xs
xsm
sm
md
lg

‘โอสถสภา’ สวนโควิด-19 ดันยอดขายและกำไรพุ่งทำนิวไฮ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



‘บมจ.โอสถสภา (OSP)’ โชว์ศักยภาพการดำเนินงานไตรมาส 1Q’64 สุดแกร่ง สร้างนิวไฮทั้งยอดขายและกำไรแม้ต้องเผชิญการระบาดของโควิด-19 โดยมีรายได้รวมจากการขาย 6,776 ล้านบาท กำไรสุทธิอยู่ที่ 1,004 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จากการบริหารจัดการที่ยืดหยุ่น ปรับการดำเนินงานและกลยุทธ์ต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว ทันต่อเหตุการณ์ ย้ำชัดยืนหนึ่งในกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มบำรุงกำลังและเครื่องดื่มฟังก์ชันนัลดริงก์ในประเทศไทย ขณะที่ตลาดต่างประเทศยังเติบโตเป็นเลข 2 หลัก
 
นายธนา ไชยประสิทธิ์ รักษาการ CEO บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) หรือ OSP ผู้ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคชั้นนำของประเทศ เปิดเผยถึงภาพรวมการดำเนินงานในไตรมาส 1Q/64 (มกราคม-มีนาคม) แม้ธุรกิจยังต้องเผชิญกับความท้าทายจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งส่งผลต่อภาพรวมเศรษฐกิจและกำลังซื้อของผู้บริโภค แต่ด้วยการบริหารธุรกิจที่ยืดหยุ่น สามารถปรับตัวให้สอดคล้องกับภาวะตลาดที่เปลี่ยนแปลงได้อย่างทันเหตุการณ์ รวมถึงการบริหารจัดการต้นทุนภายใต้โครงการ Fit Fast Firm ที่มีประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่อง ทำให้สามารถรับมือกับปัจจัยลบที่เกิดขึ้นได้ดี ส่งผลให้กำไรสุทธิในไตรมาสนี้ทำนิวไฮที่ 1,004 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
 
จากการสร้างความแข็งแกร่งของตราสินค้าในพอร์ตอย่างต่อเนื่อง พร้อมแผนการตลาดที่เน้นสร้างความผูกพันกับลูกค้า ทำให้สินค้าในกลุ่มเครื่องดื่มบำรุงกำลังยังคงรักษาตำแหน่งผู้นำในตลาดด้วยส่วนแบ่งตลาด 54.9% โดยมีแบรนด์เอ็ม-150 เป็นเบอร์ 1 ในตลาดรวม ในขณะที่แบรนด์โสมอินซัมซึ่งมีสินค้าใหม่ที่มีส่วนผสมของสมุนไพรก็สามารถสร้างการเติบโตได้เป็นอย่างดี สำหรับเครื่องดื่มในกลุ่มฟังก์ชันนัลดริงก์นั้น แบรนด์ซีวิทยังคงรักษาความเป็นผู้นำตลาดและการเติบโตจากการเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายให้ครอบคลุมมากขึ้น ผลักดันให้มีส่วนแบ่งการตลาด 34.9%
 
ในส่วนของตลาดต่างประเทศนั้น สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 เริ่มดีขึ้น ทำให้มีการขยายตัวอย่างโดดเด่น โดยเติบโต 11.6% สำหรับตลาดในประเทศเมียนมานั้น หลังจากเปิดโรงงานผลิตเครื่องดื่มในเมียนมาในปีที่ผ่านมา รวมถึงการมีพันธมิตรทางธุรกิจและทีมบริหารในเมียนมาที่มีความเข้าใจตลาดและพฤติกรรมของผู้บริโภค ทำให้มีความยืดหยุ่น สามารถปรับการดำเนินงานและกลยุทธ์ต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว ทันต่อเหตุการณ์ สามารถตอบสนองความต้องการของตลาด จึงสามารถรักษายอดขายและการเติบโต แม้ต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่ไม่ปกติทั้งการระบาดของโควิด-19 และด้านการเมือง
 
“ในไตรมาสแรกปีนี้ยังมีการระบาดของโควิด-19 แต่ด้วยศักยภาพการดำเนินธุรกิจของโอสถสภาที่มีแผนบริหารจัดการที่ชัดเจน ทั้งการนำจุดแข็งของแบรนด์พอร์ตโฟลิโอเข้าไปช่วยสร้างการเติบโตให้แก่ยอดขายกลุ่มเครื่องดื่ม เครือข่ายช่องทางการจำหน่ายที่แข็งแรง การปรับกลยุทธ์ให้สอดรับกับพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และการบริหารจัดการด้านต้นทุนการผลิตภายใต้โครงการ Fit Fast Firm ที่ดีต่อเนื่อง ทำให้เราประสบความสำเร็จในการผลักดันยอดขายและกำไรสุทธิด้วยตัวเลขนิวไฮแม้มีปัจจัยลบในตลาดก็ตาม” นายธนากล่าว

ส่วนแผนงานในไตรมาส 2Q/64 บริษัทฯ ยังมุ่งตอกย้ำใช้จุดแข็งด้านแบรนด์พอร์ตโฟลิโอมาช่วยขยายฐานลูกค้าใหม่ เน้นการตลาดที่ตอบสนองพฤติกรรมการบริโภคในช่วงการระบาดของโควิด-19 ซึ่งรวมถึงการที่ผู้บริโภคให้ความสำคัญต่อการดูแลรักษาสุขภาพและอยู่บ้านมากขึ้น อาทิ การออกบรรจุภัณฑ์ขนาด 1 ลิตรของแบรนด์ซีวิท
 
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมุ่งเน้นสร้างความร่วมมือทางธุรกิจใหม่ เพื่อผลักดันการเติบโตและสร้างธุรกิจในอนาคต โดยจับมือกับพันธมิตรอย่างยันฮี วิตามิน วอเตอร์ เพื่อขยายตลาดเครื่องดื่มวิตามิน ตอบโจทย์กระแสการดูแลใส่ใจสุขภาพ และร่วมลงทุนพัฒนาเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของสมุนไพร รวมถึงสารสกัดจากกัญชา กัญชง (CBD) นอกจากนี้ ยังสร้างมิติใหม่ทางการตลาดด้วยการผนึกกำลังของผู้นำจากสองวงการแต่มีจุดเชื่อมโยงคือกลุ่มเป้าหมายเดียวกัน โดยเอ็ม-150 และปูนตราเสือ ได้ร่วมกันออกแคมเปญ “ฮึดสู้อย่างเสือ หัวใจเกินร้อย” เจาะกลุ่มช่าง ผู้รับเหมา ด้วยเครื่องดื่ม เอ็ม-150 กระชายดำผสมน้ำผึ้ง X ปูนตราเสือ รุ่นลิมิเต็ด อีดิชัน พร้อมของพรีเมียมที่ออกแบบขึ้นเป็นพิเศษ รวมถึงการผูกแคมเปญเข้ากับแพลตฟอร์มแต้มเอ็ม การร่วมมือทางธุรกิจดังกล่าวเป็นการนำจุดแข็งของโอสถสภาและพันธมิตรมาสร้างโอกาสทางธุรกิจร่วมกัน เพื่อตอบสนองความต้องการด้านใหม่แก่ผู้บริโภคและขยายไปสู่ตลาดที่มีศักยภาพในการเติบโต


กำลังโหลดความคิดเห็น