วันนี้ (25 ม.ค.) การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) และบริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการจัดทำห้องเย็น (Blast freezer & Cold storage) ภายใต้โครงการระเบียงผลไม้ภาคตะวันออก (Eastern Fruit Corridor : EFC) โดยมี นายสุพัฒนพงษ์ พันธุ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เป็นประธาน พร้อมด้วย นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ร่วมเป็นสักขีพยานในพิธี
นายสุพัฒนพงษ์ พันธุ์มีเชาว์ รองนายกฯ และ รมว.พลังงาน กล่าวว่า โครงการ EFC ถือเป็นก้าวสำคัญในการสร้างรายได้ให้แก่เกษตรกรและชุมชนในพื้นที่อีอีซี โดย ปตท.ที่มีความพร้อมด้านห้องเย็น จะนำพลังงานความเย็นจากก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) มาใช้ประโยชน์ทางการเกษตร กนอ.จะสนับสนุนการจัดหาพื้นที่ และ สกพอ.จะประสานความร่วมมือส่งเสริมด้านสิทธิประโยชน์ให้หน่วยงานรัฐและเอกชน เพื่อร่วมกันพัฒนาระบบห้องเย็น ให้บริการเก็บรักษาสินค้าคุณภาพดี สดใหม่ และรสชาติยังดีคงเดิม ตรงตามความต้องการของตลาด ซึ่งจะช่วยให้ชาวสวนไม่ต้องรีบเก็บ รีบขาย รีบส่ง ทำให้ไม่ได้ราคา เสียคุณภาพ และเสียชื่อเสียง เมื่อโครงการสำเร็จ ชาวสวนจะมีรายได้ดี มั่นคง ต่อยอดสร้างมูลค่าเพิ่มให้ผลผลิตทางการเกษตรแข่งขันได้ทั่วโลก ทำให้ไทยก้าวสู่ศูนย์กลางตลาดผลไม้โลกได้ในที่สุด
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม กล่าวว่า รูปแบบของโครงการจะมีการสร้างห้องเย็นสำหรับจัดเก็บผลไม้ อาคารคลังสินค้า อาคารโลจิสติกส์และบรรจุภัณฑ์ อาคารสำนักงานด้านศุลกากรและพื้นที่แสดงสินค้า อาคารประมูลผลไม้ โดยใช้แนวทางประชารัฐที่ให้ภาคเอกชนเข้ามามีส่วนร่วมในการลงทุน ที่เน้นให้บริการแก่ภาคเกษตร เพื่อเก็บรักษาและคงคุณภาพของผลผลิตทางการเกษตรตลอดจนผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่ต้องการใช้ประโยชน์จากการใช้ห้องเย็นในการสร้างมูลค่าเพิ่มในอนาคต ซึ่งจะเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันของประเทศไทยในการเป็นมหานครผลไม้ของภูมิภาค
นายคณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการสำนักงานอีอีซี กล่าวว่า โครงการระเบียงผลไม้ภาคตะวันออก หรือ EFC เป็นโครงการหลักของแผนพัฒนาภาคเกษตรในพื้นที่ EEC ที่ปรับการทำธุรกิจให้เป็นไปตาม "ความต้องการของตลาด" และนำเทคโนโลยีทันสมัยมาช่วยให้เกิดการปรับปรุงทั้งกระบวนการผลิต โดยในส่วนของสำนักงานอีอีซีจะเป็นผู้วางกลไกการบริหาร และประสานผู้ที่เกี่ยวข้องมาบริหารโครงการ โดยเฉพาะเอกชนผู้เชี่ยวชาญการค้า องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สหกรณ์ และผู้ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ประโยชน์จากโครงการกลับไปสู่ประชาชนในพื้นที่ โดยโครงการนี้จะนำร่องด้วยทุเรียน ซึ่งเป็นราชาผลไม้ของไทย รวมทั้งผลไม้อื่นๆ และผลิตภัณฑ์อื่นๆ เช่นอาหารทะเล ที่ต้องการเก็บรักษาคุณภาพสินค้าให้สดใหม่ สีสันน่ารับประทาน และสามารถนำไปขายได้ตลอดทั้งปี สร้างรายได้ที่มั่นคงแก่เกษตรกรไทย นอกจากนี้ จะมีการพัฒนากิจกรรมอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น กิจกรรมแปรรูปการประมูลสินค้า และการส่งออกต่อไป
น.ส.สมจิณณ์ พิลึก ผู้ว่าการ กนอ. กล่าวว่า กนอ.พร้อมสนับสนุนในการจัดหาพื้นที่ในนิคมอุตสาหกรรมสมาร์ทปาร์ก ซึ่งอยู่ในมาบตาพุด จำนวน 40 ไร่ในการพัฒนาโครงการดังกล่าว ซึ่งปัจจุบันนิคมฯ สมาร์ทปาร์กอยู่ระหว่างการหาผู้รับเหมาก่อสร้าง คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปี 2564
นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ปตท. กล่าวว่า ปตท.จะทำการศึกษาและพิจารณาการลงทุนจัดทำระบบทันสมัยขนาด 4,000 ตันในเฟสแรก ส่วนหนึ่งเป็นเทคโนโลยี Blast freezer เพื่อรักษาคุณภาพผลไม้ให้เสมือนเพิ่งเก็บจากสวน และระบบ Cold storage ที่จะรักษาคุณภาพผลไม้นั้นให้ขายได้ตลอดปี ไม่ต้องรีบตัด รีบขาย-รีบส่ง เช่นในปัจจุบัน