xs
xsm
sm
md
lg

เครื่องปรุงรสอาหารส่งออกไปตลาดเอฟทีเอพุ่ง 2 เดือน 83 ล้านเหรียญ โต 7.2%

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศเผย 2 เดือนปี 64 ไทยส่งออกสินค้าเครื่องปรุงรสอาหารไปตลาดที่ไทยมีเอฟทีเอมูลค่า 83 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่ม 7.2% คิดเป็นสัดส่วน 59% ของการส่งออกทั้งหมด ระบุตลาดสำคัญที่ส่งออกเพิ่ม ทั้งอาเซียน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ จีน ฮ่องกง นิวซีแลนด์ ชิลี เปรู โดยซอส น้ำปลา ผงปรุงรส ได้รับความนิยม แนะใช้เอฟทีเอขยายตลาดใหม่ พร้อมเข้มเรื่องคุณภาพ มาตรฐาน

นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า สินค้าเครื่องปรุงรสอาหารเป็นหนึ่งในสินค้าดาวเด่นของไทยที่มีศักยภาพ และมียอดการส่งออกขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยในช่วง 2 เดือนของปี 2564 ไทยส่งออกเครื่องปรุงรสอาหารออกสู่ตลาดโลกมูลค่า 140.5 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 3.6% และในจำนวนนี้เป็นการส่งออกไป 18 ประเทศคู่เอฟทีเอมูลค่า 83 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 7.2% คิดเป็นสัดส่วน 59% ของการส่งออกเครื่องปรุงรสอาหารทั้งหมด

โดยการส่งออกไปตลาดคู่เอฟทีเอขยายตัวสูงเกือบทุกตลาด เช่น อาเซียน และญี่ปุ่น เพิ่ม 6% เกาหลีใต้ เพิ่ม 23% จีน เพิ่ม 41% ฮ่องกง เพิ่ม 36% นิวซีแลนด์ เพิ่ม 6% ชิลี เพิ่ม 123% และเปรู เพิ่ม 542% เป็นต้น และสินค้าส่งออกสำคัญที่ขยายตัว เช่น ซอส เพิ่ม 18% น้ำปลา เพิ่ม 8% ผงปรุงรส เพิ่ม 4% และสิ่งปรุงรสอื่นๆ เพิ่ม 9%

นางอรมนกล่าวว่า ความตกลงการค้าเสรี (เอฟทีเอ) เป็นปัจจัยสำคัญหนึ่งที่ช่วยส่งเสริมให้สินค้าเครื่องปรุงรสอาหารของไทยเติบโตและได้เปรียบคู่แข่งในเรื่องราคา เนื่องจากประเทศคู่เอฟทีเอส่วนใหญ่ไม่เก็บภาษีนำเข้ากับสินค้าส่งออกจากไทย โดยคู่เอฟทีเอ 16 ประเทศ ได้แก่ อาเซียน 9 ประเทศ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ จีน ฮ่องกง อินเดีย ชิลี และเปรู ได้ยกเลิกการเก็บภาษีนำเข้าสินค้าเครื่องปรุงรสอาหารที่ส่งออกจากไทยแล้ว เหลือเพียง 2 ประเทศ คือ ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ ที่ลดภาษีนำเข้าสินค้าเครื่องปรุงรสส่วนใหญ่ให้ไทย เหลือสินค้าบางรายการที่ยังเก็บภาษีนำเข้า เช่น ซอสมะเขือเทศ ซอสถั่วเหลือง และเต้าเจี้ยว เป็นต้น

“ตลาดเครื่องปรุงรสอาหารของไทยมีแนวโน้มเติบโตในระยะยาว เนื่องจากรสชาติอาหารไทยครองใจผู้บริโภคในตลาดต่างประเทศ รวมทั้งปัจจุบันเครื่องปรุงรสอาหารของไทยได้เริ่มวางจำหน่ายในซูเปอร์มาร์เกตชั้นนำแล้ว ประกอบกับการขยายตัวของธุรกิจร้านอาหารและภัตตาคารไทยในต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น จึงเป็นโอกาสของผู้ประกอบการไทยที่จะขยายตลาดส่งออกได้อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเจาะตลาดใหม่ๆ ที่ไทยมีเอฟทีเอ และควรให้ความสำคัญต่อคุณภาพมาตรฐานของวัตถุดิบ พัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีความหลากหลาย ตอบโจทย์ทั้งด้านความสะดวกสบาย และกลุ่มผู้บริโภคที่รักสุขภาพ” นางอรมนกล่าว

ปัจจุบันไทยครองตำแหน่งประเทศผู้ส่งออกเป็นอันดับที่ 4 ของโลก รองจากสหภาพยุโรป สหรัฐฯ และจีน โดยในปี 2563 ไทยส่งออกเครื่องปรุงรสอาหารสู่ตลาดโลกมูลค่า 851 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่ม 8.0% จากปี 2562 และส่งออกไป 18 ประเทศคู่เอฟทีเอ มูลค่ารวมกันถึง 442 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่ม 9.1% จากปี 2562 คิดเป็นสัดส่วน 57% ของการส่งออกเครื่องปรุงรสอาหารทั้งหมด โดยตลาดส่งออกสำคัญของไทยขยายตัวทุกตลาด เช่น อาเซียน มูลค่า 263 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่ม 8% ญี่ปุ่น มูลค่า 84 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่ม 13% ออสเตรเลีย มูลค่า 64 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่ม 16% จีน มูลค่า 24 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่ม 2% และเกาหลีใต้ มูลค่า 20 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่ม 9%


กำลังโหลดความคิดเห็น