แม้ว่าช่วงนี้จะเป็นช่วงเศรษฐกิจขาลง แต่ก็มีดีลใหญ่ระดับอินเตอร์ที่ทั่วโลกจับตามอง อย่างการซื้อขายเทสโก้ โลตัสที่มีขนาดใหญ่โตมโหฬาร บริษัททั้งผู้ซื้อ และผู้ขายอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ และมีมูลค่าดีลสูงถึงกว่า 3.38 แสนล้านบาท ทำให้การขยับตัวของทุกฝ่ายเป็นไปด้วยความระมัดระวัง และต้องใช้มืออาชีพในการบริหารจัดการเพราะเกี่ยวข้องกับคนจำนวนมาก
ในดีลใหญ่ขนาดนี้ การขับเคลื่อนแต่ละขั้นตอนต่างต้องเฝ้ารอ 1. Tesco PLC ซึ่งอยู่ในตลาดหลักทรัพย์อังกฤษที่เป็นบริษัทแม่รับทราบมติที่ประชุมจาก 2. มติสำนักงานคณะกรรมการแข่งขันทางการค้า (กขค.) ที่ต้องเป็นทางการเท่านั้น เพื่อไม่ให้เกิดข่าวลือที่จะกระทบต่อราคาหุ้น และ 3. Ministry of Domestic Trade and Consumer Affairs of Malaysia ที่อนุญาตให้ซื้อกิจการในมาเลเซีย
แต่จากการติดตามข่าวจากคณะกรรมการ กขค.ไทย เสียงข้างน้อยที่ออกมาให้ข่าวหลายวันติด ก็เกิดความหวั่นไหวว่าจะทำให้การเจรจาเกิดความสับสน และอาจผิดหลักธรรมาภิบาล ที่หน่วยงานที่อยู่ในการเจรจานำข้อมูลมาเสนอสาธารณะ โดยมิได้รับความเห็นชอบ และเป็นตัวแทนจากคณะกรรมการ กขค.ในการให้ข้อมูล เพราะข้อมูลทุกอย่างอาจนำมาซึ่งความเสียหาย และอาจส่งผลต่อตลาดหุ้นในหลายประเทศ ดังนั้น เรื่องธรรมาภิบาลและมารยาทในการเจรจาธุรกิจจึงเป็นสิ่งที่ทุกฝ่ายให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก
หากพูดถึงชื่อ นายสันติชัย สารถวัลย์แพศย์ ในแวดวงการค้าการขายคงเป็นที่รู้จักกันดี เพราะเป็นอดีตรองอธิบดีกรมการค้าภายใน ที่เรียกได้ว่าเป็นมือขวาของ นายศิริพล ยอดเมืองเจริญ อดีตอธิบดีกรมการค้าภายใน ล่าสุดมีข่าวว่านายสันติชัยเตรียมแจ้งสื่อเพื่อแถลงข่าวถึงความเห็นของคณะกรรมการ กขค. เสียงข้างน้อย ที่อาจกระทบกระเทือนความเชื่อมั่นตลาดหลักทรัพย์ไทย และอังกฤษ จนต้องถามกันวุ่นคนนี้เป็นใคร เช็กข่าววงในกันอุตลุดว่าไม่รู้หรือว่ากำลังเสี่ยงต่อประเด็นในลักษณะการผลักดันราคา และส่งผลต่อการซื้อขาย โดยรู้เห็นข้อมูลในระหว่างตกลงการค้าและอยู่ระหว่างการเจรจาในลักษณะอำพราง หรือทำให้นักลงทุนทั่วไปหลงผิดในช่วงเวลาใดช่วงเวลาหนึ่ง ซึ่งต้องไปว่ากันยาว เพราะไม่แน่ใจว่าปรึกษากันมาดีหรือไม่ก่อนที่จะมาให้ข่าว เพราะยังมีขั้นตอนอีกมากที่ผู้ซื้อและผู้ขายต้องนำกลับไปพิจารณา ดังนั้น ประเด็นที่นายสันติชัยจะออกมาแสดงความเห็นจากกรรมการ กขค.เสียงส่วนน้อยนั้น เป็นมารยาทที่ไม่เห็นบ่อยนัก เพราะควรเป็นการแสดงความเห็นทุกมิติจากกรรมการทั้งหมด มิใช่กรรมการเสียงข้างน้อย ทำให้ภาพลักษณ์ของกรรมการ กขค.นั้นดูไม่เป็นเอกภาพ และขาดความเป็นมืออาชีพในฐานะผู้กำกับดูแล
อย่างไรก็ดี ปัจจุบันตลาดค้าปลีกเป็นการงัดกันระหว่างผู้ประกอบการเครือข่ายค้าปลีกเดิมที่มีค้าปลีกรายย่อยรวมโชวห่วย ตลาดสด อยู่กว่า 7 แสนราย ในขณะที่ตลาดสมัยใหม่กำลังเข้ามาสร้างความปกติใหม่ ไม่ว่าจะเป็น 7-Eleven, Lawson, 108shop, familymart ซึ่งคณะกรรมการ กขค.จะเป็นที่พึ่งของตลาดค้าปลีกได้ก็ต้องดำเนินการแบบมืออาชีพ และคงความน่าเชื่อถือ โดยเฉพาะการไม่ทำให้ตลาดตกใจไปกับความเห็นของบุคคลใดบุคคลหนึ่งที่ไม่ใช่องค์คณะ
หากไทยจะก้าวสู่ตลาดการแข่งขันทางการค้าระดับโลก อาจต้องเริ่มจากสิ่งเล็กๆ คือ การเคารพกติกาและขั้นตอนที่โปร่งใส ความเชื่อมั่นในการลงทุนของประเทศไทยจึงจะเกิดขึ้นได้อย่างมั่นคง