ปูนตราเสือ ผู้นำตลาดปูนซีเมนต์ผสมที่ช่างผู้รับเหมาเชื่อมั่นมากว่า 105 ปี จากธุรกิจ Cement and Construction Solution ในเครือเอสซีจี ร่วมกับเครื่องดื่มให้พลังงาน เอ็ม-150 ผู้นำตลาดเครื่องดื่มให้พลังงานที่ครองใจและเป็นที่นิยมในกลุ่มผู้ใช้แรงงานมากว่า 35 ปี จากเครือโอสถสภา จับมือส่งแคมเปญความร่วมมือทางการตลาด “ฮึดสู้อย่างเสือ หัวใจเกินร้อย” ส่งเสริมการขายปูนซีเมนต์ตราเสือ โดยออกเครื่องดื่มให้พลังงาน เอ็ม-150 กระชายดำผสมน้ำผึ้ง X ปูนตราเสือ รุ่นลิมิเต็ด เอดิชัน เจาะกลุ่มช่าง ผู้รับเหมา โดยสามารถร่วมกิจกรรมผ่านแพลตฟอร์มไลน์แต้มเอ็ม เพียงแอดไลน์แต้มเอ็ม และส่งรหัสใต้ฝา เพื่อสะสมแต้มได้ถึง 3 เท่า โดยแต้มเอ็มดังกล่าวสามารถนำไปแลกของพรีเมียมสุดพิเศษ หรือร่วมลุ้นรางวัลใหญ่จากแต้มเอ็มได้ตลอดทั้งปี
นายสยามรัฐ สุทธานุกูล Chief Marketing Officer ในธุรกิจ Cement and Construction Solution กล่าวว่า เพื่อเป็นการกระตุ้นบรรยากาศการขายสินค้าปูนซีเมนต์ที่ร่วมรายการ และมอบสิทธิพิเศษให้แก่ช่างปูน ผู้รับเหมา เจ้าของบ้านที่ได้สนับสนุนปูนตราเสือตลอดมา ทางแบรนด์จึงขอส่งแคมเปญ “ฮึดสู้อย่างเสือ หัวใจเกินร้อย” โดยได้รับความร่วมมือจากพันธมิตรทางธุรกิจเครือโอสถสภา ออก เครื่องดื่มให้พลังงาน เอ็ม-150 กระชายดำผสมน้ำผึ้ง X ปูนตราเสือ รุ่นลิมิเต็ด เอดิชัน ผ่านการออกแบบภายใต้แนวคิด Collaborative Design โดยดึงเอาเอกลักษณ์ของเอ็ม-150 และตราสัญลักษณ์จากโลโก้ปูนตราเสือที่สะท้อนถึงความแข็งแกร่ง ดุดัน เต็มไปด้วยพลังสำหรับนักสู้ด้วยหัวใจเกินร้อย มาเป็นเครื่องมือส่งเสริมการขาย ตั้งแต่ 1 พฤษภาคม-31 กรกฎาคม 64 พร้อมโปรแกรม CRM และสิทธิประโยชน์มากมายสุดพิเศษผ่านแพลตฟอร์มไลน์แต้มเอ็ม นับว่าเป็นความพิเศษสำหรับลูกค้าปูนเสือ ที่จะได้รับแต้มเอ็ม X3 เท่า พร้อมโอกาสในการแลกรับของพรีเมียม เสื้อโปโล เสื้อยืด ที่นำเอาอัตลักษณ์สำคัญของทั้งปูนตราเสือ และเอ็ม-150 มาออกแบบได้ลงตัว สวยงาม สะท้อนความแข็งแกร่งและความภูมิใจในเลือดนักสู้ ผลิตโดย Warrix และกระเป๋าคาดอก ลิมิเต็ด เอดิชัน ที่สามารถสะสมแต้มแลกซื้อได้ หรือใช้ลุ้นรางวัลใหญ่ต่างๆ ในระบบแต้มเอ็ม
โดยตั้งเป้าหมายช่างก่อสร้าง ผู้รับเหมาจะเข้าร่วมโปรแกรมส่งเสริมการขายนี้มากกว่า 50,000 ราย และเป็นการสร้างสีสัน กระตุ้นบรรยากาศ ณ ร้านค้าวัสดุก่อสร้างได้อีกทางหนึ่ง พร้อมกิจกรรมชงชิม ณ ร้านค้า ไซต์งานก่อสร้าง และสร้างการรับรู้ (Visibility) ทั้งในส่วนร้านค้าวัสดุก่อสร้าง และการสนับสนุนที่ดีจากร้านค้าเครือข่ายจากเอ็ม-150 ที่เกิดจากความร่วมมือกันเป็นอย่างดีทั้งจากปูนตราเสือ และทีมเอ็ม-150 ผลักดันในทุกช่องทาง นับเป็นอีกหนึ่งความร่วมมือ
ในการสร้างมิติใหม่ในวงการตลาดเพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย และส่งมอบสิทธิประโยชน์พิเศษที่มากขึ้นแบบเฉพาะ โดยอาศัยการส่งเสริมและการทำงานร่วมกันจากทั้งสองฝ่าย ผ่านจุดแข็งทั้งปูนตราเสือ และ เอ็ม-150 ที่เติมเต็มกันและกัน ให้เกิดแนวความคิดและการต่อยอดทางธุรกิจต่อไปในอนาคต ซึ่งในส่วนของคาดหวังจากโปรแกรมความร่วมมือทางการตลาดในแคมเปญ “ฮึดสู้อย่างเสือ หัวใจเกินร้อย” นี้ ปูนตราเสือตั้งเป้าหมายยอดขายสินค้าที่ร่วมรายการ ปูนซีเมนต์ผสม (เสือ ซีเมนต์ ก่อฉาบเท เสือ ซูเปอร์ และเสือ ฉาบสูตรพิเศษ) สินค้าปูนซีเมนต์สำเร็จรูป เสือมอร์ตาร์ (เฉพาะฉาบทั่วไป และฉาบอิฐมวลเบา) หรือกลุ่มสินค้าเสือ กาวซีเมนต์ ให้เติบโตมากกว่า 5-8% ต่อปี โดยเทียบระยะเวลาในช่วงเดียวกันในปี 63”
นางวรรณิภา ภักดีบุตร กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.โอสถสภา กล่าวว่า “การร่วมมือกันระหว่างเอสซีจีและโอสถสภาในครั้งนี้ถือเป็นความร่วมมือครั้งสำคัญของ 2 บริษัทใหญ่ที่อยู่ในประเทศไทยมายาวนานกว่า 100 ปี ช่วยสร้างมิติใหม่ทางการตลาด ผ่านแคมเปญการตลาดที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคกลุ่มช่างและกลุ่มแรงงาน ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักของสินค้าทั้งสองได้อย่างตรงจุด ช่วยต่อยอดและขยายฐานผู้บริโภคให้กว้างขึ้น อีกทั้ง ผลิตภัณฑ์ล่าสุดของเรา เอ็ม-150 กระชายดำผสมน้ำผึ้ง ที่มีส่วนผสมของสุดยอดสมุนไพรไทยอย่างกระชายดำและน้ำผึ้ง ช่วยปลุกพลังความฟิตให้คุณฮึดสู้กับทุกงาน ผ่านพ้นทุกอุปสรรค ก็เข้ากับความแข็งแกร่งของปูนตราเสือเป็นอย่างดี รวมถึงการผูกแคมเปญเข้ากับแพลทฟอร์มแต้มเอ็มนั้นช่วยให้เข้าใจพฤติกรรม ความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย และสามารถนำข้อมูลที่ได้มาใช้พัฒนาผลิตภัณฑ์และแคมเปญต่างๆ ต่อไป”
นายสรายุทธ จิตจรุงพร Chief Customer Development Officer กล่าวเสริมว่า “เอ็ม-150 เป็นแบรนด์ผู้นำในกลุ่มเครื่องดื่มบำรุงกำลังมาตลอดและเป็นที่รู้จักของกลุ่มเป้าหมายเป็นอย่างดี ผลผลิตจากการร่วมมือกับปูนตราเสือครั้งนี้ถือเป็นนวัตกรรมครั้งสำคัญที่จะช่วยขยายช่องทางการจำหน่ายให้ถึงผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายหลักได้ครอบคลุมมากขึ้น พร้อมกับกระตุ้นดึงดูดความสนใจของผู้บริโภคผ่านทางช่องทางใหม่ของเครือข่ายปูนตราเสือ ความร่วมมือของแบรนด์ที่เป็นผู้นำจากสองอุตสาหกรรมที่ต่างกัน แต่มีจุดเชื่อมโยงเดียวกัน เป็นการรวมตัวในรูปแบบ 1+1 ที่ให้ผลลัพธ์มากกว่า 2 และยังสะท้อนให้เห็นความก้าวล้ำในด้านความคิดของทั้ง 2 ฝ่ายที่ไม่หยุดคิดและค้นหาสิ่งใหม่เพื่อผู้บริโภคอยู่เสมอ เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการพัฒนารูปแบบความร่วมมือทางการตลาดให้ก้าวหน้าไปอีกขั้นต่อไปในอนาคตอย่างแน่นอน”