รฟท.ชี้แจงข้อเท็จจริงประมูลก่อสร้างรถไฟ “เด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ” ถูกต้องตามระเบียบทุกประการ ชี้กล่าวหาฮั้วเสนอราคาต้องมีหลักฐาน เผยผลประมูลรัฐได้ประโยชร์สูงสุดแล้ว หากประมูลใหม่ต้องเพิ่มราคากลางกว่า 2.6 พันล้าน เหตุราคาหล็กพุ่ง 40% ปรับตัวสูงขึ้นประมาณ 40% จะส่งผลให้ราคากลางใหม่สูงขึ้นเกินกว่ากรอบวงเงินที่ได้รับการอนุมัติจาก ครม.
วันนี้ (29 พ.ค. 2564) การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ได้ชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีที่สื่อมวลชนบางสื่อทำการเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับการประกวดราคาโครงการก่อสร้างทางรถไฟ สายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ คลาดเคลื่อนและไม่ถูกต้อง ว่า รฟท.ดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 31 ก.ค. 61 ที่อนุมัติให้ รฟท.ดำเนินโครงการก่อสร้างทางรถไฟสายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ ในวงเงินรวม 85,345.00 ล้านบาท ระยะเวลาดำเนินการ 7 ปี
โดยดำเนินการประกวดราคาจ้างก่อสร้างด้วยวิธีการอิเล็กทรอนิกส์ตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 โดยให้ รฟท.แบ่งสัญญาการก่อสร้างออกเป็น 3 สัญญา ประกอบด้วย
สัญญาที่ 1 ช่วงเด่นชัย-งาว ค่าก่อสร้าง 26,704.00 ล้านบาท
สัญญาที่ 2 ช่วงงาว-เชียงราย ค่าก่อสร้าง 28,735.00 ล้านบาท
สัญญาที่ 3 ช่วงเชียงราย-เชียงของ ค่าก่อสร้าง 17,482.00 ล้านบาท
หมายเหตุ วงเงินรวม 3 สัญญา 72,921.00 ล้านบาท
ราคากลาง : เป็นราคาตั้งแต่ปี 2561 ซึ่งปัจจุบันปี 2564 ราคาก่อสร้างได้พุ่งสูงขึ้นมาก
ในส่วนของการจัดทำราคากลาง รฟท.ได้คำนึงถึงประโยชน์ของภาครัฐและประเทศชาติเป็นสำคัญ โดยได้มอบหมายให้บริษัทที่ปรึกษาจัดทำรายละเอียดราคาในปี 59 ซึ่งในปี 61 ครม.อนุมัติให้ดำเนินการก่อสร้างเป็นวงเงินรวม 72,921.00 ล้านบาท และได้ปรับปรุงแบบให้สอดคล้องกับสภาพปัจจุบันและจัดทำราคากลางโดยใช้ฐานราคาเดือน ต.ค. 63 ซึ่งฐานราคาดังกล่าวสูงกว่าฐานราคาในปี 59 เพียงเล็กน้อย
ทั้งนี้ หากพิจารณาราคาเหล็กในวันที่ยื่นเสนอราคาพบว่าราคาเหล็กเพิ่มสูงขึ้นจากเดือน ต.ค. 63 ประมาณ 40% ซึ่งจะทำให้ราคาค่าก่อสร้างเพิ่มขึ้น 950, 1,080 และ 670 ล้านบาท สำหรับสัญญาที่ 1, 2 และ 3 ตามลำดับ แต่จากผลการเสนอราคาเบื้องต้น ผู้เสนอราคาต่ำสุดยังคงเสนอราคาต่ำกว่าราคากลางในทุกสัญญา จากข้อเท็จจริงนี้ทางราชการไม่ได้เสียประโยชน์แต่อย่างใด ซึ่งราคากลางดังกล่าวเป็นที่ยอมรับของภาครัฐ และดำเนินการตามระเบียบทุกขั้นตอน
ขั้นตอนการจัดทำ TOR : ถูกต้องตามกฎระเบียบ พร้อมมีบุคคลภายนอกเข้าร่วมสังเกตการณ์ ติดตาม และตรวจสอบ
รฟท.ได้จัดทำร่าง TOR ลงเผยแพร่ทางเว็บไซต์ เปิดโอกาสให้มีการรับฟังคำวิจารณ์ ปรับปรุง TOR จำนวน 5 ครั้ง เพื่อชี้แจงผู้วิจารณ์จนหมดข้อสงสัย พร้อมทำการเผยแพร่ผ่านช่องทางเว็บไซต์เพื่อให้เกิดความโปร่งใสเป็นธรรม ตรวจสอบได้ (ตามพระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 และระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560) นอกจากนี้ กระบวนการดังกล่าวยังอยู่ภายใต้โครงการข้อตกลงคุณธรรม ซึ่งเป็นความร่วมมือป้องกันการทุจริตในการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ โดยมีผู้สังเกตการณ์ที่กรมบัญชีกลางแต่งตั้งจำนวน 3 คนเข้าร่วมสังเกตการณ์ติดตาม ตรวจสอบทุกขั้นตอนตั้งแต่ขั้นตอนการจัดทำร่างขอบเขตงาน (TOR) กระบวนการประกวดราคา กระบวนการก่อสร้าง ตลอดจนถึงการเบิกจ่ายเงินงวดงานจนโครงการแล้วเสร็จ ซึ่งปัจจุบันยังอยู่ในขั้นตอนของการประเมินคุณสมบัติ ข้อเสนอด้านเทคนิคของผู้ยื่นเสนอราคา และยังมีขั้นตอนที่ต้องดำเนินการต่างๆ อีกหลายขั้นตอน
รฟท.เผยแพร่ประกาศและเอกสารประกวดราคาตามระเบียบทุกประการ
รฟท.ได้ดำเนินการเผยแพร่ประกาศและเอกสารประกวดราคาลงเผยแพร่เมื่อวันที่ 19 มี.ค.-17 พ.ค. 64 รวมระยะเวลา 60 วัน ซึ่งผู้ที่มีความประสงค์จะเสนอราคาสามารถสอบถามรายละเอียดขั้นตอนต่างๆ เพิ่มเติมได้ โดยมีผู้ส่งคำถาม ระหว่าง 19 มี.ค.-2 เม.ย. 64 จำนวน 322 คำถาม และ รฟท.ตอบชี้แจง
เมื่อวันที่ 11 พ.ค. 64 ตามขั้นตอน โดยรวบรวมคำถามเข้าสู่คณะกรรมการร่าง TOR พิจารณาและนำขึ้นสู่ระบบ e-GP เพื่อชี้แจงและทำการเผยแพร่
หมายเหตุ : ระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 ข้อ 48 และ 51/กำหนดเผยแพร่ไม่น้อยกว่า 20 วันทำการ
กระบวนการ e-Bidding : ขั้นตอนถูกต้อง ตามระเบียบทุกประการ
การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ได้ดำเนินการประกวดราคาโครงการก่อสร้างทางรถไฟ สายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ ระยะทาง 323 กิโลเมตร (กม.) วงเงินก่อสร้าง 72,921 ล้านบาท อย่างโปร่งใส โดยยึดหลักการปฏิบัติตามระเบียบ ข้อบังคับ และกฎหมายอย่างเคร่งครัด โดยวิธีการประกวดราคาแบบ e-Bidding
ซึ่งตามระเบียบการจัดซื้อจัดจ้างของทางราชการ ได้พัฒนารูปแบบจากการประกวดราคาโดยวิธีการยื่นซองการประกวดราคาแบบ e-Auction จนกระทั่งเป็นการประกวดราคาแบบ e-Bidding ซึ่งถือว่าเป็นระเบียบข้อบังคับที่มีความโปร่งใสมากที่สุดในปัจจุบัน โดยการประกวดราคาโครงการรถไฟทางคู่ครั้งนี้ รฟท.ได้ถือปฏิบัติตามขั้นตอนการประกวดราคาแบบ e-Bidding และปฏิบัติตามพระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 และระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 อย่างเคร่งครัด
รฟท.เปิดโอกาสให้ทุกคนสามารถเข้ามาแข่งขันได้ ด้วยการเข้าร่วมเป็นกิจการร่วมค้า
สำหรับเส้นทางสายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ มีงานอุโมงค์อยู่ด้วยทุกสัญญา ซึ่งเป็นงานเฉพาะทางการกำหนดผลงานของผู้ยื่นข้อเสนอจึงต้องปฏิบัติตามระเบียบของกรมบัญชีกลางที่ผู้เสนอราคาต้องเคยมีผลงานประเภทเดียวกันกับงานจ้างก่อสร้างนี้ แต่เพื่อเป็นการเปิดกว้างให้ผู้ประกอบการทั่วไปได้มีโอกาสเข้าร่วมเสนอราคาด้วย การรถไฟฯ จึงกำหนดให้ผู้ยื่นข้อเสนอดังกล่าวสามารถเข้าร่วมงานกันได้ในลักษณะกิจการร่วมค้า ซึ่งการรถไฟฯ ได้ปฏิบัติตามหนังสือแจ้งเวียนจากกรมบัญชีกลาง เลขที่ กค (กวจ.) 0405.2/ว.581 ลงวันที่ 7 ธ.ค. 63 เรื่อง การพิจารณาคุณสมบัติของผู้ยื่นข้อเสนอที่เป็นกิจการร่วมค้า โดยผู้ที่ยื่นข้อเสนอจะต้องซื้อเอกสารประกวดราคาทุกราย ซึ่งคุณสมบัติที่กำหนดนี้จะช่วยให้ผู้ประกอบการทั่วไปที่ไม่มีความเชี่ยวชาญงานเฉพาะทางสามารถเข้าร่วมงานประกวดราคาได้ด้วย ส่งผลให้การประกวดราคาดังกล่าวมีจำนวนผู้ซื้อเอกสารประกวดราคารวมมากถึง 18 ราย ประกอบด้วย
สัญญาที่ 1 ช่วงเด่นชัย-งาว ระยะทาง 104 กิโลเมตร มีผู้เสนอราคาในนามกิจการร่วมค้า 2 กลุ่ม กลุ่มแรกประกอบด้วยผู้ซื้อเอกสารฯ 3 ราย กลุ่มที่สองประกอบด้วยผู้ซื้อเอกสารฯ 2 ราย รวม 5 ราย
สัญญาที่ 2 งาว-เชียงราย ระยะทาง135 กิโลเมตร มีผู้เสนอราคาในนามกิจการร่วมค้า 2 กลุ่ม กลุ่มแรกประกอบด้วยผู้ซื้อเอกสารฯ 3 ราย กลุ่มที่สองประกอบด้วยผู้ซื้อเอกสารฯ 1 ราย รวม 4 ราย
สัญญาที่ 3 เชียงราย-เชียงของ ระยะทาง 84 กิโลเมตร มีผู้เสนอราคาในนามกิจการร่วมค้า 2 กลุ่ม กลุ่มแรกประกอบด้วยผู้ซื้อเอกสารฯ 3 ราย กลุ่มที่สองประกอบด้วยผู้ซื้อเอกสารฯ 1 ราย รวม 4 ราย
การเข้าร่วมในกลุ่มกิจการร่วมค้า สมาชิกทุกรายต้องซื้อเอกสารเป็นการปฏิบัติตามคู่มือการเสนอราคาด้วยวิธีการประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (ตามระเบียบ e-Bidding) สำหรับผู้ค้ากับภาครัฐ กรณีกิจการร่วมค้า (Joint venture) ที่ไม่ได้จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลใหม่กับการพัฒนาธุรกิจการค้าและกิจการค้าร่วม (Consortium) และกำหนดเป็นเงื่อนไขในเอกสารประกวดราคา
การเปิดเผยราคากลางเป็นไปตาม พ.ร.บ.จัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 มาตรา 63
การเปิดเผยราคากลางเป็นไปตาม พ.ร.บ.จัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 มาตรา 63 ที่กำหนดให้หน่วยงานของรัฐประกาศรายละเอียดข้อมูลราคากลาง และการคํานวณราคากลางในระบบเครือข่ายสารสนเทศของกรมบัญชีกลางตามวิธีการที่กรมบัญชีกลางกำหนด ดังนั้น ผู้ยื่นข้อเสนอทุกรายทราบราคากลางตั้งแต่ขั้นตอนการเผยแพร่เพื่อรับฟังความคิดเห็น
ราคาวัสดุผันผวนปรับตัวสูงขึ้น ทำให้ต้นทุนการก่อสร้างสูงขึ้นด้วย
ตามระเบียบฯ ข้อ 166 (4) กำหนดให้ผู้ยื่นข้อเสนอหรือผู้เสนอราคาส่งหลักประกันการเสนอราคา
ในวันเสนอราคา และให้หน่วยงานของรัฐกำหนดให้ผู้ยื่นข้อเสนอ หรือผู้เสนอราคาต้องส่งต้นฉบับเอกสารดังกล่าว มาให้หน่วยงานของรัฐตรวจสอบความถูกต้อง ตามวันและเวลาที่กำหนด ภายใน 5 วันทำการ หากผู้ชนะการประกวดราคาไม่เข้าทำสัญญากับ รฟท. จะถูกริบหลักประกันการเสนอราคา และอาจถูกพิจารณาเป็นผู้ทิ้งงานได้อีกด้วย
ราคากลางเป็นประโยชน์สูงสุดต่อภาครัฐและประเทศชาติ
ราคากลางที่ใช้ฐานราคา ตุลาคม 2563 มีรายละเอียดดังนี้
สัญญาที่ 1 ราคากลาง 26,599.16 ล้านบาท
สัญญาที่ 2 ราคากลาง 26,913.78 ล้านบาท
สัญญาที่ 3 ราคากลาง 19,406.31 ล้านบาท
รวมเป็นเงิน 72,919.25 ล้านบาท ไม่เกินกรอบวงเงิน 72,921.00 ล้านบาท
หากใช้ฐานราคาเหล็ก ณ วันยื่นข้อเสนอเป็นราคากลางจะทำให้ราคากลางสูงขึ้น มีรายละเอียดดังนี้
สัญญาที่ 1 ราคากลาง 27,546.23 ล้านบาท
สัญญาที่ 2 ราคากลาง 27,993.63 ล้านบาท
สัญญาที่ 3 ราคากลาง 20,072.65 ล้านบาท
รวมเป็นเงิน 75,612.51 ล้านบาท เกินกรอบวงเงิน 72,921.00 ล้านบาท
หลังจากวันที่ทำราคากลาง ราคาเหล็กในท้องตลาดปรับตัวสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่การรถไฟฯ ไม่ได้ปรับราคากลางให้เป็นราคาปัจจุบันเพราะงานเข้าสู่กระบวนการจัดซื้อจัดจ้างแล้ว หากปรับราคากลางใหม่
จะทำให้ราคาต้องสูงขึ้นและต้องเริ่มกระบวนการขออนุมัติปรับกรอบวงเงินใหม่ถึงจะเริ่มการจัดซื้อจัดจ้างตามแนวทางที่ รฟท.ได้ดำเนินการนี้ จึงถือได้ว่าเป็นประโยชน์สูงสุดต่อภาครัฐและประเทศชาติ
หากพบหลักฐานการสมยอมการเสนอราคาแจ้งได้ที่ รฟท. และ รฟท.พร้อมให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่
ก่อนจะมีการกล่าวหาในเรื่องใดๆ ต้องมีพยานหลักฐานที่ชัดเจน ตามระเบียบของการรถไฟฯ สามารถตรวจสอบในประเด็นของการเป็นผู้มีผลประโยชน์ร่วมกันได้ รวมถึงการสมยอมการเสนอราคาซึ่งหากมีหลักฐานที่ชัดเจนก็สามารถดำเนินการตามความผิดนั้นได้
การกล่าวอ้างว่ามีการฮั้วประมูลจะส่งผลกระทบโดยตรงต่อเกียรติคุณและชื่อเสียงของการรถไฟแห่งประเทศไทย เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องผู้สังเกตการณ์ที่กรมบัญชีกลางแต่งตั้ง บริษัทที่เข้าร่วมประมูล รวมถึงบริษัทที่เข้ามาซื้อซองทุกราย
ในกรณีที่มีหลักฐานการสมยอมการเสนอราคาที่ชัดเจน รฟท.ยินดีที่จะเป็นอีกหนึ่งหน่วยงานในการให้ความร่วมมือแจ้งไปยังกรมบัญชีกลาง และจะประสานส่งเรื่องไปยังหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องด้วย
ผลกระทบที่จะเกิดขึ้นหากมีการประมูลใหม่
หากประกวดราคาใหม่ต้องปรับราคากลางให้เป็นราคาปัจจุบัน ซึ่งตามข้อเท็จจริงราคาเหล็ก
ในท้องตลาดปรับตัวสูงขึ้นประมาณ 40% จะส่งผลให้ราคากลางใหม่สูงขึ้นเกินกว่ากรอบวงเงินที่ได้รับการอนุมัติจาก ครม. และต้องเริ่มกระบวนการขออนุมัติปรับกรอบวงเงินใหม่ จึงจะเริ่มการจัดซื้อจัดจ้างได้ ทำให้ภาครัฐและประเทศชาติได้รับความเสียหายจากการที่ต้องใช้งบประมาณมากขึ้น
ในส่วนภาพรวมของการพัฒนาประเทศ จะทำให้สูญเสียโอกาสในการพัฒนาทางด้านการคมนาคม การท่องเที่ยว เศรษฐกิจ การค้าชายแดน เส้นทางรถไฟสายใหม่ที่จะเชื่อมโยงการค้าระเบียงเศรษฐกิจ
แนวเหนือ-ใต้ ที่จะสามารถช่วยเพิ่มช่องทางการส่งออกสินค้าจากไทยไปลาว จีน เวียดนาม และเขตเศรษฐกิจตามนโยบายของรัฐบาล ทำให้ประเทศสูญเสียโอกาสในการแข่งขันและประโยชน์จากการเป็นประชาคมอาเซียนอีกด้วย