xs
xsm
sm
md
lg

BCP อัดงบลงทุน 5 ปี แตะ 5 หมื่น ล.เน้นธุรกิจไฟฟ้าสีเขียว-โรงกลั่น

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



บางจาก ตั้งงบลงทุน 5 ปีนี้ อยู่ที่ 5 หมื่นล้านบาท โดยปีหน้าเทงบลงทุน 2.3 หมี่นล้านบาท เน้นธุรกิจไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน 75% ส่งผลให้ EBITDA ปีหน้าพุ่ง โดยเฉพาะธุรกิจไฟฟ้ามีกำไรแซงหน้าโรงกลั่นและการตลาดน้ำมัน เผย ขายหุ้น LAC (เหมืองลิเทียม) เกือบเกลี้ยงพอร์ต โกยเงินเข้ากระเป๋า 4 พันล้านบาท

นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ BCP เปิดเผยว่า กลุ่มบางจากตั้งงบลงทุน 5 ปีข้างหน้า (2564-68) ประมาณ 50,000 ล้านบาท แบ่งเป็นการลงทุนธุรกิจไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนของบีซีพีจี สัดส่วน 60% ธุรกิจโรงกลั่น 20% ธุรกิจการตลาด 15% และอื่นๆ โดยในปี 2564 วางงบลงทุนอยู่ 23,000 ล้านบาท ภายใต้สมมติกรณีฐาน (Base Case) ที่ราคาน้ำมันดิบเฉลี่ย 46 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล โดยธุรกิจไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนของบริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) จะใช้เงินลงทุนสูงสุด 75% ของงบลงทุนรวม ที่เหลือเป็นการลงทุนในธุรกิจโรงกลั่นและธุรกิจการตลาด คิดเป็นสัดส่วน 15% ที่เหลือเป็นการลงทุนในธุรกิจผลิตภัณฑ์ชีวภาพ

คาดว่า การดำเนินงานในปี 2564 ธุรกิจไฟฟ้าพลังงานเหมุนเวียนของบีซีพีจีจะสร้างกำไรก่อนหักดอกเบี้ย ค่าเสื่อมและภาษี (EBITDA) สูงแซงหน้าธุรกิจโรงกลั่นและการตลาดที่ยังได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 แม้ว่าผลกระทบจากโควิดจะไม่มากเท่าปีนี้ แต่ในช่วง ก.พ.-มี.ค. ปี 2564 โรงกลั่นบางจากมีแผนปิดซ่อมบำรุง ทำให้กำลังการกลั่นใกล้เคียงปีนี้ที่ 95,000 บาร์เรล/วัน และธุรกิจการบินยังไม่ฟื้นตัว ทำให้การใช้น้ำมันอากาศยาน (เจ็ท) ลดลงมาก ทำให้โรงกลั่นต้องหันมาผลิตเป็นน้ำมันดีเซลแทน ขณะที่ทิศทางค่าการกลั่น (GRM) คาดว่า จะทรงตัวเมื่อเทียบกับปีนี้ ซึ่งค่าการกลั่นของตลาดสิงคโปร์ปีหน้าจะอยู่ที่ 3-4 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล แต่บริษัทมีการบริหารจัดการค่าใช้จ่าย ก็คาดว่า GRM จะสูงกว่าตลาดเล็กน้อย

“บีซีพีจี มีแผนขยายธุรกิจไฟฟ้าสีเขียวทั้งในและต่างประเทศ โดยบริษัทได้เตรียมพร้อมด้านเงินทุนหลังจากได้เพิ่มทุนประมาณ 10,000 ล้านบาท ไปเมื่อเร็วๆ นี้ เพียงพอรองรับแผนขยายธุรกิจในอนาคต ในขณะที่บริษัท บีบีจีไอ จำกัด (มหาชน) (BBGI) ก็ได้ขยายธุรกิจสู่ธุรกิจผลิตภัณฑ์ชีวภาพมูลค่าสูง ช่วยเพิ่มมูลค่าให้ผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรของประเทศด้วย bio economy ผ่านการลงทุนใน Manus Bio Inc. ผู้นำธุรกิจเทคโนโลยีชีวภาพระดับโลก โดยบางจากมีเป้าหมายจะนำ BBGI เข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ปลายปี 2564”

นายชัยวัฒน์ กล่าวต่อไปว่า จากสถานการณ์วิกฤตโควิด-19 และราคาน้ำมันโลกที่ผันผวนในปี 2563 ต่อเนื่องปี 2564 ทำให้บางจากให้ความสำคัญกับกระบวนการทำงานที่กระชับ คล่องตัว ปรับเปลี่ยนได้ตามสถานการณ์ พร้อมปรับองค์กรเพื่อความยั่งยืนผ่านแนวคิด 3Rs-Refocus: การเร่งการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาด Restructure : การปรับองค์กรเพื่อสร้างช่องทางในการเข้าถึงตลาดและลูกค้า และ Reimagine : การใช้โอกาสและเครื่องมือในการลงทุนที่เหมาะสม เพื่อประโยชน์สูงสุดของบริษัท

โดยกลุ่มธุรกิจโรงกลั่นและค้าน้ำมันที่ได้รับผลกระทบจากโควิดและน้ำมันผันผวนมากที่สุด ได้มีการปรับโรงกลั่นเป็น niche products refinery นำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ออกสู่ท้องตลาด จากเดิมที่มีการปรับเปลี่ยนการผลิตน้ำมันเจ็ทเป็นน้ำมันดีเซล ทำให้มีปริมาณน้ำมันดีเซลออกมามาก ดังนั้น บริษัทจึงหันมาผลิตผลิตภัณฑ์ใหม่ออกสู่ตลาดอาทิ UCO (Unconverted Oil) ซึ่งมีคุณสมบัติเหมือนน้ำมันเตาเกรดพิเศษแต่ราคาเท่ากับดีเซล เพื่อส่งออกไปต่างประเทศ และผลิตสารทำละลาย (solvent) ซึ่งเป็นสารที่ใช้ในอุตสาหกรรมสี ทินเนอร์ การผลิตเรซิน ภายใต้ชื่อ BCP White Spirit 3040 และยังวางแผนต่อยอดผลิตภัณฑ์หลากหลายในอนาคตอันใกล้ โดยตั้งเป้า 5 ปีข้างหน้า โรงกลั่นบางจากจะมีการผลิตน้ำมันสำเร็จรูปคิดเป็น 60-70% ที่เหลือเป็นการผลิตผลิตภัณฑ์อื่นๆ แทน

สำหรับกลุ่มธุรกิจการตลาด บริษัทมีแผนทำให้สถานีบริการน้ำมันบางจากเป็น “greenovative destination” พร้อมหาทางขยายธุรกิจทั้งในส่วนของสถานีบริการและธุรกิจ non-oil อย่างต่อเนื่อง ตั้งเป้าปี 2564 จะขยายสถานีบริการน้ำมันบางจากเพิ่มขึ้นอีก 100 แห่ง จากสิ้นปีนี้จะมี 1,240 แห่ง โดยปีนี้ยอดการใช้น้ำมันในประเทศปรับลดลง 5-6% จากผลกระทบโควิด-19 แต่เชื่อมั่นว่า ในปีหน้ายอดการใช้น้ำมันของประเทศจะขยายตัวเป็นบวกใกล้เคียงจีดีพี

นอกจากนี้ ยังมีแผนขยายธุรกิจผ่านนวัตกรรมพลังงานสีเขียวอื่นๆ เช่น การบริหารจัดการจักรยานยนต์และสามล้อไฟฟ้า และการแลกเปลี่ยนแบตเตอรี่ (battery swapping) โดยตั้งเป้าหมายขยาย Winnonie สตาร์ทอัพให้เช่ามอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าในกลุ่มบางจาก เป็น 10,000 คัน ในปี 2566 และได้ทำข้อตกลงความร่วมมือกับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคในการขยายจุดชาร์จรถพลังงานไฟฟ้า EV Charger ในสถานีบริการน้ำมันบางจากไม่น้อยกว่า 150 สาขาทั่วประเทศ ภายในปี 2564

นายชัยวัฒน์ กล่าวต่อไปว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทมีมติให้บริษัทย่อย คือ BCP Innovation Pte.Ltd (BCPI) ลดสัดส่วนการถือหุ้นใน Lithium Americas Corp. (LAC) ซึ่งดำเนินโครงการเหมืองลิเทียมในประเทศอาร์เจนตินาและประเทศสหรัฐอเมริกา และเป็นบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์โตรอนโต ประเทศแคนาดา และตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก ประเทศสหรัฐฯ ซึ่งมีมูลค่าการลงทุนเริ่มต้นประมาณ 36 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และมูลค่าที่ได้รับจากการลดสัดส่วนการลงทุนในครั้งนี้ประมาณ 136 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยส่วนต่างระหว่างราคาขายและต้นทุนของเงินลงทุนจากการลดสัดส่วนดังกล่าวราว100 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 3 พันล้านบาท จะรับรู้เข้ากำไรสะสมโดยตรง และไม่มีการรับรู้ผ่านงบกำไรขาดทุน ทำให้ BCPI ถือหุ้น LAC อยู่ 0.5 ล้านหุ้น หรือประมาณ 0.5% ซึ่งการลดสัดส่วนการถือหุ้นดังกล่าวไม่กระทบต่อสิทธิในการซื้อลิเทียมสูงสุด 6 พันตันต่อปี

จากการขายหุ้น LAC ดังกล่าวทำให้บริษัทมีเงินสดในมือเพิ่มขึ้นเป็น 8 พันล้านบาท พร้อมที่จะมองหากโอกาสการขยายธุรกิจในอนาคต ขณะเดียวกัน บริษัทได้ออกมาตรการป้องกันโควิด-19 โดยให้พนักงานโรงกลั่นน้ำมันและพนักงานคอนโทรลรูมขอให้ปฏิบัติงานอยู่ในพื้นที่เท่านั้น พร้อมจำกัดการเดินทางไปที่อื่น

“ในปีหน้าบางจากมั่นใจว่า มี EBITDA โตกว่าปีนี้เท่าตัว โดยปี 2563 บริษัทขาดทุนสต็อกน้ำมันราว 5-6พันล้านบาท โดยยอดขายน้ำมันในช่วง พ.ย.-ธ.ค. 63 ยอดขายน้ำมันบางจากโตสูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยคาดว่า ปี 2564 บางจากตั้งเป้าหมายยอดขายน้ำมันโตขึ้น 5-6% ภายใต้สมมติฐาน Base Case”


กำลังโหลดความคิดเห็น