“กอน.” เคาะกำหนดเปิดหีบอ้อยฤดูหีบปี 2563/64 เริ่มตั้งแต่ 15 ธ.ค.เป็นต้นไป เน้นย้ำ 57 โรงงานเฝ้าระวังอ้อยไฟไหม้อย่างรัดกุม และยึดเป้าหมายการรับอ้อยสด 80% อ้อยไฟไหม้ 20% เพื่อเดินหน้าลดฝุ่น PM 2.5 ตามมติ ครม. ส่วนเงินช่วยเหลือปัจจัยการผลิตต้องรอฝ่ายนโยบายตัดสินใจ
นายเอกภัทร วังสุวรรณ เลขาธิการคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย เปิดเผยว่า การประชุมคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (กอน.) ที่มีปลัดกระทรวงอุตสาหกรรมเป็นประธานเมื่อวันที่ 25 พ.ย.ได้เห็นชอบกำหนดวันเปิดหีบอ้อยฤดูกาลผลิตปี 2563/64 ของโรงงานน้ำตาลทราย 57 แห่งเริ่มตั้งแต่วันที่ 15 ธ.ค. 63 เป็นต้นไป โดยมอบหมายให้แต่ละโรงงานประกาศแจ้งให้ชาวไร่อ้อยได้รับทราบอย่างชัดเจนและให้ทุกภาคส่วนช่วยดูแลปัญหาอ้อยไฟไหม้อย่างรัดกุมเพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมายการตัดอ้อยสด 80% ต่อวัน และอ้อยไฟไหม้ 20% ต่อวัน
“โรงงานจะทยอยเปิดการผลิตแต่ละแห่งก็อาจจะใช้เวลาต่างกันไปแล้วแต่ความพร้อม ดังนั้น โรงงานใดที่จะยังไม่ได้เปิดหีบในหลายพื้นที่มีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดอ้อยไฟไหม้ จึงขอให้ทุกส่วนได้มีความระมัดระวังเป็นพิเศษ และให้สอดรับกับนโยบายลดฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน หรือ PM2.5 ด้วยการรับอ้อยสด 80% อ้อยไฟไหม้ 20% ซึ่งกรณีอ้อยไฟไหม้ 20% ไม่ได้หมายถึงให้เผาอ้อยก่อนตัดได้” นายเอกภัทรกล่าว
ทั้งนี้ มติคณะรัฐมนตรี (ครม.) 11 มิ.ย. 2562 กำหนดมาตรการดูแลฝุ่น PM 2.5 สำหรับอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทราย ด้วยการกำหนดให้ไม่มีอ้อยไฟไหม้ใน 3 ปี หรือให้เหลือ 0-5% ต่อวันภายในฤดูหีบ 2564/65 ซึ่งในฤดูหีบปี 63/64 กำหนดสัดส่วนรับอ้อยสด 80% ต่อวัน อ้อยไฟไหม้ 20% ต่อวันจากฤดูหีบปีที่ผ่านมาสามารถลดอ้อยไฟไหม้ได้ 50% ต่อวันอ้อยสด 50% ต่อวัน (50:50) โดยคณะกรรมการอ้อย (กอ.) ได้ประเมินผลผลิตอ้อยฤดูหีบปี 63/64 จะอยู่ที่ประมาณ 67.04 ล้านตันอ้อย ซึ่งยังคงเป็นปริมาณที่ต่ำกว่าฤดูหีบปีที่ผ่านมาที่ผลผลิตอ้อยอยู่ที่ 74.89 ล้านตัน เนื่องจากประสบภาวะภัยแล้งในช่วงต้นฤดูเพาะปลูก
อย่างไรก็ตาม กอน.ยังได้รับทราบหลักการการช่วยเหลือชาวไร่อ้อยในฤดูหีบปี 63/64 ที่จะมุ่งเน้นช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่อ้อยที่ตัดอ้อยสดเข้าหีบเท่านั้น ส่วนวงเงินสำหรับการช่วยเหลือและส่งเสริมการตัดอ้อยสดจะได้นำเสนอแนวทางเพื่อให้นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม เป็นผู้พิจารณาในขั้นสุดท้ายก่อนที่จะนำเสนอ ครม.ให้จัดสรรงบประมาณช่วยเหลือซึ่งคงไม่สามารถระบุเม็ดเงินชัดเจนได้เพราะขึ้นอยู่กับนโยบาย โดยในฤดูหีบปีที่ผ่านมา ครม.ช่วยเหลือชาวไร่อ้อยโดยอนุมัติงบประมาณเพื่อซื้อปัจจัยการผลิตรวม 10,000 ล้านบาท โดยช่วยเหลืออ้อยทุกตัน และช่วยเหลือพิเศษแก่ผู้ที่ตัดอ้อยสด
สำหรับราคาอ้อยขั้นต้นฤดูผลิตปี 63/64 กอน.ยังไม่ได้เห็นชอบในครั้งนี้ เนื่องจาก กอน.จะต้องนำประเด็นต่างๆ ไปกำหนดหลักเกณฑ์การคำนวณก่อนพิจารณาและประกาศอย่างเป็นทางการต่อไป อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นราคาอ้อยขั้นต้นของปีนี้จะสูงกว่าฤดูกาลผลิตของปีที่ผ่านมา โดยประเมินเบื้องต้นคาดว่าจะอยู่ในระดับ 850 บาทต่อตันขึ้นไป