ผู้จัดการรายวัน360 - “เอ็นซี โคโคนัท” เปิดตัวสินค้านวัตกรรม “COCO BUCKET” มะพร้าวเจาะได้ง่าย ดื่มได้ทุกที่ ไม่ต้องเฉาะ แค่เพียงเจาะ ก็ได้ความสด หวังดันตลาดส่งออกเพิ่มเป็น 20 ล้านลูก หรือเติบโต 30% จากปีที่แล้ว
นายณรงค์ศักดิ์ ชื่นสุชน กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็นซี โคโคนัท จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทได้พัฒนาและเปิดตัวนวัตกรรมของชุดอุปกรณ์การเจาะผลมะพร้าวน้ำหอมเพื่อดื่มน้ำมะพร้าวสดๆ จากลูกโดยไม่ต้องเฉาะด้วยมีด COCO BUCKET ผลิตภัณฑ์ใหม่ของ เอ็นซี ที่ตอบโจทย์วิถีชีวิตของคนรุ่นใหม่และต้อนรับฤดูร้อน
“COCO BUCKET เป็นมะพร้าวน้ำหอมพันธุ์ก้นจีบที่มีอัตลักษณ์เรื่องรสชาติที่หวานหอม อร่อย จนเป็นที่นิยมสำหรับผู้บริโภคทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งปัจจุบันบริษัท เอ็นซี โคโคนัท เป็นบริษัทผู้ส่งออกมะพร้าวน้ำหอมมานาน 12 ปี และในปี 2563 ที่ผ่านมา บริษัทมียอดการส่งออกมะพร้าวน้ำหอมไปยังต่างประเทศ 17 ล้านลูก การเปิดตัวนวัตกรรมที่ช่วยเจาะมะพร้าวให้พร้อมดื่มได้ง่ายขึ้นจะเป็นการกระตุ้นการส่งออกมะพร้าวไปยังตลาดต่างประเทศในปี 2564 นี้ ให้เพิ่มขึ้นถึง 20 ล้านลูก หรือประมาณ 20-30% จากปี 2563 บริษัทมีรายได้ 400 ล้านบาท”
ทั้งนี้ ตลาดผู้บริโภคที่ประเทศจีน ถือเป็นตลาดที่สำคัญ มีการเติบโตสูง นับวันจะมีการบริโภคมะพร้าวน้ำหอมที่มีปริมาณเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ สำหรับตลาดในประเทศไทย เอ็นซี โคโคนัท มองตลาดมุ่งหวังไว้ในห้างสรรพสินค้าชั้นนำและตลาดการซื้อขายออนไลน์เป็นอันดับต้นๆ ราคาขายปลีกของ COCO BUCKET อยู่ที่ชุดละ 65 บาท พร้อมซองบรรจุและอุปกรณ์การเจาะภายในซอง สามารถหาซื้อได้ที่ Facebook NC. Coconut Nc coconut line official. และเร็วๆ นี้ ที่กูเมต์มาร์เก็ต
“COCO BUCKET เป็นมะพร้าวสดบรรจุซองพิเศษที่สามารถเก็บรักษาด้วยการแช่เย็นที่อุณหภูมิ 1-5 องศา เก็บรักษาได้นานถึง 3 เดือน ซึ่งปกติมะพร้าวน้ำหอมแบบลูกถ้าอยู่ในอุณหภูมิเดียวกันจะเก็บรักษาได้เพียงแค่ 2 เดือนเท่านั้น”
นายณรงค์ศักดิ์ กล่าวอีกว่า ล่าสุด เอ็นซี โคโคนัท ยังได้ ร่วมกับคณะเกษตรศาสตร์ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยนเรศวร จัดทำโครงการ COCONUT Tissue Culture หรือการพัฒนาขยายพันธุ์มะพร้าวน้ำหอม “พันธุ์ก้นจีบ” ด้วยวิธีเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ สำเร็จเป็นที่แรกของโลก เพื่อให้คงไว้ซึ่งต้นพันธุ์มะพร้าวน้ำหอมแท้และดั้งเดิม พันธุ์ก้นจีบ จ.ราชบุรี ที่ได้รับการขึ้นทะเบียน GI สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์
โดยการวิจัยครั้งนี้มีประโยชน์ต่อเกษตรกรผู้ปลูกมะพร้าวน้ำหอมและถือได้ว่าเป็นการส่งเสริมการส่งออกอีกด้วย ปัจจุบันจังหวัดราชบุรีมีหลายอำเภอที่ปลูกมะพร้าวน้ำหอมพันธุ์ก้นจีบ เช่น ดำเนินสะดวก บางแพ วัดเพลง โพธาราม ปากท่อ บ้านโป่ง และวัดเพลง มีพื้นที่รวมในการเพาะปลูกกว่า 100,000 ไร่ มูลค่าการส่งออกนับเป็น 10,000 ล้านบาทต่อปี
“มะพร้าวน้ำหอมพันธุ์ก้นจีบ ถือได้ว่าเป็นพืชเศรษฐกิจที่มีปริมาณความต้องการของตลาดโลกสูงมากอย่างเช่น” จีน ประเทศแถบยุโรป อเมริกา และ เอเชีย เป็นต้น ต่างก็ชื่นชอบในรสชาติของมะพร้าวน้ำหอมของไทยที่มีรสชาติหวานแบบธรรมชาติ และมีกลิ่นหอมซึ่งเป็นอัตลักษณ์เฉพาะตัวของมะพร้าวน้ำหอมพันธุ์ก้นจีบของไทยและในพื้นที่เพาะปลูกของ ราชบุรี”
ในปัจจุบันความต้องการของเกษตรกรมีเพิ่มมากขึ้นที่หันมาปลูกมะพร้าวน้ำหอมทำให้สายพันธ์แท้ของมะพร้าวน้ำหอมพันธุ์ก้นจีบมีการกลายพันธุ์ ถ้าเกษตรกรนำไปเพาะปลูกกว่าจะเห็นผลผลิตก็จะเสียเวลาในการรอคอยไป 2-3 ปี ซึ่งอาจสร้างความเสียหายกับเกษตรกรได้ เอ็นซี โคโคนัท ในฐานะผู้ที่มีประสบการณ์ความเชี่ยวชาญด้านมะพร้าวน้ำหอมเล็งเห็นความสำคัญในเรื่องของพันธุ์ของมะพร้าวจึงได้ร่วมมือกับคณะเกษตรศาสตร์ฯ มหาวิทยาลัยนเรศวร ร่วมกันทำการวิจัยพัฒนาเพื่อรองรับความต้องการของเกษตรกรดังกล่าว โดยใช้ระยะเวลาในการวิจัยพัฒนานานถึง 2 ปี จนได้กล้าพันธุ์มะพร้าวน้ำหอมพันธุ์ก้นจีบที่ตรงตามแม่พันธุ์ที่ให้ผลผลิตลูกดก มีจำนวนทลายมาก และคงความเป็นอัตลักษณ์ในรสชาติและกลิ่นหอมเฉพาะตัวของมะพร้าวน้ำหอมพันธุ์ก้นจีบ