่น งานดิจิทัลคอนเทนต์ ที่สิงคโปร์ และเกาหลีใต้ ชิ้นส่วนยานยนต์ ที่ลาสเวกัส และดูไบ และสินค้าอาหารที่ออสเตรเลีย หนานหนิง และเซี่ยงไฮ้ เป็นต้น
นอกจากนี้ จะจัดกิจกรรมเจรจาการค้าออนไลน์อีก 5 ครั้ง ได้แก่ อาหารสัตว์เลี้ยง วันที่ 3-5 ส.ค. 2564 สินค้าอาหาร เครื่องใช้ไฟฟ้า ชิ้นส่วนยานยนต์ เครื่องจักรกลการเกษตร เครื่องมือแพทย์ ผลิตภัณฑ์สุขภาพและความงาม สินค้าแฟชั่นและไลฟ์สไตล์ในภูมิภาคตะวันออกกลาง แอฟริกา และละตินอเมริกา วันที่ 3 ส.ค. 2564 ยางพาราและผลิตภัณฑ์ยาง วันที่ 26-27 ส.ค. 2564 ชิ้นส่วน อะไหล่ และอุปกรณ์ตกแต่งรถยนต์ วันที่ 7-9 ก.ย. 2564 และเครื่องมือแพทย์ เดือน ก.ย. 2564 และยังจะจัดในรูปแบบออฟไลน์และออนไลน์ร่วมกับผู้นำเข้า ห้างสรรพสินค้า ซูเปอร์มาร์เกต และแพลตฟอร์มชั้นนำในประเทศเป้าหมาย เช่น งาน Thai Fruits Golden Months ในเมืองต่างๆ ของจีน