Ninja Van (นินจา แวน) ผู้นำบริการโลจิสติกส์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เผยว่า ปริมาณการขนส่งพัสดุในประเทศไทยเพิ่มขึ้นถึง 300% ซึ่งเป็นผลมาจากการลงทุนทางเทคโนโลยี บุคลากร และโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับต่อการเติบโตของธุรกิจอีคอมเมิร์ซไทยในปี 2563 โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 Ninja Van ได้ใช้เทคโนโลยีใหม่และให้ความสำคัญต่อพาร์ตเนอร์ธุรกิจรายย่อยเพื่อสร้างการเติบโตของธุรกิจ
ในปี 2563 Ninja Van ให้ความสำคัญต่อการขนส่งทางจักรยานยนต์ โดยเพิ่มผู้ขับขี่เป็น 2 เท่า และเปิดตัว Ninja Insider (นินจา อินไซเดอร์) ฟีเจอร์รายงานข้อมูลเชิงลึกที่ช่วยให้ร้านค้ามีข้อมูลด้านโลจิสติกส์และการวางแผนต้นทุนเพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน
อีกทั้งบริษัทฯ ได้เปิดตัว SNS Chat ที่จะช่วยให้ลูกค้าเข้าถึงข้อมูลเกี่ยวกับสถานะการส่งพัสดุ โดยการพัฒนาดังกล่าวทำให้สามารถให้บริการลูกค้าได้เพิ่มขึ้น 250% จัดส่งพัสดุเพิ่มขึ้นถึง 300% และเพิ่มยอดการเข้ารับจากการจองล่วงหน้า หรือ on demand pickup เป็น 2 เท่าตัว
นายเพียซ เอิง กรรมการผู้อํานวยการฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท นินจาแวน ประเทศไทย กล่าวว่า “นับตั้งแต่เปิดตัวในประเทศไทยในปี 2559 Ninja Van ปรับตัวอย่างต่อเนื่องให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของตลาดและภูมิทัศน์ธุรกิจในประเทศไทย เพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจอีคอมเมิร์ซของลูกค้า ตั้งแต่ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีรายย่อย จนถึงองค์กรระดับนานาชาติขนาดใหญ่ การปรับปรุงของ Ninja Van ส่งผลต่อการพัฒนาอย่างเห็นได้ชัดในด้านการบริการลูกค้า และมั่นใจได้ว่าพวกเขาจะสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าของตนเองท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของธุรกิจอีคอม เมิร์ซ การใส่ใจในรายละเอียดช่วยให้เรารองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าภายในเวลาไม่ถึง 2 สัปดาห์ ขณะที่ยังสามารถรักษามาตรฐานด้านเวลาการขนส่งไว้ได้อย่างดี ในฐานะที่เป็นธุรกิจที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีเราจึงสามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ และตอบสนองได้อย่างรวดเร็ว”
ปัจจุบัน Ninja Van ให้บริการแก่คู่ค้ารายย่อยในประเทศไทยกว่า 10,000 รายต่อวัน รวมถึงแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซชั้นนำ เช่น Shopee และ Lazada บริษัทฯ ได้ปรับปรุงเทคโนโลยีที่เป็นเอกสิทธิ์เพื่อเพิ่มความรวดเร็ว และถูกต้องแม่นยำในการจัดการพัสดุ มั่นใจได้ว่า 99% ของการจองล่วงหน้า หรือ on demand pickup จะได้รับบริการที่ตรงเวลา นอกจากนี้ ยังได้เพิ่มจำนวนรถมอเตอร์ไซค์เพื่อความรวดเร็วและมีประสิทธิภาพในการขนส่ง ท่ามกลางสภาพการจราจรที่เป็นปัญหาในกรุงเทพฯ
ลูกค้าของ Ninja Van สามารถเข้าถึงข้อมูลได้ทุกเวลาผ่านฟีเจอร์ Ninja Insider ที่ช่วยให้เข้าใจด้านโลจิสติกส์ได้อย่างครบถ้วนที่สุด สามารถใช้ฐานข้อมูลในการปรับเปลี่ยนทั้งเวลาการจัดส่ง สถานที่รับสินค้าและกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ สามารถใช้ข้อมูลจาก Ninja Insider ในการขยายผลิตภัณฑ์ บริการและการจัดการโลจิสติกส์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยพร้อมให้บริการสำหรับลูกค้าที่มียอดจัดส่งมากกว่า 300 ชิ้นต่อเดือน
จากการใช้สื่อโซเชียลที่แพร่หลายในประเทศไทย Ninja Van จึงได้เปิดตัว SNS Chat ที่ทำให้ลูกค้าเข้าถึงข้อมูลการจัดส่งแบบเรียลไทม์ อีกทั้งยังสามารถติดตามสถานะการจัดส่ง เปลี่ยนแปลงเวลาและสถานที่การจัดส่ง หรือจะต่อสายตรงเพื่อขอคำปรึกษากับคอลเซ็นเตอร์ได้อีกด้วย
“เรามั่นใจว่าการพัฒนาบริการจะสามารถช่วยเพิ่มการเติบโตของธุรกิจของลูกค้าได้ เรามีความมุ่งมั่นที่จะใช้เทคโนโลยีเพื่อพัฒนาบริการโลจิสติกส์ให้รวดเร็วและสะดวกสบายที่สุดในภูมิภาคนี้ แม้ว่าปี 2563 จะเป็นปีที่ท้าทาย เราได้รับโอกาสในการพัฒนาบริการต่างๆ และเตรียมพร้อมสำหรับความสำเร็จในปี 2564 ด้วยการพัฒนาและสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ ให้แก่ลูกค้าในอนาคต” เพียซ เอิง กล่าวสรุป