“สุริยะ” เร่งเครื่อง กรอ.เดินหน้าช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอีลุยจดทะเบียนกรรมสิทธิ์เครื่องจักร โชว์ผลงานปี 63 อุ้มผู้ประกอบการเข้าถึงแหล่งเงินในระบบกว่า 80,000 ล้านบาท คาดปี 64 มีเอสเอ็มอีนำเครื่องจักรเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันกับสถาบันการเงินกว่า 1,300 ราย หนุนผู้ประกอบการมีเงินลงทุนเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตมากขึ้น 15%
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า กรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) ได้ดำเนินงานด้านการจดทะเบียนกรรมสิทธิ์เครื่องจักร และมีโครงการปรับเปลี่ยนเครื่องจักรเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นโครงการต่อเนื่องที่ทำมาทุกปี โดยเมื่อวันที่ 3 พ.ย.ที่ผ่านมาที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้อนุมติหลักการยกเว้นค่าธรรมเนียมจดทะเบียนเครื่องจักรเป็นระยะเวลา 1 ปี เพื่อบรรเทาผลกระทบของผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยมีผลบังคับใช้เมื่อพ้นกำหนด 15 วันนับแต่วันที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษา
สำหรับรายละเอียดประกอบด้วย 3 รายการ ดังนี้คือ 1. ค่าจดทะเบียนกรรมสิทธิ์เครื่องจักร ปกติอัตราจัดเก็บอยู่ที่เครื่องละ 750 บาท แต่ไม่เกิน 12,000 บาท 2. ค่าเครื่องหมายการจดทะเบียน ซึ่งเจ้าพนักงานได้ประทับหรือทำไว้ที่เครื่องจักร อัตราการจัดเก็บค่าธรรมเนียมอยู่ที่เครื่องหมายละ 120 บาท แต่ไม่เกิน 1,200 บาท และ 3. ค่าคัดสำเนาเอกสารพร้อมด้วยคำรับรองว่าถูกต้อง อัตราจัดเก็บอยู่ที่หน้าละ 10 บาท ซึ่งกระทรวงอุตสาหกรรมได้ประมาณการการสูญเสียรายได้จากการยกเว้นการจัดเก็บค่าธรรมเนียมครั้งนี้ในรอบ 1 ปี อยู่ที่ประมาณ 2 ล้านบาท
“ได้กำชับให้ กรอ.เร่งดำเนินโครงการดังกล่าวเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการให้มีเงินทุนเข้าไปหมุนเวียนในการทำธุรกิจ ซึ่งจะช่วยลดการเลิกจ้างงาน พยุงภาคอุตสาหกรรมให้ยังสามารถทำหน้าที่ในการช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ รวมถึงยังเป็นการสนับสนุนเศรษฐกิจฐานรากตามนโยบายของรัฐบาลด้วย” นายสุริยะกล่าว
สำหรับปีงบประมาณ 2563 (ต.ค. 62-ก.ย. 63) พบว่ามีมูลค่าการจดทะเบียนกรรมสิทธิ์เครื่องจักร ประมาณ 100,000 ล้านบาท โดยมีผู้ประกอบการยื่นจดทะเบียนกรรมสิทธิ์เครื่องจักรทั้งสิ้น 1,157 ราย ในจำนวนนี้คิดเป็นเครื่องจักรที่จดทะเบียนทั้งสิ้น 6,036 เครื่อง โดยผู้ประกอบการเอสเอ็มอีสามารถนำเครื่องจักรดังกล่าวมาเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันเงินกู้กับสถาบันการเงินในระบบ คิดเป็นวงเงินจำนองประมาณ 80,000 ล้านบาท โดยมีผู้ประกอบการเอสเอ็มอีเข้าร่วมโครงการกว่า 107 ราย จำนวนเครื่องจักร 2,131 เครื่อง ส่งผลให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีมีการลงทุนในการปรับเปลี่ยนเครื่องจักรเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต 600 ล้านบาท โดยมีระยะเวลาคืนทุนประมาณ 3 ปี
สำหรับปีงบประมาณ 2564 (ต.ค. 63-ก.ย. 64) กระทรวงอุตสาหกรรม โดย กรอ.ยังคงเดินหน้าโครงการดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง โดยมุ่งให้ความช่วยเหลือในกลุ่มผู้ประกอบการเอสเอ็มอีมากขึ้น เพื่อให้สามารถเข้าถึงแหล่งเงินในระบบได้อย่างมีประสิทธิภาพตามนโยบายของรัฐบาล เบื้องต้นคาดว่าจะมีผู้ประกอบการนำเครื่องจักรเข้ามาจดทะเบียนมากกว่า 1,300 ราย และมีผู้ประกอบการเอสเอ็มอีนำเครื่องจักรเข้าร่วมโครงการปรับเปลี่ยนเครื่องจักรเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพมากกว่า 2,200 เครื่อง ซึ่งจะช่วยให้ผู้ประกอบการมีเงินลงทุนในการเพิ่มประสิทธิภาพเครื่องจักรมากขึ้น 10-15%
อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการที่นำเครื่องจักรเข้าร่วมโครงการปรับเปลี่ยนเครื่องจักรเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพกับ กรอ. นอกจากจะสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนในระบบได้แล้ว ยังได้รับสิทธิประโยชน์อีก 4 ด้าน คือ 1. สินเชื่ออัตราดอกเบี้ยพิเศษจากสถาบันการเงิน 18 แห่ง 2. เงินทุนหมุนเวียน 3. ได้รับการยกเว้นภาษี และ 4. สิทธิประโยชน์อื่นๆ อาทิ การยื่นคำขอจดทะเบียนผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ที่สะดวก รวดเร็ว ลดเวลาดำเนินการ
ผู้ประกอบการที่สนใจสามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานทะเบียนเครื่องจักรกลาง กรมโรงงานอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม