กบง.ขยายเวลาคงราคาแอลพีจี (LPG) ออกไปอีก 3 เดือนเพื่อช่วยลดภาระค่าครองชีพให้แก่ประชาชน โดยราคาขายปลีกจะยังอยู่ที่ประมาณ 318 บาทต่อถัง 15 กิโลกรัม พร้อมกันนี้ยังได้เห็นชอบกรอบการจัดทำแผนพลังงานชาติ (National Energy Plan) กำหนดเป้าหมายมุ่งสู่พลังงานสะอาด ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เป็นศูนย์ภายในปี 2580
นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) เมื่อวันที่ 26 มี.ค. เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ที่ต้องเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของ Covid-19 และจากการติดตามสถานการณ์ราคา LPG ตลาดโลกที่มีแนวโน้มปรับตัวลดลงในช่วงเมษายน-มิถุนายน 2564 เนื่องจากเริ่มเข้าสู่ช่วงฤดูร้อน ทำให้ความต้องการใช้โพรเพนลดลง กบง.จึงมีมติให้ขยายเวลาตรึงราคาขายส่งหน้าโรงกลั่น LPG ที่ 14.3758 บาทต่อกิโลกรัม (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ออกไปอีก 3 เดือน เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน-30 มิถุนายน 2564 เพื่อให้มีราคาขายปลีก LPG อยู่ที่ประมาณ 318 บาทต่อถัง 15 กิโลกรัม เพื่อเป็นการช่วยบรรเทาภาระค่าครองชีพของประชาชน รวมทั้งมอบหมายให้ สนพ.ติดตามสถานการณ์ราคา LPG อย่างใกล้ชิด และนำเสนอแนวทางการทบทวนราคา LPG ให้ กบง.พิจารณาต่อไป
นอกจากนี้ ที่ประชุมเห็นชอบกรอบแผนพลังงานชาติ (National Energy Plan) ที่มีเป้าหมายมุ่งสู่พลังงานสะอาด ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ภายในปี 2580 โดยมีทิศทางนโยบาย (Policy Direction) 5 ด้าน ได้แก่ (1) ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในภาคพลังงาน (2) ลงทุนพลังงานสีเขียว (3) ดำเนินนโยบาย 4D1E เพิ่มความสามารถในการแข่งขันภาคพลังงาน (4) เพิ่มสัดส่วนการใช้พลังงานทดแทน (5) การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานรองรับการเปลี่ยนผ่านด้านเทคโนโลยี ซึ่งจะครอบคลุมการขับเคลื่อนพลังงานทั้งด้านไฟฟ้า ก๊าซธรรมชาติ น้ำมันเชื้อเพลิง พลังงานทดแทน และอนุรักษ์พลังงาน ซึ่งการดำเนินการทั้งหมดได้รับการสนับสนุนด้านข้อมูลจากศูนย์สารสนเทศพลังงานแห่งชาติ (National Energy Information Center : NEIC) ทั้งข้อมูลเชิงนโยบาย และการพัฒนาศักยภาพบุคลากรด้านพลังงาน (Capacity Building) เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นในอนาคต ทั้งนี้ มอบหมายให้กระทรวงพลังงานไปจัดทำรายละเอียดเพื่อนำเสนอ กบง.ต่อไป