xs
xsm
sm
md
lg

“ทศพล” อธิบดีใหม่กรมพัฒน์ เตรียมลุยช่วย SMEs นำเทคโนโลยีช่วยในการทำงาน

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“ทศพล” อธิบดีใหม่กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กางแผนทำงานปี 64 เตรียมช่วย SMEs โชวห่วย โอทอป เกษตรกร ผู้ผลิตสินค้าชุมชน ให้มีความเข้มแข็ง พร้อมเพิ่มช่องทางการตลาดทั้งออฟไลน์และออนไลน์ เล็งดันธุรกิจบริการที่มีศักยภาพ นำเทคโนโลยี AI มาใช้ในการจองชื่อบริษัท จ่อลดค่าธรรมเนียมเพื่อเพิ่มยอดจดนิติบุคคลออนไลน์ เผยมีแผนใช้ AI ตรวจสอบบัญชีธุรกิจ
นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยถึงแผนการทำงานในปี 2564 ภายหลังเข้ารับตำแหน่งอธิบดีคนใหม่ ว่าจะให้ความสำคัญต่อการพัฒนาผู้ประกอบการขนาดกลางและเล็ก (SMEs) และผู้ประกอบการท้องถิ่น ทั้งร้านโชวห่วยซึ่งเป็นร้านค้าที่มีความใกล้ชิดกับชุมชน ผู้ประกอบการสินค้าชุมชน โอทอป สินค้าเกษตร และผู้ประกอบการธุรกิจบริการ และธุรกิจแฟรนไชส์ ให้มีช่องทางการตลาดเพิ่มขึ้น และมีรายได้เพิ่มขึ้น เพื่อช่วยในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก ตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล และกระทรวงพาณิชย์
สำหรับแผนการพัฒนาโชวห่วยจะมีการยกระดับร้านค้าโชวห่วยเป็นสมาร์ทโชวห่วยให้มีจำนวนเพิ่มขึ้น จากปัจจุบันได้พัฒนาไปแล้วกว่า 3 หมื่นร้านค้า โดยจะช่วยยกระดับการบริหารจัดการร้านค้าปลีก ผลักดันให้มีการนำระบบบริหารจัดการหน้าร้าน (POS) มาใช้ ช่วยลดทุนการซื้อสินค้าเข้าร้านด้วยการประสานผู้ผลิตและซัปพลายเออร์ และจะผลักดันให้เป็นช่องทางการกระจายสินค้าโอทอป สินค้าชุมชน
ส่วนการเพิ่มช่องทางการจำหน่ายให้กับสินค้าโอทอป สินค้าเกษตร และสินค้าชุมชน จะเพิ่มช่องทางการตลาดทั้งออฟไลน์และออนไลน์ ผ่านการจำหน่ายในห้างค้าปลีกสมัยใหม่ ห้างสรรพสินค้า สนามบิน สถานที่ท่องเที่ยว ร้านค้าส่งค้าปลีกชุมชนทั่วประเทศ และช่องทางออนไลน์ รวมถึงการเชื่อมโยงผ่านเครือข่าย MOC Biz Club ทั่วประเทศ ส่วนธุรกิจบริการจะช่วยเพิ่มศักยภาพให้กับธุรกิจบริการที่มีแนวโน้มเติมโต เช่น ธุรกิจดูแลผู้สูงอายุ ร้านอาหาร แฟรนไชส์ โลจิสติกส์ สำนักงานบัญชี และเชื่อมโยงธุรกิจ Startup กับ SMEs เพื่อส่งเสริมการใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยี รวมทั้งจะผลักดันให้ธุรกิจมีการเข้าถึงแหล่งเงินทุนด้วยการใช้หลักประกันทางธุรกิจ
นายทศพลกล่าวว่า จะเร่งพัฒนางานบริการด้วยการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาใช้ โดยจะนำเทคโนโลยี AI มาใช้ในการจองชื่อนิติบุคคล ทำให้สามารถรู้ผลได้ภายใน 2 นาที พัฒนาระบบการออกหนังสือรับรองการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว เพื่ออำนวยความสะดวกนักลงทุนต่างชาติ และจะผลักดันการใช้ระบบจดทะเบียนนิติบุคคลทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-Registration) โดยจะลดอัตราค่าธรรมเนียมลงมาจากเดิม 30% ของ 5,100 บาท ลดเพิ่มเป็น 50% ซึ่งกำลังเตรียมออกกฎกระทรวงรองรับอยู่ และจะผลักดันเพิ่มผู้แทนรับจดทะเบียน เช่น ทนายความ ให้สามารถดำเนินการแทนกรรมการนิติบุคคลได้ ซึ่งจะทำให้มีผู้ใช้บริการผ่านระบบเพิ่มขึ้น รวมทั้งจะเพิ่มประสิทธิภาพของฐานข้อมูลของกรมฯ ให้เป็นบิ๊กดาต้า เพื่อให้ผู้ประกอบการใช้เป็นข้อมูลในการทำธุรกิจด้วย
นอกจากนี้จะผลักดันให้ธุรกิจมีธรรมาภิบาล โดยยกระดับการประกอบธุรกิจให้เป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนด ผลักดันให้ใช้ระบบบัญชีมาตรฐาน โดยให้ทำบัญชีผ่านทางแอปพลิเคชัน หรือทางออนไลน์ และสามารถนำส่งงบการเงินประจำปีได้โดยอัตโนมัติ และจะผลักดันให้มีการนำ AI มาใช้สนับสนุนการตรวจสอบบัญชีธุรกิจว่าบริษัทใดทำผิดเงื่อนไขมาตรฐานบัญชี มีการตกแต่งบัญชีหรือไม่ เช่น บริษัทไม่มีเงินสด แต่ลงบัญชีเป็นเงินกู้ยืมจากกรรมการ ทั้งที่ไม่มีเงินจริง หรือบริษัทมีการชำระเงินทุนจดทะเบียนเต็มจำนวนหรือไม่ เป็นต้น


กำลังโหลดความคิดเห็น