ส.อ.ท.เตรียมร่วมมือองค์การเภสัชกรรมเปิดทางนำเข้าวัคซีนเพื่อฉีดให้แก่แรงงานในภาคการผลิตและส่งออกที่เป็นสมาชิกเฟสแรก ยื่นความต้องการแล้วกว่า 5.1 หมื่นราย รวม 100,000 โดส หลังเปิดให้ยื่นแค่สัปดาห์เดียว พร้อมควักจ่ายเงินเองเร่งหารือหวังฉีดเดือนมิถุนายนนี้ หวังหนุนการฟื้นตัวเศรษฐกิจของประเทศ พร้อมเปิดรับความต้องการถึงสิ้น มี.ค.นี้
นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ ส.อ.ท.ได้หารือกับองค์การเภสัชกรรม กระทรวงสาธารณสุข ที่จะเปิดให้เอกชนนำเข้าวัคซีนโควิด-19 ที่ขึ้นทะเบียนต่อองค์การอาหารและยา (อย.) แล้วให้นำมาฉีดแก่แรงงานในภาคอุตสาหกรรมซึ่งเห็นว่าหลังจากฉีดให้แก่ผู้ที่จำเป็นและผู้ที่เสี่ยงสูงแล้ว ภาคแรงงานในอุตสาหกรรมและส่งออกมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจซึ่ง ส.อ.ท.ได้มีการสอบถามสมาชิกถึงความต้องการไปเบื้องต้นได้เสนอความต้องการมากกว่า 51,000 ราย จาก 109 บริษัท ใน 22 จังหวัดทั่วประเทศ คาดว่าจะได้รับการฉีดวัคซีนในสถานที่ที่ภาครัฐจัดเตรียมให้เสร็จในระยะแรกภายในเดือน มิ.ย.นี้
“เรากังวลถ้าการระบาดยังขยายตัวอยู่เรื่อยๆ ซึ่งภาคผลิตและส่งออกเป็นตัวขับเคลื่อน ยิ่งฉีดเร็วเท่าใดก็ยิ่งส่งผลดีและเห็นว่าโควิด-19 ยังยืดเยื้อถึงสิ้นปี เราจึงต้องการเข้ามาช่วยให้การฉีดเร็วขึ้น และเอกชนจำนวนมากมีความพร้อมที่จะดำเนินการ เราก็นำเสนอว่าอยากให้รัฐเปิดโอกาสให้เอกชนสั่งซื้อวัคซีนที่นำเข้ามาโดยรัฐกำกับดูแล โดย ส.อ.ท.ได้มีการหารือกับองค์การเภสัชฯ เบื้องต้น และเรารวบรวมได้ไม่ต่ำกว่า 5 หมื่นรายยินดีที่จะจ่ายเงินเอง หรือราว 1 แสนโดส ลดงบประมาณให้รัฐ” นายสุพันธุ์กล่าว
ทั้งนี้ ส.อ.ท.ได้สอบถามความต้องการออกไปเพียง 1 สัปดาห์ พบว่ามีสมาชิกแสดงความจำนงขอรับการฉีดวัคซีนโควิด-19 มากกว่า 51,000 ราย จาก 109 บริษัทใน 22 จังหวัดทั่วประเทศ สะท้อนให้เห็นว่าโรงงานต่างๆ ในภาคอุตสาหกรรมการผลิตของไทยมีความพร้อมในการจัดซื้อวัคซีนเองซึ่งเบื้องต้นคิดเป็นเงินโดสละราว 1,000 บาท (ต้องฉีดคนละ 2 โดส) และคาดว่าความต้องการยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ดังนั้น ส.อ.ท.ยังคงเดินหน้าเปิดรับความต้องการฉีดวัคซีน COVID-19 เฟส 2 ต่อไป โดยจะปิดรับในวันที่ 31 มีนาคม 2564 นี้
“ความต้องการวัคซีนของเอกชนครั้งนี้จะไม่ไปยุ่งกับส่วนที่รัฐจะจัดหามาฉีดให้แก่ประชาชน เราขอเพิ่มพิเศษเข้าไปเพื่อแบ่งเบาภาระภาครัฐ และช่วยให้การฉีดวัคซีนเร็วขึ้น แต่อยากเสนอรัฐบาลขอนำค่าใช้จ่ายส่วนนี้ไปหักลดหย่อนภาษีเงินได้นิติบุคคลได้ 2 เท่าหากเป็นไปได้” นายสุพันธุ์กล่าว
นายปณิธาน ปวโรฬารวิทยา รองเลขาธิการสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ขณะนี้ ส.อ.ท.จะเป็นผู้แทนภาคอุตสาหกรรมไทยสั่งซื้อวัคซีน COVID-19 ผ่านองค์การเภสัชกรรม (อภ.) เพื่อให้แรงงานในภาคอุตสาหกรรมได้รับการฉีดวัคซีนภายในเดือนมิถุนายน 2564 นี้ โดยความร่วมมือของกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งวัคซีนที่จะฉีดตอนนี้คือวัคซีนจาก “ซิโนแวค” ถือเป็น 1 ใน 2 ของวัคซีนที่ได้รับการขึ้นทะเบียนจาก อย.แล้ว โดยผู้ที่ผ่านการฉีดวัคซีนแล้วจะได้รับใบรับรองการฉีดวัคซีน (Vaccine Certificate) และสามารถตรวจสอบประวัติการฉีดวัคซีนย้อนหลังได้อีกด้วย
ทั้งนี้ ส.อ.ท.จะเดินหน้าหารือกับกระทรวงสาธารณสุข และสาธารณสุขจังหวัด เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกเข้าไปฉีดวัคซีน COVID-19 ให้กับสถานประกอบการที่มีพนักงานจำนวนมาก เพื่อลดการเคลื่อนย้ายแรงงานจำนวนมากที่จะไปรอรับการฉีดวัคซีน สำหรับสถานประกอบการที่มีพนักงานจำนวนไม่มาก ให้ไปรับการฉีดวัคซีนในสถานที่ที่ภาครัฐจัดเตรียมให้ โดยอาจมีการปรับโรงพยาบาลสนามเป็นสถานที่ให้บริการฉีดวัคซีน