นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวถึงความคืบหน้าโครงการส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีชมพู (ช่วงแคราย-มีนบุรี) จากสถานีศรีรัช-เมืองทองธานี ว่า ตนได้ลงนามให้ความเห็นชอบไปเมื่อวันที่ 3 ธ.ค.ที่ผ่านมา และได้เสนอต่อ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี ตามขั้นตอนแล้ว คาดว่าจะเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อพิจารณาเห็นชอบในวันนี้ (8 ธ.ค.) หรืออย่างช้าในการประชุม ครม.สัปดาห์ต่อไป
หลังจากที่การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ได้เสนอผลการพิจารณามายังกระทรวงคมนาคม ได้มีการสอบถามเพิ่มเติมถึง 4 ครั้งเพื่อให้เกิดความรอบคอบและเป็นไปตามระเบียบข้อกฎหมาย
ทั้งนี้ หากที่ประชุม ครม.เห็นชอบและไม่มีความเห็นเพิ่มเติม รฟม.สามารถลงนามแนบท้ายสัญญากับ บริษัทนอร์ทเทิร์น บางกอกโมโนเรล จำกัด (NBM) ของกลุ่มกิจการร่วมค้าบีเอสอาร์ (บีทีเอส-ซิโนไทยฯ-ราชกรุ๊ป) ซึ่งผู้รับสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีชมพูได้ตามขั้นตอน ส่วนต่อขยายสายสีชมพู (สถานีศรีรัช-เมืองทองธานี) ระยะทาง 3 กม. จำนวน 2 สถานี มีวงเงินลงทุน 3,379 ล้านบาท โดย บริษัท NBM เป็นผู้ลงทุนเองทั้งหมด สำหรับรถไฟฟ้าสายสีเหลือง (ช่วงลาดพร้าว-สำโรง) ส่วนต่อขยายจากสถานีแยกรัชดา-ลาดพร้าว ถึงแยกรัชโยธินนั้น ตนได้เร่งรัดผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประะทศไทย (รฟม.) แก้ไขปัญหาอุปสรรคโดยเร็ว ซึ่งกรณีที่ยังไม่สามารถได้ข้อยุติเรื่องผลกระทบด้านผู้โดยสารของรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน กรณีที่มีการขยายเส้นทางสายเหลืองไปถึงแยกรัชโยธินนั้น ทาง รฟม.จะต้องเจรจากับเอกชนทั้ง 2 ฝ่ายมาพูดคุยกัน เชื่อว่าไม่น่ามีปัญหา
รายงานข่าวแจ้งว่า รฟม.ได้ส่งหนังสือสอบถามบริษัท อิสเทิร์นบางกอกโมโนเรล จำกัด (EBM) ผู้รับสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ครั้งที่ 3 โดยขอให้บริษัท EBM ทบทวนข้อเสนอที่ให้เพิ่มเติมในสัญญา ว่าจะเปิดโอกาสให้มีการเจรจาเมื่อบริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (BEM) ผู้รับสัมปทานรถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงินพิสูจน์ได้ว่าได้รับผลกระทบจากการเปิดให้บริการรถไฟฟ้าสายสีเหลืองส่วนต่อขยาย โดยสายสีเหลืองส่วนต่อขยายช่วงแยกรัชดา-ลาดพร้าว ถึงแยกรัชโยธิน มีระยะทาง 2.6 กม. ลงทุนกว่า 3,700 ล้านบาท
