ผู้จัดการรายวัน360- ครม. เคาะราคาอ้อยขั้นสุดท้ายปี 60/61 อัตรา 790.62 บาท/ตันอ้อย และปี 61/62 อัตรา 680.77 บาท / ตันอ้อย อนุมัติกองทุน ฯ จ่ายเงินชดเชยรวม 22,799.21 ล้านบาท ทบทวนมติ ครม. ขยายระยะเวลาชำระคืนหนี้เงินกู้ ปี 59 –61และปี 62 –64ออกไปอีก 1 ปี
นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ครม.มีมติเห็นชอบกำหนดราคาอ้อยขั้นสุดท้าย และผลตอบการผลิตและการจำหน่ายน้ำตาลทรายขั้นสุดท้าย ณ ระดับความหวานที่ 10 ซี.ซี.เอส. สำหรับฤดูการผลิต ปี60/61 ในอัตรา 790.62 บาทต่อตันอ้อย และผลตอบแทนการผลิต และจำหน่ายน้ำตาลทราย 338.84 บาท ต่อตันอ้อย
ส่วนฤดูการผลิต ปี 61/62 ในอัตราตันอ้อยละ 680.77บาท แลผลตอบแทนการผลิตและจำหน่ายน้ำตาลทรายเท่ากับ 291.76 บาทต่อตันอ้อย ซึ่งทั้งสองฤดูการผลิตนั้น (60/61 และ 61/62) นั้น ต่ำกว่าราคาอ้อยขั้นต้นและผลตอบแทนการผลิตและจำหน่ายน้ำตาลทรายขั้นต้น กองทุนอ้อยและน้ำตาลทราย จึงต้องจ่ายชดเชยให้กับโรงงานในฤดูการผลิต 60/61 จำนวน 19,730.74 ล้านบาท และฤดูกาลผลิตปี 61/62 จำนวน 3,068.47 ล้านบาท รวม 22,799.21 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม รายได้จากโรงงานนำส่งเงินเข้ากองทุน ฯ รวม 2 ฤดูการผลิต อยู่ที่ 4,649.46 ล้านบาท
ทั้งนี้ ยืนยันว่าการกำหนดราคาอ้อยขั้นสุดท้าย และผลตอบแทนการผลิตและจำหน่ายน้ำตาลทรายขั้นสุดท้าย ฤดูการผลิต ปี 60/61 และ ฤดูการผลิต ปี 61/ 62 ไม่ขัดกับข้อตกลงทางการค้าระหว่างประเทศ แต่เป็นการรักษาประโยชน์ให้กับเกษตรกรชาวไร่อ้อย อ้อยและน้ำตาลทรายของไทย
นอกจากนี้ ครม.ได้ทบทวนมติครม. เมื่อวันที่ 11 มิ.ย.62 ขยายระยะเวลาชำระคืนหนี้เงินกู้ในโครงการส่งเสริมสินเชื่อเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตอ้อยอย่างครบวงจร ปี 62 - 64 สำหรับเงินกู้เพื่อพัฒนาแหล่งน้ำ และการบริหารจัดการน้ำในไร่อ้อย และปรับพื้นที่ปลูกอ้อยจากเดิมที่มีขยายระยะกำหนดชำระคืนเสร็จสิ้นจากเดิมไม่เกิน 4 ปี เป็นชำระคืนเสร็จสิ้นไม่เกิน 6 ปี แต่ไม่เกิน วันที่ 30 ก.ย.70 และเงินกู้เพื่อซื้อเครื่องจักรกลการเกษตรขยาย ชำระคืนเสร็จสิ้นไม่เกิน 8 ปี จากเดิมกำหนดชำระคืนเสร็จสิ้นไม่เกิน 6 ปี แต่ไม่เกินวันที่ 30 ก.ย.72 รวมทั้งเห็นชอบการพักชำระหนี้ต้นเงินพร้อมดอกเบี้ย โครงการฯ ปี 59 - 61 และโครงการ ฯ ปี 62 - 64 เป็นระยะเวลา 1 ปี ซึ่งคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย ในคราวประชุม ครั้งที่ 5/2563 เมื่อวันที่ 29 พ.ค.63 มีมติเห็นชอบแนวทางการให้ความช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่อ้อยด้วย
กระทรวงอุตสาหกรรมได้แจ้งว่า การพักชำระเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยสำหรับโครงการ ฯ ปี 59-61 นั้น งบประมาณที่ได้รับอนุมัติมีเพียงพอ ส่วนโครงการ ปี 62-64 จำเป็นต้องขอจัดสรรกรอบวงเงินเพิ่มเติมอีก 185.05 ล้านบาท
ทั้งนี้ โครงการส่งเสริมสินเชื่อเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตอ้อยอย่างครบวงจร ปี 59-61 และปี 62–64 นั้น เป็นการให้สินเชื่อเพื่อใช้พัฒนาแหล่งน้ำ และบริหารจัดการน้ำในไร่อ้อย ปรับพื้นที่ปลูกอ้อย และจัดซื้อเครื่องจักรกลทางการเกษตร เช่น รถตัดอ้อย เพื่อแก้ปัญหาอ้อยไฟไหม้ เพื่อลดปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5
นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ครม.มีมติเห็นชอบกำหนดราคาอ้อยขั้นสุดท้าย และผลตอบการผลิตและการจำหน่ายน้ำตาลทรายขั้นสุดท้าย ณ ระดับความหวานที่ 10 ซี.ซี.เอส. สำหรับฤดูการผลิต ปี60/61 ในอัตรา 790.62 บาทต่อตันอ้อย และผลตอบแทนการผลิต และจำหน่ายน้ำตาลทราย 338.84 บาท ต่อตันอ้อย
ส่วนฤดูการผลิต ปี 61/62 ในอัตราตันอ้อยละ 680.77บาท แลผลตอบแทนการผลิตและจำหน่ายน้ำตาลทรายเท่ากับ 291.76 บาทต่อตันอ้อย ซึ่งทั้งสองฤดูการผลิตนั้น (60/61 และ 61/62) นั้น ต่ำกว่าราคาอ้อยขั้นต้นและผลตอบแทนการผลิตและจำหน่ายน้ำตาลทรายขั้นต้น กองทุนอ้อยและน้ำตาลทราย จึงต้องจ่ายชดเชยให้กับโรงงานในฤดูการผลิต 60/61 จำนวน 19,730.74 ล้านบาท และฤดูกาลผลิตปี 61/62 จำนวน 3,068.47 ล้านบาท รวม 22,799.21 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม รายได้จากโรงงานนำส่งเงินเข้ากองทุน ฯ รวม 2 ฤดูการผลิต อยู่ที่ 4,649.46 ล้านบาท
ทั้งนี้ ยืนยันว่าการกำหนดราคาอ้อยขั้นสุดท้าย และผลตอบแทนการผลิตและจำหน่ายน้ำตาลทรายขั้นสุดท้าย ฤดูการผลิต ปี 60/61 และ ฤดูการผลิต ปี 61/ 62 ไม่ขัดกับข้อตกลงทางการค้าระหว่างประเทศ แต่เป็นการรักษาประโยชน์ให้กับเกษตรกรชาวไร่อ้อย อ้อยและน้ำตาลทรายของไทย
นอกจากนี้ ครม.ได้ทบทวนมติครม. เมื่อวันที่ 11 มิ.ย.62 ขยายระยะเวลาชำระคืนหนี้เงินกู้ในโครงการส่งเสริมสินเชื่อเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตอ้อยอย่างครบวงจร ปี 62 - 64 สำหรับเงินกู้เพื่อพัฒนาแหล่งน้ำ และการบริหารจัดการน้ำในไร่อ้อย และปรับพื้นที่ปลูกอ้อยจากเดิมที่มีขยายระยะกำหนดชำระคืนเสร็จสิ้นจากเดิมไม่เกิน 4 ปี เป็นชำระคืนเสร็จสิ้นไม่เกิน 6 ปี แต่ไม่เกิน วันที่ 30 ก.ย.70 และเงินกู้เพื่อซื้อเครื่องจักรกลการเกษตรขยาย ชำระคืนเสร็จสิ้นไม่เกิน 8 ปี จากเดิมกำหนดชำระคืนเสร็จสิ้นไม่เกิน 6 ปี แต่ไม่เกินวันที่ 30 ก.ย.72 รวมทั้งเห็นชอบการพักชำระหนี้ต้นเงินพร้อมดอกเบี้ย โครงการฯ ปี 59 - 61 และโครงการ ฯ ปี 62 - 64 เป็นระยะเวลา 1 ปี ซึ่งคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย ในคราวประชุม ครั้งที่ 5/2563 เมื่อวันที่ 29 พ.ค.63 มีมติเห็นชอบแนวทางการให้ความช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่อ้อยด้วย
กระทรวงอุตสาหกรรมได้แจ้งว่า การพักชำระเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยสำหรับโครงการ ฯ ปี 59-61 นั้น งบประมาณที่ได้รับอนุมัติมีเพียงพอ ส่วนโครงการ ปี 62-64 จำเป็นต้องขอจัดสรรกรอบวงเงินเพิ่มเติมอีก 185.05 ล้านบาท
ทั้งนี้ โครงการส่งเสริมสินเชื่อเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตอ้อยอย่างครบวงจร ปี 59-61 และปี 62–64 นั้น เป็นการให้สินเชื่อเพื่อใช้พัฒนาแหล่งน้ำ และบริหารจัดการน้ำในไร่อ้อย ปรับพื้นที่ปลูกอ้อย และจัดซื้อเครื่องจักรกลทางการเกษตร เช่น รถตัดอ้อย เพื่อแก้ปัญหาอ้อยไฟไหม้ เพื่อลดปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5