ปตท.สผ.คาดปี 64 ปริมาณการขายปิโตรเลียมโต 5% จากปี 63 ที่มีปริมาณขาย 3.5 แสนบาร์เรล/วัน เหตุรับรู้กำลังการผลิตจากโครงการ Murphy Sabah และโครงการแอลจีเรีย ฮาสสิ เบอร์ ราเคซ ส่วนโครงการ SK410B จะตัดสินใจลงทุนขั้นสุดท้ายเร็วๆ นี้
นางชนมาศ ศาสนนันทน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายการเงิน บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ PTTEP เปิดเผยว่า ในปี 2564 ปตท.สผ.มีโครงการใหม่ที่จะทยอยรับรู้กำลังการผลิตเพิ่มเข้ามาตั้งแต่ต้นปีได้แก่ โครงการ Murphy Sabah แม้ว่าจะล่าช้ากว่าแผนเดิมที่ตั้งเป้าผลิตในปีนี้ แต่ก็จะเห็นการผลิตได้ภายช่วงครึ่งแรกปี 2564 ขณะที่โครงการ SK410B ที่ได้มีการค้นพบก๊าซแล้ว คาดว่าสามารถตัดสินใจลงทุนขั้นสุดท้าย (FID) เร็วๆ นี้
นอกจากนี้ โครงการแอลจีเรีย ฮาสสิ เบอร์ ราเคซ (HBR) ซึ่ง ปตท.สผ.มีสัดส่วนการลงทุนในโครงการฯ 49% คาดว่าจะเริ่มผลิตในระยะแรกได้ที่ระดับ 1-1.3 หมื่นบาร์เรลต่อวันในช่วงหลังของปี 2564 และจะเพิ่มการผลิตเป็น 5-6 หมื่นบาร์เรลต่อวันในปี 2568
ส่งผลให้แนวโน้มปริมาณการขายปิโตรเลียมในปี 2564 เติบโตไม่ต่ำกว่าเป้าที่ตั้งการโตไว้ 5% ต่อปี เทียบกับปีนี้ที่มีปริมาณการขายปิโตรเลียมอยู่ที่ 3.5 แสนบาร์เรลต่อวัน
ส่วนแนวโน้มราคาปิโตรเลียมปี 2564 คาดว่าจะปรับตัวสูงขึ้นเช่นกัน โดยประมาณการณ์ราคาน้ำมันดิบปีหน้าไว้ที่ 45-50 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล จากปัจจุบันอยู่ที่ 43 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ส่วนราคาก๊าซก็ปรับขึ้นตามราคาน้ำมันดิบ โดยพบว่าราคาก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) ตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้น เทียบกับปี 2563 อยู่ที่ประมาณ 3.3-3.6 เหรียญสหรัฐต่อล้านบีทียู
สำหรับความคืบหน้าการเข้าพื้นที่แปลงเอราวัณ ขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจากับทางเชฟรอนฯ ซึ่งเป็นผู้รับสัมปทานเดิม ในการขอเข้าพื้นที่ติดตั้งแท่นผลิตและท่อใต้ทะเล ซึ่ง ปตท.สผ.ได้เริ่มวางแผนการเจาะหลุมสำรวจ การสร้างแท่นหลุมผลิตและท่อส่งก๊าซฯ รวมถึงเตรียมความพร้อมด้านอื่นๆ เพื่อให้สามารถผลิตก๊าซฯ ได้ตามแผนในปี 2565