กลุ่ม ปตท.มั่นใจพร้อมรับมือโควิด-19 รอบใหม่ จ่อเดินหน้ารุกธุรกิจ Life science ลั่นไตรมาส 1 นี้ชัดเจนการร่วมทุนในต่างประเทศ พร้อมอัดเม็ดเงิน 2.6 แสนล้านบาทลงทุนตามแผนงาน ร่วมกระตุ้นเศรษฐกิจ
นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ขณะนี้กลุ่ม ปตท.อยู่ระหว่างเจรจาร่วมทุนธุรกิจด้าน Life science ในต่างประเทศ 1-2 ราย คาดว่าจะมีความชัดเจนในไตรมาส 1/2564
ก่อนหน้านี้ ปตท.ได้จัดตั้งบริษัท อินโนบิก (เอเซีย) จํากัด ได้ถือหุ้นทั้งหมดในบริษัท อินโนบิก แอลแอล โฮลดิ้ง จํากัด เพื่อใช้เป็นช่องทางหนึ่งในการลงทุนในธุรกิจยาในต่างประเทศ ตามกลยุทธ์การลงทุนใน New business ของ ปตท. รวมทั้งเพื่อพัฒนาศักยภาพความสามารถของ ปตท.ในด้าน Life science ด้วยทุนจดทะเบียนประมาณ 2,000 ล้านบาท ทั้งนี้ บริษัท อินโนบิก แอลแอล โฮลดิ้ง ได้จดทะเบียนจัดตั้งบริษัทแล้วเสร็จเมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2563
“ธุรกิจ Life science เป็นหนึ่งในธุรกิจใหม่ที่ ปตท.จะเพิ่มฐานธุรกิจรับเทรนด์ของโลกที่เปลี่ยนแปลงไป โดยในส่วนของผู้บริหารก็จะจัดจ้างมืออาชีพเข้าร่วมดำเนินงาน โดยธุรกิจนี้มีทั้งธุรกิจยา, สารอาหาร และเครื่องมือ อุปกรณ์ทางการแพทย์ ที่สามารถต่อยอดจากธุรกิจปิโตรเคมีที่กลุ่ม ปตท.มีฐานผลิตอยู่แล้ว” นายอรรถพลกล่าว
นอกจากนี้ กลุ่ม ปตท.เตรียมแผนรองรับการระบาดโควิด-19 รอบใหม่ สานต่อจากแผนเดิมที่ดำเนินการไว้ในปี 2563 โดยกลุ่ม ปตท.มีความพร้อมทั้งด้านการดูแลพนักงาน และการปฏิบัติงานตามที่ต่างๆ ให้เดินหน้าเป็นไปอย่างราบรื่นไม่ติดขัด แต่ในส่วนของความต้องการใช้พลังงานของประเทศจะลดลงมากน้อยแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับทิศทางการระบาดโควิด-19 รอบใหม่
สำหรับธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียมจากผลล็อกดาวน์ป้องกันการระบาดโควิด-19 รอบแรกทำให้ยอดขายลดลง 8% ขณะที่ต้นทุนการผลิตปิโตรเลียมของบริษัทย่อย คือ บมจ.ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม หรือ ปตท.สผ. มีฐานต้นทุนต่ำเฉลี่ย 30 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล คาดการณ์ว่าราคาน้ำมันดิบปี 2564 จะเคลื่อนไหวราว 50 เหรียญ/บาร์เรล
ส่วนธุรกิจก๊าซธรรมชาติปี 2564 ทิศทางราคาก๊าซฯ ในอ่าวไทยลดลงจากต้นทุนที่ผันแปรตามทิศทางน้ำมันดิบย้อนหลัง 6 เดือน ในขณะที่ธุรกิจโรงกลั่นน้ำมันและปิโตรเคมีก็มีรูปแบบเช่นกัน ราคาขึ้นอยู่กับตลาดโลก ความต้องการใช้หากลดลงก็มีผลต่อยอดผลิต หากมียอดผลิตเหลือก็ต้องบริหารจัดการเช่นส่งออก
นายอรรถพลกล่าวต่อไปว่า สำหรับการลงทุนเพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศนั้น ในปี 2564 กลุ่มปตท.มีแผนลงทุนในโครงการที่ได้อนุมัติแล้วรวม 2.6 แสนล้านบาท โดยในส่วนนี้เป็นงบลงทุนของปตท.ราว 7.6 หมื่นล้านบาท และยังมีโครงการในอนาคตที่ศึกษาเตรียมพร้อมที่จะลงทุน (Provisional Capital Expenditure) อีก 3 แสนล้านบาท ซึ่งกลุ่ม ปตท.เดินหน้าจ้างงานใหม่ในระยะสั้น-ยาวอีก 2.6 หมื่นตำแหน่งตามเป้าหมายโครงการ Restart Thailand ของกลุ่ม ปตท.
สำหรับแผนลงทุน 5 ปี (2564-68) กลุ่ม ปตท.มีแผนลงทุนที่ชัดเจนรวม 8.4 แสนล้านบาท หากรวมกับโครงการในอนาคต (Provisional Capital Expenditure) รวมทั้งสิ้นเป็น 1.6 ล้านล้านบาท
