ที่ประชุมผู้ถือหุ้นดุสิตธานีอนุมัติเพิ่มวงเงินลงทุนในโครงการ “ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค” มูลค่า 4,335 ล้านบาท หลังพิจารณาการขยายเงินลงทุนมีความเหมาะสม มั่นใจช่วยดึงศักยภาพของโครงการที่อยู่ใจกลางกรุงเทพฯ ให้โดดเด่นได้มากขึ้น พร้อมช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและโอกาสในการสร้างผลตอบแทนในอนาคตภายใต้ปัจจัยที่มีความท้าทายสูง ด้านผู้บริหารเผยพร้อมเดินหน้าโครงการเต็มที่
รายงานข่าวจากบริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) หรือ DTC เปิดเผยว่า ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 28/2564 ซึ่งเป็นการประชุมผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ (E-AGM) ตามมาตรการด้านความปลอดภัยภายใต้การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เมื่อวันที่ 29 เมษายนที่ผ่านมา ที่ประชุมได้มีมติเป็นเอกฉันท์อนุมัติการเพิ่มเงินลงทุนในโครงการ “ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค” ตามสัดส่วนการถือหุ้นในโครงการ จำนวน 4,335 ล้านบาท จากเงินลงทุนเดิม 12,915 ล้านบาท เพิ่มเป็น 17,250 ล้านบาท เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ด้านนางศุภจี สุธรรมพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บมจ.ดุสิตธานี เปิดเผยว่า บริษัทฯ ขอขอบคุณผู้ถือหุ้นที่มอบความไว้วางใจอนุมัติการเงินลงทุนในโครงการดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค ซึ่งจะเป็นเงินลงทุนจากส่วนของผู้ถือหุ้นและวงเงินจากสถาบันการเงิน โดยเงินทุนที่เพิ่มขึ้นในส่วนนี้จะนำไปพัฒนาโครงสร้างและพื้นที่โดยรวมของโรงแรม อาคารที่พักอาศัย และโครงการศูนย์การค้า ส่งผลให้พื้นที่ใช้งานโดยรวมเพิ่มขึ้นเกือบ 1 ใน 3 ซึ่งหลังจากได้รับอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้น บริษัทฯ พร้อมที่จะเดินหน้าโครงการอย่างเต็มประสิทธิภาพ
ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บมจ.ดุสิตธานี กล่าวว่า บริษัทฯ เชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่าการเพิ่มวงเงินลงทุนในการพัฒนาโครงการฯ จะเป็นการดึงศักยภาพของสถานที่ตั้งโครงการออกมาได้มากขึ้น เนื่องจากโครงการ “ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค” ตั้งอยู่ใจกลางกรุงเทพฯ เป็นศูนย์กลางย่านเศรษฐกิจและการค้า และสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของประเทศไทย และพื้นที่โครงการตั้งอยู่ในจุดเชื่อมต่อระหว่างรถไฟฟ้าเอ็มอาร์ที สถานีสีลม และรถไฟฟ้าบีทีเอส สถานีศาลาแดง ทำให้สามารถเดินทางไปมาระหว่างโครงการกับสถานที่อื่นๆ ได้สะดวกมากขึ้น ดังนั้น สถานที่ตั้งโครงการจึงถือว่ามีความพิเศษโดยตัวเองอยู่แล้ว ซึ่งการเพิ่มวงเงินลงทุนในโครงการจะทำให้โครงการมีภาพลักษณ์ที่ดีขึ้นและสอดคล้องกับลูกค้าระดับลักชัวรี (Luxury) และซูเปอร์ลักชัวรี (Super Luxury) มากขึ้น ส่งผลให้โครงการสามารถกำหนดราคาห้องพักโรงแรม ราคาจำหน่ายห้องพักอาศัยและราคาเช่าพื้นที่ศูนย์การค้าที่สูงขึ้นได้
ขณะที่การเพิ่มวงเงินลงทุนโครงการโรงแรม จะสามารถสร้างจุดเด่นของโรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ แห่งใหม่ สานต่อวิสัยทัศน์ในการเป็นสัญลักษณ์ของโรงแรมไทยที่ได้รับมาตรฐานระดับโลก รวมถึงการดึงเรื่องราวที่เป็นเอกลักษณ์แห่งความทรงจำของโรงแรมดุสิตธานีเดิม รักษาเจตนารมณ์ในการเป็นแลนด์มาร์กหรือหมุดหมายใจกลางเมืองของดุสิตธานี สร้างจุดดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเดินทางมายังประเทศไทย เช่นเดียวกับการเพิ่มวงเงินลงทุนในโครงการอาคารที่พักอาศัย จะเป็นการเพิ่มความน่าสนใจของโครงการต่อกลุ่มลูกค้าไฮเอนด์ ซึ่งก่อนหน้านี้ที่ปรึกษาทางการเงินอิสระได้รายงานการประเมินมูลค่าปัจจุบันสุทธิจากการลงทุนในโครงการพัฒนาโรงแรม อาคารที่พักอาศัยและโครงการศูนย์การค้าต่อผู้ถือหุ้นแล้วมีความเห็นว่าการเพิ่มวงเงินลงทุนในโครงการมีความเหมาะสม เนื่องจากมีมูลค่าปัจจุบันสุทธิของกระแสเงินสดเป็นบวก และสูงกว่าที่เคยประเมินไว้เดิม
“เรามั่นใจว่าการตัดสินใจเพิ่มวงเงินลงทุนในภาวะที่ธุรกิจมีความท้าทายจากความไม่แน่นอนของปัจจัยต่างๆ เป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง เพราะนำมาซึ่งการเพิ่มศักยภาพและขีดความสามารถในการแข่งขันของธุรกิจในอนาคต โดยเฉพาะความท้าทายจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ทำให้กลุ่มดุสิตธานีและ บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา หรือ CPN ผู้ร่วมทุนในโครงการ “ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค” ได้ตระหนักถึงการเปลี่ยนแปลงของวิถีชีวิตของลูกค้าที่เป็นกลุ่มเป้าหมาย และทำให้เราสามารถปรับเปลี่ยนแผนการลงทุนให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวได้อย่างทันท่วงที ภายใต้การประเมินอย่างรอบคอบ รอบด้านและรัดกุม ภายใต้ความเสี่ยงที่นำมาพิจารณาอย่างเข้มงวด” นางศุภจีกล่าว