กรมการค้าต่างประเทศเผยการค้าชายแดนและผ่านแดน 10 เดือน ปี 63 มีมูลค่า 1,081,572 ล้านบาท ลดลง 4.11% เหตุได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ทำให้มีการปิดด่านการค้า ล่าสุดเหลือแค่ 37 ด่านที่เปิดเพื่อการขนส่งสินค้า จากด่านที่มี 97 แห่งทั่วประเทศ
นายกีรติ รัชโน อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า การค้าชายแดนและผ่านแดนของไทย ช่วง 10 เดือนปี 2563 (ม.ค.-ต.ค.) มีมูลค่ารวม 1,081,572 ล้านบาท ลดลง 4.11% แบ่งเป็นการส่งออก 626,396 ล้านบาท ลดลง 4.32% และการนำเข้า 455,176 ล้านบาท ลดลง 3.81% เกินดุลการค้า 171,219 ล้านบาท เพราะได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในประเทศเพื่อนบ้านทำให้มีการปิดด่านการค้าเพิ่มขึ้น แม้ว่าก่อนหน้านี้การค้าเริ่มมีทิศทางขยายตัวดีขึ้นจากการที่ไทยได้มีการผลักดันให้มีการเปิดด่านการค้าได้เพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ ผลจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกสองในเมียนมา ทำให้จังหวัดชายแดนของไทย เพิ่มความเข้มงวดในการขนส่งสินค้าข้ามแดน อย่างเดือน ต.ค. 2563 จังหวัดตากได้สั่งระงับการนำเข้าส่งออกสินค้าตามแนวชายแดนชั่วคราว ระหว่างวันที่ 18-25 ต.ค. 2563 เพื่อจัดระเบียบการขนส่งสินค้าบริเวณชายแดน และยังได้กำหนดจุดขนถ่ายสินค้าในบริเวณคลังสินค้าศุลกากร วางมาตรการขนส่งสินค้าผ่านจุดผ่านแดนถาวรสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 2 ส่งผลให้การค้าไทยเมียนมาที่ด่านแม่สอด มีมูลค่า 3,524 ล้านบาท ขณะที่เดือนก.ย. 2563 มีมูลค่า 5,701 ล้านบาท แต่คาดว่าเดือน พ.ย. 2563 มูลค่าการค้าจะกลับมาดีขึ้น
ล่าสุด ณ วันที่ 26 พ.ย. 2563 ไทยมีการเปิดทำการจุดผ่านแดน เพื่อการขนส่งสินค้ารวมทั้งสิ้น 37 แห่ง จาก 97 แห่งทั่วประเทศ
สำหรับรายละเอียดการค้าชายแดนกับเพื่อนบ้าน 4 ประเทศ ในช่วง 10 เดือน มาเลเซียยังเป็นคู่ค้าอันดับหนึ่ง มีมูลค่าการค้า 198,646 ล้านบาท ลดลง 14.67% รองลงมา คือ สปป.ลาว มูลค่า 156,114 ล้านบาท ลดลง 5.21% เมียนมา มูลค่า 137,726 ล้านบาท ลดลง 14.85% และกัมพูชา มูลค่า 131,173 ล้านบาท ลดลง 1.16% ส่วนการค้าผ่านแดน จีนเป็นคู่ค้าอันดับหนึ่ง มีมูลค่าการค้า 194,739 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19.06% รองลงมา คือ สิงคโปร์ มูลค่า 72,793 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.21% เวียดนาม มูลค่า 49,664 ล้านบาท ลดลง 13.77% และประเทศอื่นๆ มูลค่า 140,718 ล้านบาท ลดลง 6.13%
อย่างไรก็ตาม ในปีงบประมาณ 2564 กรมฯ มีแผนร่วมกับหน่วยงานในกระทรวงพาณิชย์จัดกิจกรรมส่งเสริมการค้าชายแดน ภายใต้งานมหกรรมการค้าชายแดนใน 4 ภูมิภาค (เชียงราย สงขลา สระแก้ว นครพนม ยะลา) ซึ่งภายในงานจะมีการจัดแสดงและจำหน่ายสินค้าแบบผสมผสานออฟไลน์และออนไลน์ การจับคู่เจรจาธุรกิจออนไลน์ การประชุมร่วมภาครัฐและเอกชน เพื่อส่งเสริมการค้าชายแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน และการสัมมนาให้ความรู้ด้านกฎระเบียบทางการค้าและโอกาสทางการตลาดแก่ผู้ประกอบการ เป็นต้น โดยจะเริ่มดำเนินการได้ตั้งแต่ช่วงต้นปี 2564 เป็นต้นไป