ชาวไร่อ้อยเตรียมยื่น “สุริยะ” หวังชง ครม.ช่วยเหลือปัจจัยการผลิตอ้อยฤดูหีบปี 63/64 วงเงิน 10,000 ล้านบาทเช่นฤดูหีบที่ผ่านมา โดยช่วยทุกตันอ้อยเพื่อกระตุ้น ศก. ย้ำไม่ได้คัดค้านตัดอ้อยสด 80% อ้อยไฟไหม้ 20% แต่ควรคำนึงถึงพื้นที่ที่ต่างกัน แรงงาน รถตัด
นายธีระชัย แสนแก้ว ประธานชมรมสถาบันชาวไร่อ้อยภาคอีสาน เปิดเผยว่า ขณะนี้องค์กรชาวไร่อ้อยกำลังหารือเพื่อที่จะเสนอ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ให้พิจารณาเสนอโครงการช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่อ้อยเพื่อซื้อปัจจัยการผลิตฤดูการผลิตปี 2563/2564 วงเงิน จำนวน 10,000 ล้านบาท ในการช่วยเหลือชาวไร่อ้อยทั่วประเทศเช่นฤดูหีบปีที่ผ่านมาเพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ
ทั้งนี้ ในฤดูหีบปีที่ผ่านมารัฐได้สนับสนุนเงินดังกล่าว 10,000 ล้านบาท แบ่งเป็นวงเงิน 6,500 ล้านบาทช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่อ้อยที่ส่งอ้อยเข้าโรงงานทุกรายที่จดทะเบียนถูกต้อง และอีก 3,500 ล้านบาทช่วยชาวไร่ที่ตัดอ้อยสดตันละไม่เกิน 92 บาท ดังนั้นฤดูหีบปี 63/64 ซึ่งรัฐกำหนดให้โรงงานน้ำตาลรับอ้อยสดเข้าหีบ 80% อ้อยไฟไหม้ 20% ซึ่งถือเป็นสัดส่วนอ้อยสดที่สูงมากการช่วยเหลือสัดส่วนจะไปอยู่ที่อ้อยสดมากอยู่แล้ว แต่ก็ควรจะช่วยเหลืออ้อยไฟไหม้ด้วยเพราะบางพื้นที่การตัดอ้อยสดต้องมีต้นทุนสูงกว่า
“ชาวไร่อาจจะอาศัยช่วงที่ร่าง พ.ร.บ.อ้อยและน้ำตาลทรายเข้าสภาฯ วันที่ 25-26 พ.ย.นี้เพื่อขอบคุณรัฐบาลที่ผลักดันที่จะทำให้มีการปรับปรุง พ.ร.บ.อ้อยที่ใช้มานาน และขอให้สนับสนุนเงินปัจจัยการผลิตไม่ต่ำกว่า 10,000 ล้านบาท ซึ่งเม็ดเงินนี้จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้เป็นอย่างดีเพราะชาวไร่จดทะเบียนชาวไร่ถูกต้องชัดเจน ซึ่งกรณีมีกระแสข่าวว่ารัฐจะขอเงินสนับสนุน 7,500 ล้านบาทเพื่อช่วยเหลือปัจจัยการผลิตเฉพาะอ้อยสดเห็นว่าวงเงินนี้ยังต่ำเกินไป” นายธีระชัยกล่าว
ทั้งนี้ การตัดอ้อยสดเป็นไปตามมติ ครม.ที่ผ่านมาเพื่อลดฝุ่น PM 2.5 โดยกำหนดให้การตัดอ้อยไฟไหม้เหลือ 0-5% ภายในฤดูผลิตปี 64/65 และปีนี้เข้าสู่ปีที่ 2 กำหนดไว้รับอ้อยสด 80% และอ้อยไฟไหม้จะเหลือเพียง 20% หรือ 80:20 จากปีที่ผ่านมาทำได้ 50:50 ซึ่งชาวไร่อ้อยไม่ได้คัดค้านถึงการตัดอ้อยสดแต่อย่างใดแต่ต้องการให้รัฐพิจารณาอย่างสมเหตุสมผลทั้งความพร้อมด้านแรงงาน รถตัดอ้อย และพื้นที่ โดยพื้นที่ภาคอีสานนั้นเป็นลักษณะภูเขา ไม่ใช่แปลงใหญ่ การใช้รถตัดยังไม่เอื้อซึ่งต้องอาศัยเวลาในการปรับเปลี่ยน แต่ในช่วง 2-3 ปีมานี้ราคาอ้อยตกต่ำและยังประสบภัยแล้งทำให้ปริมาณอ้อยลดลงอย่างต่อเนื่อง เกษตรกรส่วนใหญ่ต้องประสบภาวะขาดทุน
“อ้อยไฟไหม้นั้นผมเห็นว่าบางรายเขาก็ไม่ได้เจตนาก็มีไม่ใช่ไม่มีนะ แต่ภาพรวมการตัดอ้อยสดใครๆ ก็อยากทำเพราะราคาดี แต่เราต้องดูที่เหตุและผลด้วย เครื่องตัดอ้อยราคายังแพงมากที่เขาซื้อไป 2-3 ปีมานี้ก็ขาดทุนกัน ซึ่งการเปิดหีบอ้อยในฤดูหีบปี 2563/64 ทางโรงงานน้ำตาลทรายเองมองว่าควรจะเริ่มวันที่ 7 ธ.ค.นี้ แต่ชาวไร่อ้อยเห็นว่าน่าจะ 15 ธ.ค.เพราะแรงงานไม่มีเพราะบางส่วนทำนายังอยู่ระหว่างเก็บเกี่ยวก็คงจะต้องทยอยเปิด” นายธีระชัยกล่าว
นายนราธิป อนันตสุข หัวหน้าสำนักงานสหพันธ์ชาวไร่อ้อยแห่งประเทศไทย และสมาคมกลุ่มชาวไร่อ้อยเขต 7 กล่าวว่า ชาวไร่อ้อยต้องการให้รัฐพิจารณาวงเงินช่วยเหลือปัจจัยการผลิตเช่นฤดูหีบที่ผ่านมาทั้งในด้านปัจจัยการผลิตและการตัดอ้อยสด ทั้งนี้ หากพิจารณาจากต้นทุนการผลิตปี 63/64 ของชาวไร่จะอยู่ที่ประมาณ 1,133 บาทต่อตัน โดยมีการประเมินว่าราคาอ้อยขั้นต้นฤดูการผลิตปี 63/64 จะอยู่ที่เฉลี่ยประมาณ 900 บาทต่อตัน แม้ว่าทิศทางจะดีขึ้นแต่หากพิจารณาจากต้นทุนก็ยังคงสูง ขณะเดียวกัน ปริมาณผลผลิตอ้อยที่จะเข้าหีบคาดว่าจะลดต่ำต่อเนื่องเหลือไม่เกิน 70 ล้านตัน และยังมีปัจจัยค่าเงินบาทที่แข็งค่าที่ต้องติดตามที่จะกระทบให้ราคาอ้อยลดลงได้อีก