xs
xsm
sm
md
lg

“จุรินทร์” ช่วยเกษตรกร ดึงเอกชนซื้อกระเทียมล่วงหน้าราคานำตลาด กก.ละ 13.50 บาท

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“จุรินทร์” ถกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง คลอดมาตรการเชิงรุกช่วยเหลือชาวไร่กระเทียม ดึงเอกชนทำสัญญาซื้อขายล่วงหน้ากิโลกรัมละ 13.50 บาท เป็นราคานำตลาด หลังพบมีการตกเขียวกดราคาเหลือแค่กิโลกรัมละ 8 บาท พร้อมอัดมาตรการเสริมช่วยดอกเบี้ยเงินกู้ร้อยละ 3 เพื่อซื้อกระเทียมเก็บ คุมเข้มการลักลอบนำเข้า และประสาน ก.เกษตรฯ พัฒนาพันธุ์ให้ “ใหญ่ ง่าย ดี”

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการประชุมวางแผนเชิงรุกรองรับการแก้ไขปัญหาสินค้าเกษตร (กระเทียม) ณ ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ อำเภอเมืองฯ จังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องว่า กระทรวงพาณิชย์ได้เตรียมการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกกระเทียมเป็นการล่วงหน้าเพื่อรองรับผลผลิตที่จะออกสู่ตลาดมากช่วงเดือน ก.พ.-มี.ค. โดยกรมการค้าภายในได้ประสานงานกับพาณิชย์จังหวัดซึ่งเป็นทีมเซลส์แมนของจังหวัด ร่วมกับภาคเอกชนจัดให้มีการเจรจาซื้อขายกระเทียมสดในราคาที่เป็นธรรม 8 สัญญา มีภาคเอกชน 8 บริษัทเป็นผู้ซื้อ และกลุ่มเกษตรกร 8 กลุ่มเป็นผู้ขายในราคากระเทียมสดกิโลกรัมละ 13.50 บาท เป็นราคาชี้นำตลาดในฤดูกาลผลิตนี้ เพราะก่อนหน้ามีข่าวว่ามีการตกเขียวกระเทียมสดล่วงหน้าในราคากิโลกรัมละ 8 บาท จึงต้องมาประชุมแก้ไขปัญหาเชิงรุกให้กับพี่น้องเกษตรกรเพื่อช่วยให้เกษตรกรชาวไร่กระเทียมขายกระเทียมได้ในราคาที่เป็นธรรมมากขึ้น

สำหรับสัญญาการรับซื้อกระเทียมนำร่อง ผู้รับซื้อกระเทียม ได้แก่ 1. บริษัท ตะวันพืชผล จำกัด 2. บริษัท ยิ่งไพศาลการเกษตร จำกัด 3. ร้านทองคำ บุญช่วยเครื่องต้มยำ 4. บริษัท บีวายที ฟู้ดซัพพลาย จำกัด 5. บริษัท มาตา เทรดดิ้ง จำกัด 6. นายทรงศักดิ์ สาระวรรณา และผู้ขาย กลุ่มเกษตรกรจากจังหวัดเชียงใหม่ ลำพูน แม่ฮ่องสอน ได้แก่ 1. วิสาหกิจชุมชนผู้ปลูกกระเทียมบ้านเป้า 2. วิสาหกิจชุมชนผู้ปลูกกระเทียมปลอดภัย บ้านม่วงคำ 3. วิสาหกิจชุมชนเครือข่ายผู้ปลูกกระเทียม อำเภอเวียงแหง 4. กลุ่มกระเทียมแปลงใหญ่ อำเภอเชียงดาว 5. วิสาหกิจชุมชนพัฒนาผลิตภัณฑ์พืชผักสมุนไพรและผลไม้ จังหวัดลำพูน 6. กลุ่มแปลงใหญ่กระเทียมและหอมแดง บ้านใหม่สวรรค์ หมู่ 11 7. วิสาหกิจชุมชนผู้ปลูกหัวพันธุ์หอมแดงและกระเทียม บ้านโฮ่ง และ 8. กลุ่มกระเทียมเกษตรแปลงใหญ่ เมืองแปง


ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ยังได้กำหนดมาตรการเสริมในช่วงที่กระเทียมออกมาก โดยมีมาตรการชะลอขาย ถ้าเกษตรกร ผู้รวบรวมกระเทียมหรือสหกรณ์ กลุ่มเกษตรกรชะลอขาย จะมีวงเงินช่วยเหลือเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำให้เกษตรกร กลุ่มเกษตรกร สหกรณ์ผู้รวบรวมกระเทียม ประมาณ 6 เดือน เมื่อราคาดีค่อยขาย ช่วยดอกเบี้ยร้อยละ 3 และมาตรการทางกฎหมายให้มีการบังคับใช้กฎหมายเข้มงวด โดยเฉพาะปัญหาการลักลอบการนำเข้ากระเทียมจากต่างประเทศ โดยได้สั่งการให้กรมศุลกากร ตำรวจ ฝ่ายความมั่นคง และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง เคร่งครัดการแก้ปัญหาลักลอบการนำเข้า ซึ่งจะนำเรื่องนี้ไปเรียนให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ทราบอีกครั้งหนึ่งในวันอังคารที่ 26 ม.ค. 2564 เพื่อให้ท่านนายกรัฐมนตรีได้สั่งการกำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงแก้ปัญหาการลักลอบนำเข้ากระเทียมต่อไป

นอกจากนี้จะเข้มงวดการออกไปอนุญาตนำเข้ากระเทียมให้มีการตรวจสอบปริมาณและคุณภาพของกระเทียมที่นำเข้า และเข้มงวดการตรวจสอบการขนย้าย หากตรวจพบการกระทำผิดจะมีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ส่วนมาตรการระยะยาว กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จะเป็นผู้ดำเนินการพัฒนาพันธุ์กระเทียมให้กระเทียมไทยเป็นกระเทียมที่มีคุณภาพ เรียกว่า “ใหญ่ ง่าย ดี“ โดยกลีบใหญ่ แกะง่าย และมีคุณภาพดี รสชาติดี และเร่งรัดการส่งเสริมการปลูกกระเทียมออร์แกนนิกและเปิดตลาดทั้งออฟไลน์และออนไลน์ ส่งเสริมการนำกระเทียมไปสร้างนวัตกรรมทางอาหารเพื่อเพิ่มมูลค่าโดยเร่งรัดให้ อย.ออกใบอนุญาตให้กับนวัตกรรมเหล่านี้ต่อไป

ปัจจุบันผลผลิตกระเทียมในแต่ละปีจะมีประมาณ 80,000 ตัน คิดเป็นกระเทียมสด 230,000 ตัน บริโภคภายในประเทศ 170,000 ตัน และมีการนำเข้าประมาณ 60,000 ตัน การนำเข้าเป็นไปตามข้อตกลงองค์การการค้าโลก (WTO) โดยกำหนดเงื่อนไขต่างๆ และมีภาษีนำเข้าร้อยละ 57


กำลังโหลดความคิดเห็น