xs
xsm
sm
md
lg

ส.ค้าปลีกผนึก 5 แบงก์จัดซอฟต์โลน เฟสแรกให้ SME พันรายร่วม 5 พันล้าน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ผู้จัดการรายวัน 360 - สมาคมผู้ค้าปลีกไทยรวมพลังเชิงรุกกับธนาคารพาณิชย์ ประกาศผลสำเร็จในเฟสแรกปล่อยสินเชื่อฟื้นฟูธุรกิจมากกว่า 5,000 ล้านบาทให้ SME ฝ่าวิกฤตโควิด

นายญนน์ โภคทรัพย์ ประธานสมาคมผู้ค้าปลีกไทย เปิดเผยว่า วันนี้ (27 พ.ค. 64) ทางสมาคมผู้ค้าปลีกไทยได้มีการประชุมกับสมาชิกสมาคมและภาคีเครือข่ายกว่า 70 บริษัท ซึ่งมีผู้ประกอบการ SME ที่อยู่ในห่วงโซ่การค้ามากกว่า 100,000 ราย นับเป็น 40% ของมูลค่าการบริโภคค้าปลีกทั้งประเทศ หรือคิดเป็น 12% ของ GDP ร่วมกับธนาคารพาณิชย์รายใหญ่ 5 รายในเฟสแรก คือ ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกรุงไทย และธนาคารออมสิน เพื่อเชื่อมโยงให้ผู้ประกอบการ SME สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุน (Soft Loan) ผ่าน Digital Factoring Platform 
โดยสมาคมผู้ค้าปลีกไทยเป็นศูนย์กลางเชื่อมต่อข้อมูลของผู้ผลิต ผู้จัดจำหน่าย เพื่อช่วยให้การพิจารณาสินเชื่อแก่ผู้ประกอบการ SME และเกษตรกรได้ง่าย สะดวก และรวดเร็ว โดยเฉพาะในสภาวะวิกฤตโควิด-19 ที่ SME ทั่วประเทศขาดสภาพคล่องเป็นอย่างมาก และต้องการความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน

สมาคมผู้ค้าปลีกไทยได้เริ่มโครงการแซนด์บ็อกซ์ ซึ่งเป็นการทำงานร่วมกันระหว่าง เซ็นทรัล รีเทล (CRC) และธนาคารกสิกรไทย (KBANK) โดยการนำข้อมูลการทำธุรกิจระหว่างบริษัทฯ กับซัปพลายเออร์ หรือคู่ค้าเบื้องต้นกว่า 4,000 รายของเซ็นทรัล รีเทล เพื่อใช้ประกอบในการพิจารณาสินเชื่อของธนาคารกสิกรไทย ผ่านแพลตฟอร์มฯ และได้อนุมัติสินเชื่อกลุ่มแรกให้ SME มากกว่า 1,000 รายในวงเงินรวม 5,000 ล้านบาท ซึ่งกว่า 70% ของ SME เหล่านี้ยังไม่เคยเข้าถึงแหล่งเงินทุน Soft Loan มาก่อน

แพลตฟอร์มนี้ทำให้ธนาคารฯ สามารถพิจารณาปล่อยสินเชื่อได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น บนต้นทุนและความเสี่ยงที่ต่ำ และ SME สามารถชำระหนี้แบบอัตโนมัติผ่านช่องทางดิจิทัล เพราะฉะนั้น ธนาคารจึงสามารถเสนอสินเชื่อวงเงินที่สูงและอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำ
 
ความสำเร็จของโครงการนี้ได้รับการสนับสนุนอย่างดียิ่งจากภาครัฐ ธนาคารแห่งประเทศไทย และสมาคมธนาคารไทย ซึ่งจะนำต้นแบบนี้ขยายไปสู่ SME มากกว่า 100,000 รายทั่วประเทศของสมาชิกสมาคมผู้ค้าปลีกไทยและภาคีเครือข่ายภายในสิ้นปี 2564 และในเฟสต่อไปจะขยายผลไปถึงสมาชิกของทุกสมาคม ตั้งแต่สมาคมศูนย์การค้าไทย สมาคมภัตตาคารไทย สมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย เป็นต้น นอกจากนี้ยังได้รับความร่วมมืออย่างเต็มที่จากธนาคารพาณิชย์ของรัฐและเอกชนเพื่อช่วยให้ SME ไทยสามารถพลิกฟื้น เสริมสภาพคล่อง และได้แต้มต่อในการดำเนินธุรกิจ

“การผนึกกำลังสำคัญของทุกภาคส่วนในครั้งนี้ เราทุกคนมีความตั้งใจและทำอย่างจริงใจเพื่อให้เกิดผลลัพธ์ได้จริงและรวดเร็วบนจุดมุ่งหมายเดียวกัน SME ไทยต้องรอดโดยการช่วยเหลือ SME ให้เข้าถึงแหล่งเงินทุนได้อย่างง่ายและทั่วถึง และสามารถก้าวพ้นวิกฤตโควิดในครั้งนี้ไปได้ด้วยกันโดยเร็วที่สุด” นายญนน์กล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น