xs
xsm
sm
md
lg

ส.อ.ท.มองข้ามช็อตส่งออกปี 64โต 4% ได้หากบาทไม่แข็งล้ำเกินคู่แข่ง - โควิด-19 คุมอยู่

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ส่งออกไทยเริ่มปรับตัวดีขึ้น ส.อ.ท.คาดปี 2563 ติดลบลดลงเหลือ 7-8% คาดการณ์ปี 2564 พลิกกลับมาโต 4% ภายใต้สมมติฐานค่าบาทไม่แข็งค่าล้ำเพื่อนบ้าน และโควิด-19 ไม่ระบาดรอบใหม่ หวัง ธปท.ดูแลค่าเงินบาทใกล้ชิดให้สอดรับกับคู่แข่งการค้า จับตาเวียดนามมาแรงแซงโค้งเบียดส่งออกไทยโตต่อเนื่อง

นายเกรียงไกร เธียรนุกุล รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ส.อ.ท.ประเมินแนวโน้มการส่งออกของไทยปี 2563 ทั้งปีจะติดลบประมาณ 7-8% ซึ่งปรับตัวดีขึ้นจากช่วงต้นปีที่เคยประเมินไว้ว่าจะติดลบ 10-12% หลังจากที่ 10 เดือนแรก (ม.ค.-ต.ค. 2563) ส่งออกไทยติดลบ 7.62% ซึ่งมีทิศทางที่ดีขึ้นจากการทยอยฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกต่อเนื่อง และคาดว่าปี 2564 การส่งออกไทยจะพลิกกลับมาเติบโตได้ประมาณ 4% ภายใต้สมมติฐานที่ค่าเงินบาทของไทยไม่แข็งค่ากว่าประเทศคู่แข่งทางการค้าและไม่มีการกลับมาระบาดโควิด-19 รอบใหม่

“นโยบายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนใหม่ทำให้หลายฝ่ายต่างคาดการณ์ว่าการค้าของโลกจะกลับมาผ่อนคลายมากขึ้น แต่ขณะเดียวกันก็มีนโยบายที่จะใช้เม็ดเงินถึง 2 ล้านล้านเหรียญฯในการลงทุนรวมถึงการเก็บภาษีคนรวยซึ่งเหล่านี้จะส่งผลให้เงินทุนอาจไหลเข้ามาไทยในระยะต่อไปที่จะทำให้บาทแข็งค่าได้ ดังนั้นหวังว่าธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) คงต้องดูแลอย่างใกล้ชิด เพราะไม่เพียงกระทบส่งออก ยังรวมถึงราคาสินค้าเกษตรของไทยด้วย” นายเกรียงไกรกล่าว

ทั้งนี้ 3 มาตรการที่ ธปท.ออกมาดูแลค่าบาทล่าสุด ได้แก่ 1. ให้คนไทยฝากเงินตราต่างประเทศ (FCD) ได้เสรีและโอนเงินระหว่างบัญชีของคนไทยได้เสรี 2. เพิ่มวงเงินให้รายย่อยลงทุนโดยตรงในต่างประเทศเป็น 5 ล้านเหรียญสหรัฐต่อปีจากเดิม 2 แสนเหรียญสหรัฐต่อปี ฯลฯ และ 3. ให้ผู้ลงทุนต่างชาติต้องลงทะเบียนแสดงตัวตนก่อนการซื้อขายตราสารหนี้ซึ่งมาตรการที่ 3 จะเริ่มในปี 2564 โดยมาตรการทั้งหมดเป็นการดูแลค่าเงินบาทระยะกลางและยาวซึ่งถือเป็นมาตรการที่ดีและคาดว่าจะเกิดผลให้เห็นเป็นรูปธรรมชัดเจนปี 2564 เป็นสำคัญ

นายเกรียงไกรชี้ว่า ส.อ.ท.ต้องการค่าเงินบาทที่ให้สะท้อนกับค่าเงินของประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะประเทศที่เป็นคู่แข่งทางการค้าที่มีสินค้าส่งออกประเภทเดียวกันกับไทยเป็นสำคัญ หนึ่งในประเทศดังกล่าวคือ เวียดนาม ที่จะเห็นว่าขณะนี้ค่าเงินด่องยังคงอ่อนค่ามากเมื่อเทียบกับค่าเงินบาทของไทย ส่งผลให้การส่งออกของเวียดนามยิ่งมีแต้มต่อมากขึ้น จากเดิมก็มีความได้เปรียบไทยในแง่ของการที่เวียดนามได้ทำข้อตกลงการค้าเสรี (FTA) มากกว่าไทยถึง 3 เท่า โดยเฉพาะ FTA ไทย-อียู, ความตกลงที่ครอบคลุมและก้าวหน้าเพื่อหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก (CPTPP) ฯลฯ

“จะเห็นว่าการส่งออกของเวียดนามปี 2562 และปี 2563 ได้พลิกกลับมาแซงไทยต่อเนื่อง ดังนั้น เรื่อง FTA และ CPTPP ไทยเองต้องวางบทบาทในการเข้าร่วมให้มากขึ้นในระยะต่อไป” นายเกรียงไกรกล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น