ผู้จัดการรายวัน360 - “ดังกิ้น” รุกหนัก ปรับตัวสู้โควิด ลุยเปิดสาขาปีนี้มากกว่า 30 สาขา ผุดโมเดลใหม่ปั้นยอด ฟู้ดทรักกับคีออส ดันกำไรพุ่ง 30% แม้ยอดขายรวมตกลง
นายภาคิน เพ็ญภาคกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท โกลเด้น โดนัท (ประเทศไทย) จำกัด ผู้บริหารร้านดังกิ้น โดนัท เปิดเผยว่า จากสถานการณ์โควิด-19 ที่ระบาดหนักในไทยปีนี้และทั่วโลก ตั้งแต่ต้นปี 2563 นี้ ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโดยรวมอย่างมาก ในส่วนของบริษัทก็เช่นเดียวกัน ที่ต้องปรับตัวปรับกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจ อะไรที่ไม่เคยทำ หรือคิดไว้แต่ยังไม่ได้เริ่มต้น ก็โดนโควิดเป็นตัวเร่งที่ทำให้เราต้องทำเร็วขึ้น ซึ่งก็ได้รับผลดีเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ที่โควิด-19 เริ่มกลับมาระบาดอีกครั้งในช่วงสิ้นปีนี้ บริษัทฯก็มีแผนสำรองเตรียมพร้อมในการรับมือ หากเกิดเหตุการณ์ที่รุนแรงมากกว่านี้อีก ไม่ว่าจะการล็อกดาวน์ หรือการถูกคุมเข้มด้วยมาตรการต่างๆ ซึ่งเราไม่กลัวแต่ก็ต้องไม่ประมาท เพราะว่าแผนที่เรานำมานั้นเป็นแผนที่รับมือได้อย่างดีมาแล้ว แต่ต้องมีการปรับใหม่ให้ทันกับสถานการณ์
สำหรับปีนี้เราก็ยังดำเนินธุรกิจเชิงรุก ลงทุนประมาณ 70-80 ล้านบาท รวมค่าการตลาดด้วย เปิดสาขามากประมาณ 30 กว่าสาขา และรีโนเวตอีกกว่า 20 สาขา รวมทั้งมีการนำโมเดลสาขาใหม่มาบริการด้วย เพื่อเป็นการรับมือกับโควิด เช่น ฟู้ดทรัก จำนวน 4 คัน ขนาด 4.50 คูณ 4.50 เมตร และโมเดล คีออส ขนาด 2.40 คูณ 2.40 เมตร จำนวน 10 ยูนิต ในช่วงแรกนี้หมุนเวียนสลับสถานที่กันไป เพื่อเจาะเข้าหาลูกค้าให้มากที่สุด จากปัจจุบันที่มีสาขาเปิดรวมกันประมาณ 296 สาขา (ไม่นับฟู้ดทรักกับคีออส) แต่มีปิดสาขาไปบ้างประมาณ 15-18 สาขา
ขณะที่ช่องทางออนไลน์ หรือดีลิเวอรี ปีนี้ก็เริ่มมากขึ้น เพราะโควิดเป็นตัวกระตุ้นคาดว่ามีสัดส่วนรายได้ประมาณ 5-10% แล้ว และสร้างการเติบโตมากถึง 3,000% นอกจากนั้น ก็ทำการออกสินค้าใหม่ทุกเดือน และมีโปรโมชันอย่างน้อย 2 เดือนต่อครั้ง ซึ่งเป็นการทำที่มากกว่าเดิม เพื่อกระตุ้นการจับจ่ายของผู้บริโภค อัตราการจ่ายยังไม่ตกลงไม่เฉลี่ยอยู่ที่ 150 บาทต่อบิล โดยสัดส่วนรายได้ยังคงมาจาก โดนัท 80% และเครื่องดื่ม 20% โดยตลาดเติบโตเท่ากันทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด
นางสาวระวีพรรณ์ ประกอบวรรณกิจ รองประธานบริหารฝ่ายการตลาด กล่าวว่า ปีนี้เราได้สร้างแบรนด์ไอเดนติตี้ (Brand Identity) อย่างชัดเจน ว่า เราต้องการสร้างตัวตนของแบรนด์ตัวเองว่า เราต้องการสร้างความร้สึกแบบไหนไปยังกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของเรา เพื่อให้เข้าถึงระหว่างทางที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ที่คาแรกเตอร์ชัดเจนในการเป็นภาพของขนม ปีนี้ได้ออกสินค้าใหม่ เช่น โดนัทนมสด ได้รับการตอบรับอย่างดี หรือ ดึงสองหนุ่ม “ไบร์ท-วิน” มาร่วมงานเปิดตัวคอลเลกชัน Still2getherCollection พร้อมด้วย โดนัท Candy Crack ที่สร้างความสำเร็จด้วยการได้ earn media สูงมาก ไม่ว่าจะเป็นเฟซบุ๊ก อินสตาแกรม ทวิตเตอร์ ติ๊กต๊อก ที่แพร่หลายอย่างมาก
นายภาคิน กล่าวด้วยว่า ปีนี้คาดว่ารายได้รวมคงจะตกประมาณ 10% จากปีที่แล้ว หรือทำได้ประมาณ 970 ล้านบาท เนื่องจากผลกระทบของโควิดเป็นหลัก แม้ว่าจะมีการปรับตัวได้ก็ตาม ขณะที่ยอดกำไรนั้นเติบโตมากกว่า 30% ซึ่งไม่เคยกำไรสูงเท่านี้มาก่อน เนื่องจากเราควบคุมต้นทุนให้มีประสิทธิภาพและการทำตลาดกระตุ้นการขายต่อเนื่องทั้งการออกสินค้าใหม่ การทำโปรโมชั่น การทำตลาดช่องทางโซเชียลมีเดีย
ส่วนแผนปีหน้า (2564) จะลงทุนอีกไม่ต่ำกว่า 70-80 ล้านบาท ขยายสาขาอีกกว่า 60 สาขา และจะมีฟู้ดทรัคกับคีออส เพิ่มอีกเช่นกัน ขยายไปยังทำเลใหม่ๆ เพิ่ม เช่น โรงพยาบาล ไฮเปอร์มาร์เก็ต ห้างค้าส่ง มากขึ้น และออกสินค้าใหม่ทุกเดือน
ทั้งนี้ ตลาดรวมโดนัทในประเทศไทย มีมูลค่าประมาณ 3,300 ล้านบาท โดยแบรนด์ดังกิ้น มีส่วนแบ่งตลาดประมาณ 32% อย่างไรก็ตาม ในตลาดมี 2 แบรนด์ใหญ่คือดังกิ้นและคู่แข่งอีกราย มีส่วนแบ่งตลาดรวมกันมากกว่า 80% ของตลาดรวมแล้ว ซึ่งตลาดยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก