“จุรินทร์” สั่งการพาณิชย์จังหวัด ค้าภายในจังหวัด ดูแลการจำหน่ายหน้ากากอนามัยอย่างเข้มงวด ย้ำสินค้าต้องจำหน่ายในราคาควบคุมไม่เกินชิ้นละ 2.50 บาท โก่งราคาเจอโทษหนัก คุก 7 ปี ปรับ 1.4 แสน หรือทั้งจำทั้งปรับ ด้านกรมการค้าภายในสั่งเพิ่มเจ้าหน้าที่สายด่วน 1569 รับเรื่องร้องเรียน
นางมัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้สั่งการให้ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กำชับพาณิชย์จังหวัดและค้าภายในจังหวัดทั่วประเทศ ให้ติดตามสถานการณ์ความต้องการสินค้าป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะหน้ากากอนามัย อย่าให้เกิดการฉวยโอกาสปรับราคาขายปลีก โดยต้องจำหน่ายในราคาไม่เกินชิ้นละ 2.50 บาท เพราะเป็นสินค้าควบคุม
ทั้งนี้ หากเจอการขายเกินราคา ปฏิเสธการขาย หรือบิดเบือนตลาดให้ปั่นป่วน ให้ดำเนินการเอาผิดตามกฎหมายว่าด้วยราคาสินค้าและบริการได้ทันที มีโทษจำคุก 7 ปี ปรับ 1.4 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ล่าสุด กรมการค้าภายในได้รายงานว่า โรงงานผลิตยังมีการผลิตตามปกติ และที่ผ่านมา ยอดจำหน่ายไม่สูงมาก ทำให้มีสต๊อกเหลือจำนวนมาก ขอให้ประชาชนอย่ากังวล และกักตุน เพราะสินค้ามีเพียงพอต่อความต้องการ
นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ของกรมการค้าภายในออกตรวจสอบการจำหน่ายสินค้าหน้ากากอนามัยอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีการระบาด เพราะราคาขายปลีกที่กำหนดสำหรับหน้ากากอนามัยที่ผลิตภายในประเทศจะต้องจำหน่ายไม่เกินชิ้นละ 2.50 บาท หากมีการจำหน่ายเกินราคานี้ จะมีความผิดตามกฎหมาย
นอกจากนี้ กรมฯ ยังได้เพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ในส่วนของสายด่วน 1569 เพื่อรับเรื่องร้องเรียนจากประชาชน หากประชาชนพบเห็น หรือไม่ได้รับความเป็นธรรมในการซื้อหน้ากากอนามัย ขอให้แจ้งเข้ามาทันที กรมฯ จะจัดส่งเจ้าหน้าที่ออกไปตรวจสอบ และหากพบการกระทำผิด จะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเข้มงวด
อย่างไรก็ตาม ขอให้ประชาชนป้องกันตนเอง โดยนอกจากหน้ากากอนามัยแล้ว สามารถใช้หน้ากากผ้า หรือหน้ากากทางเลือกได้ และหลีกเลี่ยงการเข้าพื้นที่ชุมชน ปฏิบัติตามคำแนะนำด้านสาธารณสุข เพื่อป้องกันตนเองอย่างเคร่งครัด
