ราชบุรี - ตำรวจตามรวบผู้ต้องหาขู่กรรโชกทรัพย์ กุเรื่องมะพร้าวน้ำหอมส่งออกจากราชบุรีถูกจับที่ไต้หวันฐานซุกซ่อนเฮโรอีน เรียกเงินจากผู้ส่งออก 2 ล้านบาท แลกจบเรื่อง
เย็นวานนี้ (20 มี.ค.) พ.ต.ต.ไมตรี ฉิมเฉิด ผบก.ปอศ. พ.ต.อ.พัฒนพงศ์ ศรีพินเพราะ ผกก.สว.กก.1 บก.ปอศ.สั่งการให้ พ.ต.ต.ศิษฎ์ พูลวงศ์ สว.กก.1 บก.ปอศ. นำกำลังเข้าจับกุมนายไพโรจน์ จินดาลักษณ์ อายุ 41 ปี บ้านเลขที่ 332/10 หมู่ 5 ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ตามหมายจับศาลจังหวัดราชบุรี ที่ จ.38/2564 ลงวันที่ 4 มีนาคม 2564 กระทำความผิดฐานพยายามกรรโชกทรัพย์ นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นและประชาชน โดยได้รับการประสานงานจาก พ.ต.อ.ฉัฐวัชร วงศ์วาสน์ ผกก.สภ.บางแพ ที่ได้รับแจ้งจากชุดสืบสวนว่า นายไพโรจน์ จินดาลักษณ์ ผู้ต้องหาหลบมาพักอาศัยที่ 707 เอ (สันติสุขคอนโด) ซ.รามคำแหง 91 แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กทม. ขณะที่ตำรวจชุดจับกุมพบผู้ต้องหาได้ออกมาจากห้องดังกล่าวจึงได้แสดงตัวเข้าจับกุม พร้อมทั้งนำตัวผู้ต้องหาตามหมายจับส่ง พ.ต.ท.สันติ หนูช่วย สว.สอบสวน สภ.บางแพ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
กรณีดังกล่าวสืบเนื่องจากมีการเสนอข่าวการส่งยาเสพติดเฮโรอีนในมะพร้าวน้ำหอมจากจังหวัดราชบุรี ไปถูกจับที่ไต้หวัน ซึ่งข่าวดังกล่าวทำให้เกิดความเสียหายแก่จังหวัดราชบุรี และผู้ที่ทำการส่งออกผลไม้ต่างๆ หลังจากมีข่าวออกไปนายไพโรจน์ จินดาลักษณ์ ผู้ต้องหาำได้เรียกร้องมาทางนายประยูร วิสุทธิไพศาล อายุ 60 ปี ผู้จัดการศูนย์สินค้าเกษตรชุมชน 89 หมู่ 10 ต.วัดแก้ว อ.บางแพ จ.ราชบุรี ต้องการเงินจำนวน 2 ล้านบาท แล้วทุกเรื่องจะจบลง ค่าตู้ไม่ต้องเสีย ค่าใช้จ่ายไม่ต้องเสีย แต่เรียกเงินจำนวน 2 ล้านบาทเพื่อไปปิดคดีนี้ นายประยูร จึงได้ประสานไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางแพ เพื่อตรวจสอบสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะตนเองไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้องและมั่นใจในความบริสุทธิ์ และมองดูว่าเป็นเรื่องผิดปกติ เมื่อประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจร่วมตรวจสอบทุกฝ่าย จึงรวบรวมข้อมูลหลักฐานเสนอต่อศาลจังหวัดราชบุรีจนสามารถออกหมายจับ และจับกุมตัวได้ ในเบื้องต้นผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ
นายประยูร วิสุทธิไพศาล กล่าวว่า เกี่ยวกับคดีนี้เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2562 ได้ผลิต มะพร้าวน้ำหอมบรรจุตู้ส่งไปไต้หวัน ซึ่งมีนายหน้ามาติดต่อก็ดำเนินการให้ จนสามารถปิดตู้ได้ พ่อค้าคนกลางดำเนินการต่อ เมื่อถึงไต้หวันมีบริษัทชิปปิ้งติดต่อมาว่าตู้ของเราถูกจับยาเสพติดที่ไต้หวัน จึงได้สืบสาวเรื่องราวที่เกิดขึ้นไม่มีข้อมูลความจริง แต่มีการเรียกร้องว่าถ้าอยากให้ทุกอย่างจบลงต้องจ่าย 2 ล้านบาทเพื่อไปปิดคดีนี้
“พวกเราไม่ได้ทำ เราเป็นผู้บริสุทธิ์ทำมะพร้าวและผลไม้ส่งออกมากว่า 10 ปี เราไม่เคยมีเรื่องมัวหมอง เมื่อเป็นเช่นนี้ก็กระทบต่อมะพร้าวที่ส่งออก มีปัญหาข้อสงสัยเรื่องยาเสพติดมากมาย เรายืนยันว่าเป็นผู้บริสุทธิ์และไม่เคยกระทำเรื่องที่ผิดกฎหมายใดๆ ทั้งสิ้น แต่มีการกล่าวหาเราให้เสียหาย จึงไม่ยอม ได้เก็บข้อมูลที่เขาขู่กรรโชกทรัพย์ที่จะเรียกร้องเงินเรา เมื่อรวบรวมและนำมาที่ สภ.บางแพ ซึ่งติดช่วงโควิด-19 จึงได้ใช้เวลานาน เรื่องเกิดปี 62 ปัจจุบันปี 64 เกือบ 2 ปี เข้าแจ้งความหาข้อมูลออกหมายจับ จนได้ตัวคนร้าย” นายประยูร กล่าว
