“อธิรัฐ" สั่งเตรียมรับ "ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์" 1 ก.ค.นี้ กำหนดด่านตรวจคัดกรองเข้า-ออก 3 ท่า "ท่าเทียบเรืออ่าวฉลอง ท่าเทียบเรือรัษฎา ท่าเทียบเรืออ่าวปอ คนไทยไปเที่ยวต้องฉีดวัคซีนแล้ว 2 เข็ม ผู้ประกอบการท่าเรือ เรือ ต้องเข้มมาตรการสาธารณสุข
นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ตามที่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบให้เปิดพื้นที่นำร่องรับนักท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ตเพื่อเป็นต้นแบบขยายไปสู่เมืองท่องเที่ยวอื่นๆ ดังนั้น เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมและสร้างความมั่นใจในการเดินทางท่องเที่ยว โดยเฉพาะการท่องเที่ยวทางน้ำเพราะจังหวัดภูเก็ตมีแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลที่สำคัญและมีชื่อเสียงในระดับโลก ตนจึงได้สั่งการให้กรมเจ้าท่า (จท.) ในฐานะหน่วยงานกำกับดูแลภาคการคมนาคมทางน้ำเร่งจัดทำแผนการเตรียมความพร้อมเปิดพื้นที่รับนักท่องเที่ยวต่างชาติ (Phuket Sandbox) ของจังหวัดภูเก็ตในวันที่ 1 กรกฎาคม 2564
ในการกำหนดมาตรการตรวจคัดกรองการเดินทางเข้า-ออกทางน้ำโดยบูรณาการร่วมกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องภายใต้มาตรการป้องกันและควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) โดย กำหนดให้ท่าเทียบเรือโดยสารจำนวน 3 ท่าเป็นด่านตรวจทางน้ำเท่านั้น คือ 1. ท่าเทียบเรืออ่าวฉลอง ตำบลฉลอง อำเภอเมืองภูเก็ต 2. ท่าเทียบเรือรัษฎา ตำบลรัษฎา อำเภอเมืองภูเก็ต 3. ท่าเทียบเรืออ่าวปอ ตำบลป่าคลอก อำเภอถลาง
สำหรับผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ และพำนักอยู่ในจังหวัดภูเก็ตตามกำหนด 14 คืนที่ประสงค์จะเดินทางออกจากจังหวัดภูเก็ตทางเรือ ให้เดินทางผ่านท่าเรือที่กำหนดเป็นด่านตรวจทางน้ำเท่านั้น แต่ในกรณีเดินทางโดยเรือยอชต์ให้เดินทางออกจากท่าเรือที่กำหนด คือ
1. ท่าเทียบเรือยอชต์ เฮเว่น มารีน่า 2. ท่าเทียบเรืออ่าวปอ แกรนด์ มารีน่า 3. ท่าเทียบเรือภูเก็ต โบ๊ทลากูน 4. ท่าเทียบเรือรอยัล ภูเก็ต มารีน่า 5. ท่าเทียบเรือมารีน่าอ่าวฉลอง
โดยต้องแจ้งสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาภูเก็ต หรือศูนย์ปฏิบัติการติดตามและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เพื่อรองรับนักท่องเที่ยว จังหวัดภูเก็ต (ศปก.Phuket Sandbox) ก่อนออกเดินทางไม่น้อยกว่า 6 ชม.
ส่วนผู้เดินทางมาจากต่างประเทศที่ประสงค์จะเดินทางท่องเที่ยวในน่านน้ำจังหวัดภูเก็ตให้เดินทางผ่านเฉพาะท่าเรือที่กำหนด โดยต้องปฏิบัติดังนี้ 1. ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันและควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) 2. ติดตั้งระบบ Tracing Application “Morchana” บนสมาร์ทโฟนและอนุญาตให้เข้าถึงตำแหน่ง (Share Location) 3. เรือโดยสารจะต้องติดตั้งระบบแสดงตนอัตโนมัติตามระเบียบของกรมเจ้าท่า และติดตั้งวิทยุสื่อสาร VHF 4. เจ้าของเรือหรือผู้ควบคุมเรือหรือตัวแทนเจ้าของเรือต้องแจ้งเรือเข้า-ออกท่าเรือเพื่อให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบก่อนปล่อยเรือออกจากท่าหรือเมื่อเรือเข้าเทียบท่าเสร็จเรียบร้อย 5. ให้ผู้ประกอบการท่าเรือหรือผู้บริหารท่าเรือ สรุปรายงานข้อมูลเรือและข้อมูลผู้โดยสารเข้า-ออกทุกวันให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทราบ
ส่วนคนไทยจากต่างจังหวัด หรือคนต่างชาติที่พำนักในประเทศไทยที่ประสงค์เดินทางเข้าจังหวัดภูเก็ตผ่านช่องทางทางน้ำ (ท่าเรือ) ทุกท่าในจังหวัดภูเก็ต ให้ผู้เดินทางยกเว้นเด็กอายุไม่เกิน 6 ขวบ ต้องมีคุณสมบัติอย่างหนึ่งอย่างใด และต้องปฏิบัติ ดังต่อไปนี้
1 .ต้องเป็นผู้ที่ได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ครบ 2 เข็ม หรือครบโดสตามจำนวนวัคซีนแต่ละชนิด หรือได้รับวัคซีนชนิด AstraZeneca จำนวน 1 เข็ม มาแล้วเป็นระยะเวลาอย่างน้อย 15 วัน หรือ
2.เป็นผู้ที่หายจากอาการป่วยด้วยโรคโควิด-19 มาแล้วไม่เกิน 90 วัน หรือ
3. ได้รับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยวิธีการ RT - PCR หรือวิธีการ Antigen Test ไม่เกิน 7 วัน นับแต่วันที่ได้รับการตรวจ
4. ต้องดาวน์โหลดและติดตั้งแอปพลิเคชัน "หมอชนะ" บนสมาร์ทโฟน และยินยอมเปิดแชร์ตำแหน่งที่ตั้ง (Location) ตลอดระยะเวลาที่อยู่ในจังหวัดภูเก็ต
สำหรับผู้ประกอบการท่าเรือ นายเรือ ผู้ควบคุมเรือ คนประจำเรือ ลูกเรือ พนักงานในเรือและผู้โดยสารต้องปฏิบัติตามประกาศของกรมเจ้าท่าเรื่องมาตรการควบคุมควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)
โดยผู้ประกอบการเรือ เจ้าของเรือ นายเรือ และผู้ควบคุมเรือปฏิบัติ ดังนี้ 1. ต้องทำความสะอาดตัวเรือด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อโรคเป็นประจำทุกครั้งที่ให้บริการเรียบร้อยแล้ว
2. จัดวางแอลกอฮอล์หรือเจลล้างมือไว้บนเรือ
3. นายเรือและผู้ควบคุมเรือต้องสวมหน้ากากอนามัยหรือสวมหน้ากากผ้าตลอดเวลาขณะปฏิบัติหน้าที่
4. ต้องควบคุมและกำกับให้ผู้ปฏิบัติหน้าที่บนเรือและผู้โดยสารสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าทุกคน
5. กำหนดให้มีการจัดที่นั่งหรือที่ยืน เว้นระยะนั่งหรือยืนห่างกันอย่างน้อยหนึ่งเมตรเพื่อป้องกันการติดต่อสัมผัสหรือแพร่เชื้อโรคทางฝอยละอองน้ำลาย
6. ควบคุมจำนวนผู้โดยสารให้บรรทุกผู้โดยสารไม่เกินจำนวนตามที่ใบอนุญาตใช้เรือกำหนด
7. กรณีที่มีการใช้เครื่องปรับอากาศในเรือโดยสารต้องมีระบบระบายอากาศที่เหมาะสมและต้องมีการป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรค
ผู้ประกอบการท่าเรือปฏิบัติ ดังนี้ 1. ทำความสะอาดท่าเรือด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อโรคเป็นประจำทุกวัน
2. จัดวางแอลกอฮอล์หรือเจลล้างมือประจำบนท่าเรือ 3. ให้พนักงานที่ปฏิบัติหน้าที่ประจำท่าเรือสวมใส่หน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าทุกคน 4. นั่งหรือยืนห่างกันอย่างน้อยหนึ่งเมตรเพื่อป้องกันการติตต่อสัมผัสหรือแพร่เชื้อโรคทางฝอยละอองน้ำลาย
5. ให้คัดกรอง (วัดอุณหภูมิ) คนประจำเรือ และผู้โดยสาร หากพบผู้ที่มีไข้สูงเกิน 37.5 องศาเซลเซียส หรือมีอาการผิดปกติทางเดินหายใจ ให้ติดต่อแจ้งสายด่วน กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ทางโทรศัพท์หมายเลข 1422
สำหรับผู้โดยสารปฏิบัติ ดังนี้
1.สวมใส่หน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าทุกคน
2. ให้ล้างมือด้วยแอลกอฮอล์ หรือเจลล้างมือ
3. นั่งหรือยืนห่างกันอย่างน้อยหนึ่งเมตรเพื่อป้องกันการติดต่อสัมผัส หรือแพร่เชื้อโรคทางฝอยละอองน้ำลาย
4. เพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสาร ให้ผู้โดยสารปฏิบัติตามคำแนะนำของนายเรือหรือผู้ควบคุมเรือ เจ้าหน้าที่ของรัฐ และพนักงานของผู้ประกอบการเรือ
ทั้งนี้ ได้เน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ทุกคนปฏิบัติงานด้วยความเข้มงวดมากกว่าในสถานการณ์ปกติ เพื่อให้ผู้ที่เดินทางมาท่องเที่ยวได้รับความปลอดภัยสูงสุด รวมทั้งให้ใส่ใจในการดูแลเพื่อให้เกิดความประทับใจในการต้อนรับที่ดีของประเทศไทย