กลุ่มยานยนต์ ส.อ.ท.วางเป้าหมายผลิตรถยนต์ปี 2564 ที่ 1.5 ล้านคัน โต 5.12% หลังการผลิตปี 2563 อยู่ที่ 1.426 ล้านคัน ทะลุเป้าที่ตั้งไว้ 1.4 ล้านคัน แต่ยังคงต้องเกาะติดสถานการณ์โควิด-19 ทั้งในและนอกประเทศรอบใหม่ใกล้ชิด รวมถึงการขาดแคลนชิปในการผลิตรถยนต์ทั่วโลก
นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ปี 2564 กลุ่มยานยนต์ ส.อ.ท.ได้วางเป้าหมายการผลิตรถยนต์ไว้ที่ 1,500,000 คัน เมื่อเทียบกับการผลิตรถยนต์ในปี 2563 ที่มีจำนวน 1,426,970 คัน เพิ่มขึ้น 73,030 คัน คิดเป็นเพิ่มขึ้น 5.12% โดยแบ่งเป็นการผลิตเพื่อการส่งออกประมาณ 750,000 คัน เพิ่มขึ้นจากปี 63 ที่ผลิตได้ 704,626 คัน เป็นจำนวน 45,374 คัน หรือเพิ่มขึ้น 6.44% และผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศจำนวน 750,000 คัน เพิ่มขึ้นจากปี 63 ที่ผลิตได้ 722,344 คัน เป็นจำนวน 27,656 คัน หรือเพิ่มขึ้น 3.83% เนื่องจากยังกังวลเรื่องการระบาดของไวรัสโควิด-19 ทั้งใน และต่างประเทศรอบใหม่
“ปี 2563 เราได้ตั้งเป้าหมายการผลิตรถยนต์ไว้ที่ 1,400,000 คัน แบ่งเป็นการผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศและการส่งออกอย่างละ 700,000 คัน ซึ่งทั้งปีผลิตได้ 1,426,970 คันก็ถือว่าได้มากกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ แต่เมื่อเทียบกับปี 2562 ที่ผ่านมาลดลง 29.14% อย่างไรก็ตาม ในปี 2564 ยังวางเป้าหมายไว้เพียง 1,500,000 คันเพราะยังกังวลการระบาดโควิดรอบใหม่ทั้งในไทยและต่างประเทศที่บางประเทศเริ่มกลับมาอีก ขณะเดียวกันทั่วโลกกำลังขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์ หรือชิป ที่เป็นชิ้นส่วนสำคัญในการผลิตรถบางส่วนเนื่องจากผลกระทบโควิด-19 ทำให้มีความต้องการใช้ชิปเพิ่มขึ้นเพื่อผลิตสินค้าไอทีหลายประเภทในช่วงนี้ ทำให้การผลิตรถยนต์บางส่วนในสหรัฐฯ ต้องหยุดลงไปและอาจกระทบไปยังฐานผลิตอื่นๆ ได้คงต้องติดตามใกล้ชิด” นายสุรพงษ์กล่าว
สำหรับปี 2563 การผลิตรถยนต์ที่ดีขึ้นกว่าเป้าหมายสะท้อนจากยอดขายรถยนต์ธันวาคม 2563 มีจำนวนทั้งสิ้น 104,089 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันในปี 62 คิดเป็น 11.3% และเพิ่มขึ้นจากเดือน พ.ย. 63 คิดเป็น 31.46% เป็นอีกเดือนหนึ่งที่ยอดขายในประเทศเกิน 1 แสนคันหลังจากหมดโครงการรถยนต์คันแรก สะท้อนถึงเศรษฐกิจในประเทศที่เริ่มฟื้นตัวจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล รวมทั้งการออกรถยนต์รุ่นใหม่และการส่งเสริมการขายของผู้จำหน่ายรถยนต์ในงานมหกรรมยานยนต์วันที่ 1-13 ธันวาคมที่ผ่านมาซึ่งมียอดจองกว่า 33,000 คัน ส่งผลให้การจำหน่ายรถยนต์ทั้งปี 2563 อยู่ที่ 792,146 คัน ลดลงจากปีก่อน 21.4% ซึ่งก็ถือว่าลดลงน้อยกว่าที่คาดไว้
ขณะที่การส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปปี 2563 รวม 735,842 คัน โดยส่งออกลดลงจากปี 2562 คิดเป็น 30.19% มีมูลค่าการส่งออก 410,911.85 ล้านบาท ลดลง 24.74% เมื่อเทียบกับปี 2562 เมื่อรวมมูลค่าส่งออกรถยนต์เดือนมกราคม-ธันวาคม 2563 เครื่องยนต์ ชิ้นส่วนรถยนต์ และอะไหล่ มีมูลค่า 591,906.14 ล้านบาท ลดลงจากปี 2562 คิดเป็น 24.69% หรือมูลค่าหายไปคิดเป็น 194,039 ล้านบาท หากรวมมูลค่าการส่งออกรถยนต์และรถจักรยานยนต์ปี 2563 มีมูลค่า 680,100 ล้านบาท ลดลงจากปี 2562 คิดเป็น 20.91% หรือคิดเป็นมูลค่าที่หายไปราว 179,817 ล้านบาท
ส่วนการผลิตรถจักรยานยนต์ปี 2564 ได้วางเป้าผลิตไว้ที่ 1,860,000 คัน เพิ่มขึ้น 15.15% จากปี 2563 ที่ผลิตทั้งสิ้น 2,023,433 คัน โดยการผลิตรถจักรยานยนต์ในปี 2563 หากเทียบกับปี 2562 ลดลง 20.1% เนื่องจากผลกระทบการระบาดโควิด-19
