“พาณิชย์” จัดกิจกรรม “ยกระดับโชวห่วยไทยในยุค New Normal” จัดผู้เชี่ยวชาญให้คำปรึกษาเชิงลึก ผลักดันให้ผ่านเกณฑ์มาตรฐาน พาดูงานร้านค้าส่งค้าปลีกต้นแบบ หวังให้นำความรู้มาปรับใช้ในการพัฒนาร้านค้าและการทำธุรกิจ เปิดรับสมัครโชวห่วยที่สนใจถึงวันที่ 15 มี.ค.นี้
นายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานเปิดกิจกรรม “ยกระดับโชวห่วยไทย ในยุค New normal” ว่า กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ได้กำหนดจัดกิจกรรมยกระดับร้านโชวห่วยให้มีขีดความสามารถในการแข่งขันเพิ่มขึ้น โดยจะนำผู้เชี่ยวชาญด้านธุรกิจค้าส่งค้าปลีกเข้าไปให้คำปรึกษาเชิงลึก ช่วยประเมินร้านค้าส่งค้าปลีกให้ผ่านเกณฑ์มาตรฐานร้านค้าส่งค้าปลีก ซึ่งครอบคลุมตั้งแต่กลยุทธ์ธุรกิจ การตลาด ข้อมูลและสารสนเทศ การบริหารจัดการหน้าร้านและหลังร้าน อาชีวอนามัย และความปลอดภัย และยังจะมีการอบรมให้ความรู้และศึกษาดูงานเชิงลึก ณ ร้านค้าส่งค้าปลีกต้นแบบ เพื่อนำองค์ความรู้และแนวปฏิบัติมาปรับใช้ในร้านของตนเองได้อย่างเหมาะสม
ทั้งนี้ ร้านโชวห่วยที่สนใจเข้าร่วมจะต้องมีคุณสมบัติ คือ ต้องจดทะเบียนจัดตั้งเป็นนิติบุคคล เป็นร้านค้าส่งค้าปลีกสินค้าอุปโภคบริโภค และไม่เคยผ่านการพัฒนายกระดับมาตรฐานการบริหารจัดการร้านค้าส่งค้าปลีกจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้ามาก่อน โดยสามารถสมัครได้ตั้งแต่บัดนี้จนถึงวันที่ 15 มี.ค. 2564 ที่เว็บไซต์ www.dbd.go.th โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ
“ร้านโชวห่วย เป็นฮีโร่สำคัญในการกอบกู้เศรษฐกิจ เพราะเป็นผู้จัดหาสินค้าจำเป็นให้แก่ประชาชน ช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนได้เป็นอย่างดี และเปรียบเสมือนเส้นเลือดหลักที่หล่อเลี้ยงระบบเศรษฐกิจ รวมถึงช่วยพยุงเศรษฐกิจของประเทศผ่านการจ้างงานคนในชุมชนให้มีงานทำ และยังช่วยเหลือผู้ผลิตสินค้าชุมชนให้มีที่จำหน่ายผ่านร้านโชวห่วย แต่ธุรกิจค้าส่งค้าปลีกยังต้องเผชิญกับความท้าทายสำคัญในยุค New normal ทั้งพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป และการแข่งขันที่เพิ่มขึ้น ทำให้ธุรกิจค้าส่งค้าปลีกต้องปรับตัวเพื่อก้าวต่อไปข้างหน้า กระทรวงพาณิชย์จึงได้เข้ามาช่วยเหลือ และผลักดันให้ร้านโชวห่วยทำหน้าที่เป็นเสาหลักของเศรษฐกิจท้องถิ่นต่อไป” นายวีรศักดิ์กล่าว
ปัจจุบันร้านโชวห่วยได้ประโยชน์จากมาตรการของรัฐบาลที่ออกมาช่วยเหลือค่าครองชีพของประชาชนผ่านโครงการต่างๆ เช่น โครงการคนละครึ่ง, เราชนะ และเรารักกัน เป็นต้น ซึ่งโครงการเหล่านี้ได้ส่งเสริมให้ผู้บริโภคซื้อสินค้าและบริการจากร้านโชวห่วยหรือร้านค้าปลีกผ่านทางเทคโนโลยีมากขึ้น ทำให้ร้านค้าจำเป็นต้องปรับปรุงระบบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพื่อให้รองรับการใช้บริการและแข่งขัน และกิจกรรมการพัฒนาร้านโชวห่วยในครั้งนี้จะเน้นการส่งเสริมให้นำเทคโนโลยีมาใช้ในร้านเพื่อช่วยยกระดับให้มีการบริหารจัดการได้ดีขึ้นด้วย