นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีวันนี้ (10 พ.ย.) มีมติเห็นชอบการขยายระยะเวลาการชำระหนี้เงินกู้ โครงการส่งเสริมสินเชื่อเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตอ้อยอย่างครบวงจร ปี 2562-2564 สำหรับเงินกู้เพื่อพัฒนาแหล่งน้ำ การบริหารจัดการน้ำในไร่อ้อยและการปรับพื้นที่ปลูกอ้อย ขยายระยะเวลากำหนดชำระคืนเสร็จสิ้นไม่เกิน 6 ปี จากเดิม 4 ปี แต่ไม่เกินวันที่ 30 กันยายน 2570 และเงินกู้เพื่อซื้อเครื่องจักรกลการเกษตร ขยายระยะเวลากำหนดชำระคืนเสร็จสิ้นไม่เกิน 8 ปี จากเดิม 6 ปี แต่ไม่เกินวันที่ 30 กันยายน 2572 รวมทั้งเห็นชอบการพักชำระหนี้เงินต้นพร้อมดอกเบี้ยโครงการปี 2559-2561 และโครงการปี 2562-2564 ระยะเวลารวม 1 ปี
กระทรวงอุตสาหกรรม แจ้งว่า การพักชำระหนี้เงินต้นพร้อมดอกเบี้ยของโครงการปี 2559-2561 งบประมาณที่ได้รับอนุมัติมีเพียงพอ ขณะที่โครงการปี 2562-2564 จำเป็นต้องขอจัดสรรกรอบวงเงินเพิ่มเติมอีกจำนวน 185.05 ล้านบาท
ขณะเดียวกัน คณะรัฐมนตรียังเห็นชอบกำหนดราคาอ้อยขั้นสุดท้าย ผลตอบแทนการผลิตและการจำหน่ายน้ำตาลทรายขั้นสุดท้าย ณ ระดับความหวานที่ 10CCS สำหรับฤดูกาลผลิตปี 2560/2561 ในอัตรา 790.62 บาทต่อตันอ้อย และผลตอบแทนการผลิตและจำหน่ายน้ำตาลทรายอยู่ที่ 338.84 บาทต่อตันอ้อย ส่วนฤดูกาลผลิตปี 2561/62 อยู่ในอัตราตันอ้อยละ 680.77 บาท และผลตอบแทนหารผลิตและจำหน่ายน้ำตาลทรายอยู่ที่ 291.76 บาทต่อตันอ้อย ซึ่งทั้ง 2 ฤดูกาลผลิตต่ำกว่าราคาอ้อยขั้นต้นและผลตอบแทนการผลิตและจำหน่ายน้ำตาลทรายขั้นต้น กองทุนอ้อยและน้ำตาลทรายจึงต้องจ่ายชดเชยให้โรงงานในฤดูกาลผลิตปี 2560/2561 จำนวน 19,730.74 ล้านบาท และฤดูกาลผลิตปี 2561/62 จำนวน 3,068.47 ล้านบาท รวมทั้งสิ้น 22,799.21 ล้านบาท ขณะที่รายได้จากการนำส่งเงินเข้ากองทุนรวม 4,649.46 ล้านบาท