“จุรินทร์” หารือเอกอัครราชทูตปานามา เดินหน้าร่วมมือขยายมูลค่าการค้า ตั้งเป้าผลักดันการค้าขายกลับเข้าสู่ระดับเดิม 10,000 ล้านบาท พร้อมดันส่งออกข้าวหลังพบช่องขายได้ เหตุชาวปานามานิยมบริโภค เผยมีแผนใช้ปานามาเป็นประตูส่งออกสู่ประเทศแถบละตินอเมริกาด้วย
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลัง น.ส.อิตเซล การินา เชน ชัน เอกอัครราชทูตปานามาประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะเนื่องในโอกาสเข้ารับตำแหน่ง ที่กระทรวงพาณิชย์ ว่าเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ของไทยได้มีโอกาสต้อนรับทูตปานามาประจำประเทศไทย และได้ใช้โอกาสนี้ในการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับปานามา และความสัมพันธ์ทางการค้า การลงทุน ให้มีการขยายตัวเพิ่มขึ้น เพราะที่ผ่านมามูลค่าการค้าระหว่างไทยกับปานามาลดต่ำลงตั้งแต่ปี 2559 จากมูลค่าประมาณ 10,000 ล้านบาท พอปี 2560 ลดเหลือ 7,500 ล้านบาท ปี 2561 ลดเหลือ 6,000 ล้านบาท และปี 2562 ลดเหลือ 4,000 ล้านบาท จึงต้องหาทางผลักดันให้มีการขยายตัวกลับไปสู่ระดับเดิม คือ 10,000 ล้านบาทให้ได้
ทั้งนี้ ปานามาเป็นประเทศที่มีประชากร 4.2 ล้านคน อยู่ในกลุ่มประเทศที่มีรายได้สูง โดยรายได้ต่อหัวของชาวปานามาสูงกว่าไทยหนึ่งเท่าตัวโดยประมาณ และเป็นแหล่งนำเข้าสินค้าสำคัญจากไทย เช่น รถยนต์ ชิ้นส่วนยานยนต์ หมวดอาหาร ทั้งอาหารทะเล อาหารกระป๋อง หมวดเครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์ป้องกันโควิด-19 และสามารถเป็นประตูการค้ากระจายไปยังกลุ่มประเทศลาตินอเมริกา เม็กซิโก อเมริกากลางและอเมริกาใต้ตอนบน
“หวังว่าจะจับมือร่วมกันในการเพิ่มมูลค่าการค้าระหว่างกันต่อไปได้ในอนาคต โดยเฉพาะมูลค่าการค้าของสินค้าสำคัญ รวมทั้งข้าวของประเทศไทย เพราะชาวปานามากินข้าวเยอะมาก กินข้าวเมล็ดยาวที่ประเทศไทยผลิตด้วย หวังว่าจากนี้เราจะได้เพิ่มมูลค่าการส่งออกข้าวได้ โดยปัจจุบันปานามานำเข้าข้าวจากสหรัฐฯ 40% บราซิล 36% และไทยเพียง 1% ยังมีโอกาสขยายได้อีกมาก”
นายจุรินทร์กล่าวว่า ไทยได้เชิญภาคเอกชนของปานามาผ่านท่านทูต ให้เชิญมาร่วมงานสำคัญของไทย 2 งาน ได้แก่ 1. วันที่ 25 มี.ค. 2564 กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ จัดงานจับคู่ออนไลน์ Online Business Matching ผลไม้สด ผลไม้แปรรูป กับทุกประเทศในโลก และ 2. วันที่ 25-29 พ.ค. 2564 จัดงาน THAIFEX-ANUGA ASIA 2021 หรือที่เรียกว่างานแสดงสินค้าอาหารโลกของไทย งานนี้จะช่วยส่งเสริมการส่งออกอาหารของไทยได้มาก หลายประเทศในโลกเข้าร่วม ถือโอกาสเชิญภาคเอกชนของปานามาเข้าร่วมด้วย
ปัจจุบัน ปานามานำเข้าสินค้าจากไทยมากเป็นอันดับ 3 ในกลุ่มอาเซียน รองจากสิงคโปร์ และเวียดนาม และเป็นประเทศที่ต้องพึ่งพาการนำเข้าจากต่างประเทศเป็นหลัก จึงเป็นตลาดที่มีศักยภาพสำหรับสินค้าส่งออกจากประเทศไทย ส่วนในด้านความสัมพันธ์ไทยและปานามาได้มีความสัมพันธ์กันมาแล้ว 39 ปี