xs
xsm
sm
md
lg

ครม.อนุมัติโครงการประกันรายได้ “ข้าว-ยางพารา” ปี 2 ช่วยเหลือเกษตรกร

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ครม.อนุมัติโครงการประกันรายได้ “ข้าว-ยางพารา” ปี 2 วงเงินรวม 61,900.82 ล้านบาท “จุรินทร์” เผยข้าวใช้เงื่อนไขเดิม ประกัน 5 ชนิด เริ่ม ต.ค. 63-พ.ค. 64 พร้อมมีมาตรการคู่ขนาน 3 โครงการ ดึงผลผลิตส่วนเกิน เป้า 7 ล้านตันข้าวเปลือก ส่วนเงินค่าบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพจ่ายก่อนไร่ละ 500 ไม่เกิน 20 ไร่ ขณะที่ยางพาราคงเงื่อนไขเช่นเดิม เริ่ม ต.ค. 63-มี.ค. 64

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ที่ประชุม ครม.ได้มีมติอนุมัติดำเนินมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวและยางพารา มีวงเงินรวม 61,900.82 ล้านบาท โดยเป็นสินค้าข้าววงเงิน 51,858 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2563/64 มาตรการคู่ขนาน และโครงการสนับสนุนค่าบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพผลผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2563/64

สำหรับรายละเอียดโครงการประกันรายได้ ปี 2 ได้กำหนดราคาและปริมาณประกันรายได้เกษตรกรเช่นเดียวกับปีที่ผ่านมา ได้แก่ ข้าวเปลือกหอมมะลิ ราคาประกันตันละ 15,000 บาท ปริมาณไม่เกิน 14 ตัน ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ ราคาประกันตันละ 14,000 บาท ปริมาณไม่เกิน 16 ตัน ข้าวเปลือกเจ้า ราคาประกันตันละ 10,000 บาท ปริมาณไม่เกิน 30 ตัน ข้าวเปลือกหอมปทุมธานี ราคาประกันตันละ 11,000 บาท ปริมาณไม่เกิน 25 ตัน ข้าวเปลือกเหนียว ราคาประกันตันละ 12,000 บาท ปริมาณไม่เกิน 16 ตัน ระยะเวลาดำเนินการตั้งแต่เดือน ต.ค. 2563-พ.ค. 2564

ส่วนมาตรการคู่ขนานควบคู่กับโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2563/64 ได้แก่ 1. โครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี ระยะเวลาดำเนินการ 1 พ.ย. 2563-29 ก.พ. 2564 โดยนอกจากเกษตรกรจะได้รับสินเชื่อและไม่ต้องเสียดอกเบี้ยแล้ว เกษตรกรที่มียุ้งฉางจะได้รับค่าฝากเก็บตันละ 1,500 บาท กรณีสหกรณ์จะได้รับตันละ 1,000 บาท และสมาชิกจะได้รับตันละ 500 บาท 2. โครงการสินเชื่อเพื่อรวบรวมข้าวและสร้างมูลค่าเพิ่มโดยสถาบันเกษตรกร ระยะเวลาดำเนินการ 1 ต.ค. 2563-30 ก.ย. 2564 โดยสหกรณ์เสียดอกเบี้ยร้อยละ 1 และ 3. โครงการชดเชยดอกเบี้ยให้ผู้ประกอบการค้าข้าวในการเก็บสต๊อก ระยะเวลาดำเนินการ 1 พ.ย. 2563-31 มี.ค. 2564 ให้ผู้ประกอบการเก็บข้าวไว้ระยะเวลา 2-6 เดือน และจะได้รับชดเชยดอกเบี้ยร้อยละ 3 ซึ่งจะสามารถดูดซับอุปทานในช่วงที่ข้าวเปลือกออกสู่ตลาดมากเพื่อรักษาเสถียรภาพราคาข้าวเปลือก มีเป้าหมายอยู่ที่ 7 ล้านตันข้าวเปลือก และจะส่งผลให้ราคาข้าวมีเสถียรภาพช่วยให้รัฐบาลประหยัดงบประมาณในการชดเชยตามโครงการประกันรายได้

ขณะที่โครงการสนับสนุนค่าบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพผลผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2563/64 จะเริ่มเดือน พ.ย. 2563 เพื่อช่วยลดต้นทุนการผลิตให้แก่เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ช่วยให้เกษตรกรมีกำลังใจในการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตข้าว โดยในช่วงแรกเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการบริหารงบประมาณของรัฐบาล จะจ่ายเงินให้เกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2563/64 ในรอบแรกเบื้องต้นอัตราไร่ละ 500 บาท ไม่เกินครัวเรือนละ 20 ไร่ก่อน และในช่วงต่อไปจะได้หารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และนำเสนอ ครม.เพื่อขอรับจัดสรรงบประมาณเพิ่มเติมต่อไป

ทางด้านโครงการประกันรายได้ชาวสวนยางปี 2 ได้กำหนดราคาประกันรายได้ ยางแผ่นดิบกิโลกรัม (กก.) ละ 60 บาท น้ำยางสด กก.ละ 57 บาท ยางก้อนถ้วย กก.ละ 23 บาท รายละไม่เกิน 25 ไร่ ให้คนกรีดร้อยละ 40 และเจ้าของสวนร้อยละ 60 วงเงิน 10,042 ล้านบาท ระยะเวลาดำเนินการเดือน ต.ค. 2563-มี.ค. 2564 แต่ระหว่างนี้ยางพาราราคาดีดตัวสูงขึ้นทะลุราคาที่ประกันไว้ สร้างความพึงพอใจให้แก่เกษตรกรชาวสวนยางเป็นอย่างมาก แต่โครงการประกันรายได้เกษตรกรก็ยังเดินหน้าต่อ เพื่อเป็นหลักประกันว่าถ้าราคาตกลงมา เกษตรกรก็จะอยู่รอดได้ด้วยการประกันรายได้ที่ได้รับการอนุมัติในครั้งนี้


กำลังโหลดความคิดเห็น