กนอ.เกาะติดการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 หวั่นฉุดเชื่อมั่นการลงทุนปี 64 ชะลอตัว สั่งคุมเข้มนิคมฯให้ควบคุมโรงงานปฏิบัติตามกฎหมาย ป้องกันการแพร่ระบาดโดยเฉพาะในพื้นที่ควบคุมสูงสุด พร้อมลงนามร่วมดำเนินการจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมโรจนะหนองใหญ่
วานนี้ (7 ม.ค.) น.ส.สมจิณณ์ พิลึก ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เปิดเผยว่า กนอ.ได้ติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 อย่างใกล้ชิด เพราะยอมรับว่าได้ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นการลงทุนปี 2564 ที่อาจจะชะลอลง เพราะนักลงทุนจากต่างประเทศไม่สามารถเดินทางมาได้แต่จะมากน้อยเพียงใด ยังไม่อาจประเมินได้ในปัจจุบัน ซึ่งเชื่อว่าแนวโน้มน่าจะปรับตัวได้ดีขึ้น หลังมีวัคซีนโควิด-19 ที่จะทยอยออกมาภายในกลางปีนี้ โดย กนอ. ได้ดำเนินงานตามนโยบายกระทรวงอุตสาหกรรมที่ให้ทุกโรงงานในนิคมฯโดยเฉพาะในพื้นที่ควบคุมสูงสุด ต้องปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมการแพร่ระบาดอย่างเคร่งครัด
"คงต้อขอเวลาติดตามสถานการณ์ที่ยังไม่แน่นอน หากควบคุมได้เร็วก็ไม่น่าจะกระทบมาก เพราะการลงทุนมองในระยะยาว ระยะสั้นอาจจะกระทบเชื่อมั่นบ้าง แต่ก็อยู่ที่แต่ละอุตสาหกรรมบางอุตสาหกรรม ก็ได้รับผลบวกจากโควิด-19 เช่น อุปกรณ์การแพทย์ อาหาร เทคโนโลยี เป็นต้น อย่างไรก็ตาม กรณีที่มีการเสนอให้กนอ. นำพื้นที่นิคมฯ มาสร้างเตียงสนามรองรับผู้ติดเชื้อนั้น ตามกฎหมายไม่อาจดำเนินการได้" น.ส.สมจิณณ์กล่าว
สำหรับการพัฒนาพื้นที่เพื่อรองรับการลงทุน โดยเฉพาะในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ก็ยังเป็นไปตามแผน โดยล่าสุด กนอ.ได้เซ็นสัญญากับ บริษัทสวนอุตสาหกรรมโรจนะ จำกัด (มหาชน) เพื่อร่วมดำเนินการจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมโรจนะหนองใหญ่ บนพื้นที่กว่า 1,900 ไร่ ด้วยเม็ดเงินลงทุน 4,129.41 ล้านบาท รองรับอุตสาหกรรมเป้าหมาย S-Curve และ New S-Curve ภายใต้มาตรการส่งเสริมเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก(อีอีซี) ซึ่งหากมีการลงทุนเต็มพื้นที่ คาดว่าจะก่อให้เกิดมูลค่าการลงทุนประมาณ 60,057 ล้านบาท เกิดการจ้างแรงงานเพิ่มขึ้นประมาณ 15,014 อัตรา
ด้าน นายภคิน ชลรัตนหิรัญ ผู้จัดการทั่วไปบริษัท สวนอุตสาหกรรมโรจนะ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า จากการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 บริษัทฯได้เป้าหมายยอดขายพื้นที่นิคมฯ รวมไว้ไม่ต่ำกว่า 500 ไร่ ซึ่งยอมรับว่าลดลงกว่าปกติที่เคยตั้งไว้ ประมาณเฉลี่ย 1,000 ไร่ เนื่องจากลูกค้าแม้จะมีประสานเข้ามาแต่ยังเป็นอุปสรรคในเรื่องการเดินทางมายังไทย ทำให้บางส่วนชะลอ แต่เชื่อว่าหลังจากสถานการณ์คลี่คลายการลงทุนยังเข้ามาจำนวนมาก
"อุตสาหกรรมที่เตรียมเข้ามาเป็นอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ ยานยนต์ เกษตร เครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์การแพทย์ เครื่องประดับ โดยขณะนี้ในนิคมฯ ทั้งหมดของบริษัทยังไม่มีแรงงานติดเชื้อโควิด-19 แต่อย่างใดเราได้มีการเข้มงวดตามกฏหมาย" นายภคิน กล่าว
โดยในปัจจุบันโรจนะได้มีการพัฒนานิคมอุตสาหกรรมรวม 9 แห่ง เปิดอย่างเป็นทางการแล้ว 6 แห่ง อีก 3 แห่ง ก็คือโรจนะหนองใหญ่ ก็ได้เซ็นสัญญาแล้ว ครั้งนี้ ที่เหลือเป็นนิคมอุตสาหกรรมโรจนะชลบุรี 2 (เขาคันทรง) พื้นที่กว่า 900 ไร่ กำลังพัฒนาพื้นที่ ส่วนนิคมฯโรจนะแหลมฉบัง ได้ลงนามกับกนอ.ไปแล้ว กำลังเริ่มให้ลูกค้าเข้ามาดูพื้นที่ สำหรับนิคมอุตสาหกรรมโรจนะหนองใหญ่ ในพื้นที่ อ.หนองใหญ่และ อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี จะใช้ระยะเวลาในการพัฒนาโครงการประมาณ 3 ปี ภายหลังจากที่ได้รับการประกาศเขตนิคมอุตสาหกรรมแล้ว และคาดว่าจะสามารถเปิดดำเนินการได้ในปี 2567
วานนี้ (7 ม.ค.) น.ส.สมจิณณ์ พิลึก ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เปิดเผยว่า กนอ.ได้ติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 อย่างใกล้ชิด เพราะยอมรับว่าได้ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นการลงทุนปี 2564 ที่อาจจะชะลอลง เพราะนักลงทุนจากต่างประเทศไม่สามารถเดินทางมาได้แต่จะมากน้อยเพียงใด ยังไม่อาจประเมินได้ในปัจจุบัน ซึ่งเชื่อว่าแนวโน้มน่าจะปรับตัวได้ดีขึ้น หลังมีวัคซีนโควิด-19 ที่จะทยอยออกมาภายในกลางปีนี้ โดย กนอ. ได้ดำเนินงานตามนโยบายกระทรวงอุตสาหกรรมที่ให้ทุกโรงงานในนิคมฯโดยเฉพาะในพื้นที่ควบคุมสูงสุด ต้องปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมการแพร่ระบาดอย่างเคร่งครัด
"คงต้อขอเวลาติดตามสถานการณ์ที่ยังไม่แน่นอน หากควบคุมได้เร็วก็ไม่น่าจะกระทบมาก เพราะการลงทุนมองในระยะยาว ระยะสั้นอาจจะกระทบเชื่อมั่นบ้าง แต่ก็อยู่ที่แต่ละอุตสาหกรรมบางอุตสาหกรรม ก็ได้รับผลบวกจากโควิด-19 เช่น อุปกรณ์การแพทย์ อาหาร เทคโนโลยี เป็นต้น อย่างไรก็ตาม กรณีที่มีการเสนอให้กนอ. นำพื้นที่นิคมฯ มาสร้างเตียงสนามรองรับผู้ติดเชื้อนั้น ตามกฎหมายไม่อาจดำเนินการได้" น.ส.สมจิณณ์กล่าว
สำหรับการพัฒนาพื้นที่เพื่อรองรับการลงทุน โดยเฉพาะในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ก็ยังเป็นไปตามแผน โดยล่าสุด กนอ.ได้เซ็นสัญญากับ บริษัทสวนอุตสาหกรรมโรจนะ จำกัด (มหาชน) เพื่อร่วมดำเนินการจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมโรจนะหนองใหญ่ บนพื้นที่กว่า 1,900 ไร่ ด้วยเม็ดเงินลงทุน 4,129.41 ล้านบาท รองรับอุตสาหกรรมเป้าหมาย S-Curve และ New S-Curve ภายใต้มาตรการส่งเสริมเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก(อีอีซี) ซึ่งหากมีการลงทุนเต็มพื้นที่ คาดว่าจะก่อให้เกิดมูลค่าการลงทุนประมาณ 60,057 ล้านบาท เกิดการจ้างแรงงานเพิ่มขึ้นประมาณ 15,014 อัตรา
ด้าน นายภคิน ชลรัตนหิรัญ ผู้จัดการทั่วไปบริษัท สวนอุตสาหกรรมโรจนะ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า จากการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 บริษัทฯได้เป้าหมายยอดขายพื้นที่นิคมฯ รวมไว้ไม่ต่ำกว่า 500 ไร่ ซึ่งยอมรับว่าลดลงกว่าปกติที่เคยตั้งไว้ ประมาณเฉลี่ย 1,000 ไร่ เนื่องจากลูกค้าแม้จะมีประสานเข้ามาแต่ยังเป็นอุปสรรคในเรื่องการเดินทางมายังไทย ทำให้บางส่วนชะลอ แต่เชื่อว่าหลังจากสถานการณ์คลี่คลายการลงทุนยังเข้ามาจำนวนมาก
"อุตสาหกรรมที่เตรียมเข้ามาเป็นอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ ยานยนต์ เกษตร เครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์การแพทย์ เครื่องประดับ โดยขณะนี้ในนิคมฯ ทั้งหมดของบริษัทยังไม่มีแรงงานติดเชื้อโควิด-19 แต่อย่างใดเราได้มีการเข้มงวดตามกฏหมาย" นายภคิน กล่าว
โดยในปัจจุบันโรจนะได้มีการพัฒนานิคมอุตสาหกรรมรวม 9 แห่ง เปิดอย่างเป็นทางการแล้ว 6 แห่ง อีก 3 แห่ง ก็คือโรจนะหนองใหญ่ ก็ได้เซ็นสัญญาแล้ว ครั้งนี้ ที่เหลือเป็นนิคมอุตสาหกรรมโรจนะชลบุรี 2 (เขาคันทรง) พื้นที่กว่า 900 ไร่ กำลังพัฒนาพื้นที่ ส่วนนิคมฯโรจนะแหลมฉบัง ได้ลงนามกับกนอ.ไปแล้ว กำลังเริ่มให้ลูกค้าเข้ามาดูพื้นที่ สำหรับนิคมอุตสาหกรรมโรจนะหนองใหญ่ ในพื้นที่ อ.หนองใหญ่และ อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี จะใช้ระยะเวลาในการพัฒนาโครงการประมาณ 3 ปี ภายหลังจากที่ได้รับการประกาศเขตนิคมอุตสาหกรรมแล้ว และคาดว่าจะสามารถเปิดดำเนินการได้ในปี 2567