CPAC สานวิสัยทัศน์ ESG เคลื่อนธุรกิจ ผ่านกลยุทธ์ “Green Construction” ดันรายได้โตต่อเนื่อง รุกนำเทคโนโลยีดิจิทัลสร้างนวัตกรรมทุกกระบวนการก่อสร้าง “คุ้มค่า-ลดสูญเสีย” ตอบโจทย์ลูกค้าครบจบในที่เดียว ตั้งแต่การออกแบบ ก่อสร้าง ยกระดับวงการก่อสร้างไทย สู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน
นายชนะ ภูมี Vice President-Cement and Construction Solution Business และกรรมการบริหาร CPAC ในธุรกิจซีเมนต์-ผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง เอสซีจี เปิดเผยถึงแผนการดำเนินธุรกิจของบริษัทผลิตภัณฑ์และวัตถุก่อสร้าง จำกัด หรือ CPAC ในปี 2564 ว่า มีวิสัยทัศน์ในการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน โดยยึดหลัก ESG (Environmental, Social and Governance) ซึ่งเป็นวิสัยทัศน์ในการดำเนินธุรกิจของเอสซีจี ที่คำนึงถึงผลกระทบสิ่งแวดล้อม ดูแลสังคม และมีบรรษัทภิบาล
โดยวิสัยทัศน์ดังกล่าว CPAC จะผลักดันผ่านกลยุทธ์ “Green Construction” มีเป้าหมายที่จะ “ยกระดับ” มาตรฐานงานก่อสร้างของประเทศให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในทุกกระบวนการก่อสร้างเพื่อการเติบโตที่ยั่งยืน ทั้งการใช้ทรัพยากรและวัสดุก่อสร้างอย่างคุ้มค่าลดผลกระทบสิ่งแวดล้อม ได้มาตรฐานสุขภาพอนามัย มีการใช้ทรัพยากรหมุนเวียน เปลี่ยน Waste หรือความสูญเสีย ให้เป็น Wealth หรือการสร้างผลประโยชน์คืนกลับสู่สังคม ผ่านการพัฒนานวัตกรรมโซลูชันครบวงจรด้วย CPAC Green Construction Solution
“CPAC จะเพิ่มสัดส่วน Green Construction ผ่านสินค้ารักษ์โลก (Green Products) และบริการก่อสร้างที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Green Solution) สร้างรายได้เติบโตต่อเนื่อง ตอบสนองความต้องการลูกค้าที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม ขอเป็นส่วนหนึ่งในการดูแลโลก”
ทั้งนี้ ความสำเร็จของ Green Construction เกิดจากการนำ “เทคโนโลยีดิจิทัล” มาผลักดัน “นวัตกรรมก่อสร้าง” (Digital & Construction Technology) เพื่อนำไปสู่ End to end service solution หรือการตอบโจทย์ลูกค้าครบจบที่เดียว ตั้งแต่ออกแบบ ก่อสร้าง ดูแลหลังก่อสร้าง ช่วยแก้ปัญหาการก่อสร้างที่ไม่มีประสิทธิภาพ เทคโนโลยีที่ล้าสมัย และส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดย CPAC มีนวัตกรรมก่อสร้างที่สำคัญ ได้แก่
CPAC Drone Solution นวัตกรรมในการประเมินพื้นที่เพื่อให้เห็นภาพรวมของพื้นที่โดยใช้โดรนบินสำรวจ ประเมินระดับความสูงต่ำของพื้นที่ สภาพแวดล้อมโดยรวม เพื่อนำข้อมูลมาออกแบบจัดทำผังโครงการ และสามารถใช้ได้ในหลากหลายอุตสาหกรรม ลดความผิดพลาดในการก่อสร้าง เพิ่มประสิทธิภาพในการใช้พื้นที่ เกิดความปลอดภัย ลดเวลาก่อสร้าง
CPAC BIM การนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในการบริหารจัดการงานก่อสร้าง ทำให้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง (Ecosystem) เห็นภาพรวมของงานก่อสร้างในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การออกแบบ สามารถตรวจสอบจุดผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้น ติดตามความคืบหน้างานก่อสร้างให้เป็นไปตามเป้าหมายโครงการ เเละเมื่อส่งมอบงานแล้วสามารถนำข้อมูลไปใช้ในการบริหารอาคารต่อไป ลดงานตีกลับ (Reject), การทำงานซ้ำ (Rework) และลดความสูญเสีย (Waste)
CPAC 3D Printing Solution เป็นนวัตกรรมการก่อสร้างรูปแบบใหม่ที่ใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์เข้ามาช่วยออกแบบและควบคุมกระบวนการก่อสร้างด้วยการใช้เครื่องจักร 3D Printer สามารถพิมพ์รูปโครงสร้างและตัวอาคารตามรูปแบบที่ต้องการ ลดระยะเวลาทำงาน ลดการใช้แรงงาน ลดเศษวัสดุในพื้นที่งานก่อสร้าง และยังประยุกต์ใช้ในการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์คอนกรีตตกแต่งอื่นๆ เช่น เฟอร์นิเจอร์ และฐานลงเกาะตัวอ่อนปะการัง
“การผลักดัน Green Construction เราต้องการสร้างความร่วมมือกับผู้เกี่ยวข้อง (Stakeholders) ตั้งแต่เจ้าของงานก่อสร้าง ผู้รับเหมา ช่าง ผู้ให้บริการด้านการก่อสร้าง ผู้ออกแบบ ผู้ผลิตวัสดุ และผู้จำหน่ายวัสดุ ทั้งในระดับประเทศไปจนถึงระดับท้องถิ่น ความร่วมมือกับภาครัฐในการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ การพัฒนาด้านเทคโนโลยี การนำแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) มาใช้อย่างเป็นรูปธรรม ด้วยการนำเทคโนโลยีดิจิทัลระดับ World Class เพื่อยกระดับงานก่อสร้างให้มีการบริหารจัดการการใช้ทรัพยากรในการก่อสร้างอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด เกิดเป็น Green & Wealth Society” นายชนะกล่าวสรุป
สำหรับผู้ที่สนใจ CPAC สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ CPAC Contact Center โทร.0-2555-5555 หรือ ดูรายละเอียดได้ที่เว็บไซต์ https://web.cpac.co.th