“พาณิชย์” จัดเจรจาธุรกิจออนไลน์ เชิญผู้ซื้อ ผู้นำเข้าจากต่างประเทศ 34 ราย จาก 13 ประเทศ มาเจรจาซื้อขายสินค้ากับวิสาหกิจเพื่อสังคม (SE) 18 ราย คาดตกลงได้ไม่ต่ำกว่า 10-15 ล้านบาท เล็งจัดอีก 4 ครั้ง ม.ค.-มี.ค. 64 มั่นใจช่วยเพิ่มโอกาสส่งออกให้กับ SE ได้เพิ่มขึ้น
นายสรรเสริญ สมะลาภา ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ได้จัดกิจกรรมเจรจาธุรกิจออนไลน์ (Online Business Matching) โดยนำกลุ่มวิสาหกิจเพื่อสังคม (Social Enterprise หรือ SE) จำนวน 18 ราย จากที่มีอยู่ 141 รายทั้งประเทศ ซึ่งถือเป็นกลุ่มนำร่องมาเจรจาซื้อขายสินค้ากับผู้ซื้อ ผู้นำเข้าจากต่างประเทศจำนวน 34 ราย จาก 13 ประเทศ ได้แก่ สปป.ลาว กัมพูชา เวียดนาม สิงคโปร์ พม่า ฮ่องกง บังกลาเทศ อินเดีย เยอรมนี สเปน รัสเซีย ซาอุดีอาระเบีย และสหรัฐฯ เพื่อช่วยสร้างโอกาสในการทำตลาดส่งออกไปต่างประเทศ โดยคาดว่าจะมีการตกลงซื้อขายไม่ต่ำกว่า 10-15 ล้านบาท
ทั้งนี้ การช่วยเพิ่มโอกาสในการทำตลาดส่งออกให้กับวิสาหกิจเพื่อสังคม เป็นไปตามนโยบายของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะประธานคณะกรรมการส่งเสริมวิสาหกิจเพื่อสังคม ที่ต้องการสร้างความเข้มแข็งให้กับวิสาหกิจเพื่อสังคม เพื่อให้ธุรกิจมีรายได้เพิ่มขึ้น และนำรายได้ไปช่วยเหลือสังคมได้ต่อไป
“กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศมีกำหนดที่จะจัดกิจกรรมเจรจาธุรกิจออนไลน์อีก 4 ครั้ง ในเดือน ม.ค.-มี.ค. 2564 เพื่อเพิ่มโอกาสในการส่งออกให้กับวิสาหกิจเพื่อสังคมกลุ่มอื่นๆ โดยขณะนี้ ได้มอบหมายให้ทูตพาณิชย์ที่ประจำอยู่ในประเทศต่างๆ ทั่วโลก ไปติดต่อผู้ซื้อ ผู้นำเข้า และนำเสนอสินค้า เพื่อเชิญให้มาเจรจาธุรกิจผ่านทางออนไลน์แล้ว” นายสรรเสริญกล่าว
นายสรรเสริญกล่าวว่า การช่วยเหลือวิสาหกิจเพื่อสังคม ไม่ได้มีเพียงแค่กระทรวงพาณิชย์ แต่ยังมีหน่วยงานอื่นๆ ที่พร้อมให้ความช่วยเหลือ เช่น กรมสรรพาการมีประกาศให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีแก่กิจการ SE ที่ได้รับการจดทะเบียนจากสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจเพื่อสังคม (สวส.) ผู้ลงทุนในหุ้นของกิจการ SE บริจาคเงินหรือทรัพย์สินให้ SE สามารถหักเป็นค่าใช้จ่ายได้ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ออกประกาศให้กิจการ SE ที่ผ่านการจดทะเบียนรับรอง สามารถระดมทุนเสนอขายหุ้นต่อประชาชนได้ โดยไม่ต้องยื่นขออนุญาตจาก ก.ล.ต.ตามปกติ เป็นต้น โดยจะมีการลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MOU) ในเดือน ธ.ค. 2563 นี้
นายสมเด็จ สุสมบูรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า การเจรจาธุรกิจออนไลน์ตอบโจทย์วิสาหกิจเพื่อสังคมซึ่งมีสินค้าที่มีคุณภาพ แต่เงินลงทุนน้อย จึงเหมาะอย่างยิ่งกับช่องทางออนไลน์ของ ThaiTrade.com ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มของกรมฯ โดยจะช่วยให้ผู้ประกอบการกลุ่ม SE สามารถพบผู้ซื้อผู้นำเข้าศักยภาพได้โดยไม่ต้องมีค่าใช้จ่าย รวมทั้งยังมีผู้ช่วยให้คำปรึกษาตลอดเวลา 24 ชั่วโมง ถือเป็นการเริ่มต้นที่ดีสำหรับกลุ่ม SE ที่จะทำให้มีประสบการณ์ในการส่งออก ก่อนจะเข้าสู่สนามการค้าแบบออฟไลน์ในเวทีถัดไปเมื่อมีความพร้อม