xs
xsm
sm
md
lg

LIVE ขายสินค้าฟูเฟื่อง ไทยตลาดรุ่งพุ่ง 173% ทุบสถิติ

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



การตลาด - ช่องทางไลฟ์สด (Live) ขายสินค้าในไทยฟูเฟื่อง ช้อปพลัส เปิดเผยตัวเลขสถิติน่าสนใจ พร้อมจัดมหกรรมยิ่งใหญ่ 11.11 พร้อมดันเทคโนโลยีแจ้งเกิดให้ผู้ขาย รองรับนักชอปปิ้งในยุคโควิด
ตลาดการไลฟ์ขายสินค้าถือเป็นโซเชียลคอมเมิร์ซแบบหนึ่ง เป็นเทรนด์ที่มาแรงและเติบโตดีมากในประเทศไทย ไม่แพ้ช่องทางการขายแบบอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นโซเชียลคอมเมิร์ซ์ผ่านโมเดลอื่น หรือการชอปปิ้งออนไลน์ ช่องทางมาร์เกตเพลซ หรือช่องทางแบบออฟไลน์ที่เป็นหน้าร้าน 

ประเทศก็เป็นหนึ่งในตลาดที่มีความสำคัญของผู้ประกอบการโซเชียลคอมเมิร์ซต่างๆ จะเห็นได้ว่าในช่วงไม่กี่ปีนี้ตลาดไลฟ์สินค้าบูมอย่างมาก ซึ่งคนไทยเองก็เป็นคนที่ชอบการชอปปิ้งอยู่แล้วด้วย 

ประกอบกับในช่วงปีนี้ที่มีปัจจัยเรื่องโควิด-19 เข้ามาส่งผลกระทบต่อธุรกิจทั้งหมด แต่กลับกลายเป็นแรงผลักดันให้ชอปปิ้งออนไลน์ และโซเชียลคอมเมิร์ซเป็นช่องทางหลักมากขึ้น ประกอบกับคนไทยมีพฤติกรรมการเล่นโซเชียลมีเดียมากที่สุดในโลกก็ว่าได้ มากถึง 5 ชั่วโมงต่อวัน 


“จากข้อมูลที่ประเมินไว้พบว่า การชอปปิ้งในโลกออนไลน์ทั้งหมดจะเพิ่มขึ้นถึง 3 เท่าจากปัจจุบันนี้ภายในปี ค.ศ. 2025 ในตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้” นางสาวคิมมี เฉิน ผู้จัดการทั่วไป Shoplus ภายใต้ บริษัท ไอคาล่า คอร์ป (ไทย) จำกัด กล่าว 

ทั้งนี้ ในตลาดประเทศไทย ในช่วงโควิด-19 ระบาดมากครึ่งแรกปี 2563 จะเห็นได้ว่าคนไทยมีการชอปปิ้งผ่านออนไลน์มากขึ้นถึง 40% แต่ที่เป็นดาวรุ่งก็คือ การไลฟ์ขายสินค้า โดยพบว่าเทรนด์การชอปปิ้งผ่านโซเชียลคอมเมิร์ซของคนไทยนั้นผ่านช่องทางไลฟ์มากที่สุดถึง 40% และรองลงมาคือ ช่องทางอีคอมเมิร์ซ สัดส่วน 35% และอื่นๆ 25% 

จากข้อมูลของ ช้อปพลัส เมื่อเปรียบเทียบกันระหว่างโมเดลหลายๆ อย่างจะเห็นได้ชัด กล่าวคือ 

ผ่านเฟซบุ๊ก หรือโพสต์แล้วขาย ในไตรมาสที่ 1 ปี 2563 มีสัดส่วน 22.55% แต่ลดลงอย่างมากเหลือสัดส่วนแค่ 16.05% ในไตรมาสที่ 2

ผ่านช่องทางแชตบอตเซล มีสัดส่วน 23.53% ในไตรมาสที่ 1 แต่ตกลงมาเช่นกันเหลือที่ 17.17% เท่านั้น

ส่วนช่องทางไลฟ์ขายสินค้า ไตรมาสที่ 1 มีเพียง 53.93% ซึ่งก็มากกว่าช่องทางอื่น แต่กลับเพิ่มเป็น 66.78% ในไตรมาสที่ 2 แซงหน้าช่องทางอื่นๆ อย่างชัดเจน 


แต่ที่น่าสนใจก็คือ การกลับมาซื้อซ้ำของผู้บริโภคคนไทยในช่องทางโซเชียลคอมเมิร์ซมีสูงอยู่เช่นกัน คือเฉลี่ย 4 วันจะกลับเข้ามาซื้ออีก ขณะที่ฟิลิปปินส์อยู่ที่ 3.1 วัน เวียดนามอยู่ที่ 3 วัน ส่วนสิงคโปร์อยู่ที่ 5.6 วัน 

ในระบบของช้อปพลัสก็เติบโต เมื่อพบว่าจากปกติมีผู้ที่เข้ามาสู่ระบบการไลฟ์ขายสินค้าของช้อปพลัสเฉลี่ย 3,000 กว่าไลฟ์ต่อสัปดาห์ ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม 2563 เพิ่มเป็นเฉลี่ยมากกว่า 7,000 ไลฟ์ต่อสัปดาห์ เพราะสถานการณ์โควิดเป็นอีกตัวเร่งหนึ่งด้วย

ปัจจุบันช้อปพลัสมีผู้เข้ามาลงทะเบียนขายในระบบมากกว่า 40,000 รายในช่วงเดือนเมษายนนี้ ขณะนี้ตัวเลขเพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยแยกเป็นผู้ประกอบการหรืออองเทรอเพรอเนอร์ ประมาณ 20%, แบบเอสเอ็มอีและผู้ขายปลีกและแบรนด์ สัดส่วน 40% และอินดิวิดวลเซลเลอร์ 40%


โดยเมื่อไตรมาสที่ 1 ในระบบของช้อปพลัส การไลฟ์ขายสินค้าเฉลี่ยมากถึง 53% และเพิ่มเป็น 66% ในไตรมาสที่ 2 ซึ่งการไลฟ์นี้มีการเพิ่มความเข้าถึงผู้บริโภคได้มาก เพราะสังเกตได้จากการที่มีคอมเมนต์ผ่านการไลฟ์ที่มาจากการคอมเมนต์ของผู้บริโภคพบว่า ในไตรมาสที่ 1 มีเอนเกจมากถึง 28.9% และเพิ่มมาเป็น 71% ในไตรมาสที่ 2 ซึ่งเพิ่มขึ้นเกือบ 3 เท่า

การไลฟ์ขายสินค้านั้นถือเป็นช่องทางที่สามารถทำได้ง่ายและมีข้อจำกัดที่น้อย เมื่อเทียบกับช่องทางอื่นๆ อีกทั้งอยู่ที่ลูกเล่นและความสามารถเฉพาะของผู้ขายแต่ละรายด้วย รวมทั้งเครื่องมือประกอบ จุดเด่นของการไลฟ์ขายสินค้าก็คือ เป็นอีกช่องทางหนึ่งที่สามารถทำให้แบรนด์สินค้าหรือผู้ขายสามารถสื่อสารกับผู้ซื้อหรือผู้บริโภคได้มาก และใกล้ชิด ไม่เหมือนแบบฮาร์ดเซลมากนัก หรือเอาเซเลบริตีมาร่วมขายได้ และคนก็สามารถตัดสินใจซื้อสินค้าได้เร็วแบบเรียลไทม์ 

รูปแบบการไลฟ์ขายสินค้านั้น ต้องทำไปเรื่อยๆ บ่อยๆ ทำให้มีลูกค้าเข้ามาสม่ำเสมอ ซึ่งอาจจะทำการไลฟ์แบบเป็นแคมเปญ เปิดตัวสินค้า หรือเปิดตัวแบรนด์ คอลเลกชันใหม่ เป็นเรื่องราว หรือการทำเป็นซีรีส์หลายตอนในการขายสินค้า 


“ผู้บริโภคชาวไทยให้การตอบรับการไลฟ์สดขายสินค้าอย่างยอดเยี่ยมมากในปีนี้ ในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด เราได้เห็นการเติบโตที่น่าตื่นเต้นในทวีปเอเชียของการไลฟ์สดขายสินค้า โดยแบรนด์และผู้ประกอบการ SME มากมายได้รับประโยชน์จากการที่สามารถสร้างปฏิสัมพันธ์และมีส่วนร่วมกับลูกค้าได้มากขึ้น รวมถึงเพิ่มอัตราการซื้อซ้ำที่สูงขึ้นเช่นกัน” นางสาวคิมกล่าว

นอกจากนั้นแล้วพบว่าผู้หญิงเป็นกลุ่มที่มีอำนาจในการซื้อสินค้าผ่านช่องทางไลฟ์มากที่สุดมากกว่า 50% ในขณะนี้ อยู่ในช่วงอายุ 25-44 ปี ซึ่งสอดคล้องกับเวียดนาม ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ และคาดว่าภายในปี ค.ศ. 2028 ผู้หญิงจะมีอำนาจการชอปปิ้งมากขึ้นเป็น 75% ของทั้งหมด

ทั้งนี้ การไลฟ์สดขายสินค้าในประเทศไทยเติบโตขึ้นมากตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมานี้ โดยอัตราการเติบโตของปริมาณออเดอร์ปี 2563 อยู่ที่ 173% ซึ่งนับเป็นการเติบโตที่สูงที่สุดในทวีปเอเชีย โดยสิงคโปร์ (155%) เวียดนาม (101%) และฟิลิปปินส์ (+36%) ก็มีแนวโน้มเติบโตขึ้นเรื่อยๆ เช่นกัน มูลค่าสินค้ารวม (GMV) หรือมูลค่าสินค้าที่ขายได้ทั้งหมดของร้านค้าที่ใช้บริการ Shoplus เติบโตขึ้นสามเท่าในช่วงครึ่งปีแรก (+307%) นำโดยสิงคโปร์ที่มียอดมูลค่าสินค้ารวมเติบโตสูงสุด (+678%) รองลงมาคือ ฟิลิปปินส์ (+309%) และประเทศไทย (+212%)

ขณะที่ในช่วงไตรมาสที่ 1 นั้น ข้อมูลของช้อปพลัสพบว่าประเทศไทยมีการขายสินค้าไลฟ์สดเป็นกลุ่มสินค้าเสื้อผ้ามากที่สุดถึง 36% รองลงมาคือ สินค้าอื่นๆ ทั่วไป 21% และเพชรกับนาฬิกา 5% ส่วนไตรมาสที่ 2 คือ เสื้อผ้า สัดส่วน 31% รองลงมาคือ สินค้าบริการอื่นๆ 21% และซื้อผ่านช่องทางรีเทล 7% 

ช่องทางหลายโมเดลของการซื้อของผู้บริโภคก็มีความแตกต่างไป โดยเฉพาะในเรื่องของมูลค่าการซื้อสินค้า ซึ่งในช่องทางไลฟ์ขายสดนี้เฉลี่ยที่ 450-600 บาทต่อครั้ง ส่วนอีมาร์เกตเพลซ เช่น ลาซาด้า หรือช้อปปี้ มูลค่าซื้อเฉลี่ยที่ 730 บาทขึ้นไป เนื่องจากว่าอีคอมเมิร์ซอาจจะมีการทำการลดราคา การทำโปรโมชัน ทำให้ค่าเฉลี่ยต่างกัน


ล่าสุดกับมหกรรม 11.11 ทางช้อปพลัสได้เปิดตัวเทคโนโลยี Live Shoplus ในการเพิ่มประสิทธิภาพการไลฟ์สดขายสินค้าบนเฟซบุ๊ก เทคโนโลยี AI อัจฉริยะ ที่รวมการไลฟ์สดและการจัดออเดอร์เข้าไว้ด้วยกัน จัดงานไลฟ์ชอปปิ้งเฉลิมฉลองเทศกาล 11.11 ให้ได้ชอปต่อเนื่องทั้งวันเป็นครั้งแรก ร่วมกับแบรนด์ชั้นนำจากไทยและต่างประเทศ ในการเพิ่มประสิทธิภาพการไลฟ์สดขายสินค้าบนเฟซบุ๊ก เริ่มตั้งแต่เวลา 09.00 น. ต่อเนื่องตลอดทั้งวัน

“เพื่อเฉลิมฉลองการจัดงาน Live Shopping Day ครั้งแรกนี้ นักชอปจะได้พบกับส่วนลดพิเศษสูงสุดถึง 80% รางวัลพิเศษ และค่าจัดส่งฟรีทุกรายการตลอดทั้งวัน นอกจากนี้ ทุกการไลฟ์ของแต่ละร้านจะมีเซอร์ไพรส์พิเศษเป็น สินค้าราคา 1 บาท เพื่อเป็นรางวัลแก่นักชอปที่เข้ามาร่วมซื้อสินค้าในงานไลฟ์ชอปปิ้งครั้งนี้ โดยระบบจะทำการสุ่มเลือกผู้โชคดีที่ร่วมเล่นกิจกรรมเพื่อซื้อสินค้าชิ้นพิเศษในราคา 1 บาทระหว่างการไลฟ์” คิมมี เฉิน ผู้จัดการทั่วไป Shoplus กล่าว

งาน Live Shopping Day โดย Shoplus ได้รวบรวมสินค้ามากมายหลากหลายจากแบรนด์ดังระดับโลกและไทย ไม่ว่าจะเป็น Samsonite, AJ, HSHGold ห้างทองเฮงเซ่งเฮง, Giordano, NaRaYa, AVcentershop, Alee officesupply, Sale อลังการ แว่นตา&เครื่องประดับ, ทำขนมกับอัณ Bake with Aun, Fulfill store, Bizzy Shop, Maximum by June, B T Richer Fruit, Juree888 มุกภูเก็ต และอื่นๆ อีกมาก

ผู้เข้าร่วมไลฟ์สามารถลงทะเบียนใช้ Shoplus ได้ฟรี ทดลองระบบการทำงานของ Shoplus ในการตอบโจทย์การขายผ่านโพสต์เฟซบุ๊ก และสามารถเริ่มต้นใช้งานได้ในราคาเพียง 30 บาทต่อเดือน ไปจนถึง 1,490 บาทต่อเดือน โดยขึ้นอยู่กับจำนวนสินค้าที่ขายได้ เพื่อมอบโอกาสให้ธุรกิจขนาดเล็กที่เพิ่งเริ่มต้นได้เติบโตไปพร้อมกับการสร้างยอดขายผ่านช่องทางออนไลน์












กำลังโหลดความคิดเห็น