ผู้จัดการรายวัน360- Beauty On Demand แอปพลิเคชั่น บุกตลาด beauty & wellness เต็มตัว เผยศักยภาพ platform กึ่งกลางระหว่างผู้บริโภคและผู้บริการ บริการ 6 ประเภทหลัก คือ ตกแต่งผม ตัดผม แต่งหน้า นวดเพื่อสุขภาพ ทำเล็บ และบริการแวกซ์ เสริมด้วยฟังก์ชันสมัยใหม่ สร้าง win-win situation ไร้การเอาเปรียบ ตั้งเป้าเพิ่มจำนวน service provider ระดับคุณภาพ 1,000 คน ใน 2 เดือน
นางสาวธันย์ชนก จงยศยิ่ง กรรมการผู้จัดการ บริษัท บิวตี้ แอท โฮม เซอร์วิส จำกัด ผู้ให้บริการแอปพลิเคชั่น Beauty On Demand เปิดเผยว่า แอปพลิเคชั่น Beauty On Demand เกิดจากการเห็น pain point ด้วยตัวเอง ว่า ยังไม่มีแพลตฟอร์มที่รวมผู้ให้บริการด้านความงามและสุขภาพหลากหลายสไตล์และราคาที่ส่งตรงถึงบ้าน หรือนอกสถานที่ให้กับผู้บริโภค
ปัญหาการเข้าถึงผู้บริการด้านความงามในไทยกลุ่มใหญ่มักกระจุกตัวในตลาดกลุ่มเดียวหรือในแวดวงของตนเอง ซึ่งมีการหางานผ่านคอนเนคชั่นส่วนตัวหรือคนรู้จัก ทั้งๆ ที่อันที่จริง ตลาดบริการด้านความงามส่งตรงถึงบ้านนั้นมีฐานที่ใหญ่กว่านั้นมาก เพียงแต่ยังไม่มีแพตลฟอร์มสื่อกลางที่รวมบริการไว้ด้วยกัน
ดังนั้น โปรเจคในการสร้างจุดกึ่งกลางจึงเกิดขึ้น โจทย์แรกที่เราเริ่มดำเนินการคือการโฟกัสไปยังบริการ 6 ประเภทหลัก คือ การตกแต่งผม การตัดผม การแต่งหน้า การทำเล็บ บริการแวกซ์ การนวดเพื่อสุขภาพ และยังบริการย่อยอื่นๆที่เกี่ยวข้อง ภายใต้ แอปพลิเคชั่นเดียวในชื่อ “Beauty On Demand”
“Beauty On Demand เป็นแอปพลิเคชั่นใหม่ ที่แทบจะเป็นแพลตฟอร์มเดียวที่สามารถสร้างงานและรายได้เพิ่มกับผู้ให้บริการ โดยที่ไม่ต้องเสียเงินในการสมัครหรือซื้อพื้นที่โฆษณา เพียงแต่ใช้ความเป็นมืออาชีพในการทำงานเท่านั้น ผู้ที่จะเข้ามาเป็นผู้ให้บริการ จะผ่านการคัดกรองจากทางแอปฯ โดยต้องมีเอกสารยืนยันตัวตน พร้อมประกาศนียบัตรรับรองวิชาชีพ และผลงานที่ผ่านมา เพื่อซื้อความเชื่อมั่นของผู้บริโภค ในอีกด้านหนึ่ง ผู้บริโภคก็จะได้การันตีความสะดวกสบาย ด้วยศักยภาพที่เป็น one stop service platform ที่ทุกคนสามารถเลือกทุกบริการได้ในที่เดียว ทั้งยังอยู่ในจุดที่ผู้บริโภคสามารถเลือกผู้ให้บริการ ไฟล์สไตล์ของผู้ให้บริการ และราคาในการให้บริการที่เหมาะกับตัวเองได้ โดยที่ไม่ต้องปรับเปลี่ยนข้าม platform ไปมาอีกด้วย”
นอกเหนือจากบริการ 6 ประเภทหลักแล้ว แอปฯ Beauty On Demand ยังมี ฟังก์ชันเด่นอื่นๆ อาทิ Filters เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถค้นหาการบริการ อิงกับระยะทาง, Points สะสมคะแนนแลกสิทธิพิเศษของแคมเปญต่างๆ, Chat box เพื่อให้ทั้งสองฝ่ายได้เจรจาหรือให้ข้อมูลเพิ่มเติมเรื่องของการบริการ เพื่อจะได้ตกลงราคาสุดท้ายที่เป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย ก่อนการยืนยันชำระเงิน
นางสาวธันย์ชนก กล่าวว่า แอปพลิเคชั่นของเราจะใช้ digital marketing รุกตลาดเป็นหลัก เพียงแต่เราต้องการสื่อสารกับ service provider ให้พวกเขาเห็นถึงข้อดีของการเข้าร่วมเป็นพาร์ตเนอร์กับแอปฯ ซึ่งจะเป็นช่องทางในการหารายได้ใหม่ๆ ของพวกเขา โดยที่ไม่ต้องลงทุนอะไร และผู้ให้บริการสามารถเลือกรับงานได้ตามความพอใจ และการตกลงกันกับลูกค้า ในขณะเดียวกับการมีแคมเปญสมนาคุณต่างๆ ตามมาอีกมากมายตามฤดูกาล เพื่อดึงดูดลูกค้าให้เข้ามาใช้บริการ
ทั้งนี้ แอปพลิเคชั่น “Beauty On Demand” มีกำหนดเปิดตัวไม่เป็นทางการในช่วงกลางเดือนตุลาคม และเริ่มแคมเปญ festive season ครั้งแรกขึ้นในช่วงเดือนธันวาคมสามารถดาวน์โหลด และใช้บริการได้แล้ววันนี้ ทั้งในระบบปฏิบัติการ IOS และระบบ Android ตั้งเป้าเพิ่มจำนวน service provider ระดับคุณภาพ 1,000 คน ใน 2 เดือน
“เราได้เห็นแล้วว่า digital disruption ค่อยๆ เข้ามาแทรกซึมการใช้ชีวิตประจำวันของเรา และ disruption นี้ ถูกเร่งเร้าให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ซ้ำเติมเข้าไปอีกจากสถานการณ์ระบาดของโควิด-19 เราจะเห็นผู้คนทั้งโลกในทุกสาขาอาชีพ ต้องปรับตัวกับโลกแบบ new normal นี้อย่างทันที โดยแทบไม่มีเวลาตั้งตัว อุตสาหกรรมความงามและสุขภาพก็เช่นกัน เราแค่คิดว่า มันถึงเวลาแล้วที่เราต้องรีบปรับตัวและนำเทคโนโลยีมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับอาชีพดั้งเดิม เพื่อให้ทุกคนอยู่รอด สามารถหางานได้ และสร้างรายได้เพิ่มสำหรับผู้ให้บริการ ส่วนผู้ใช้บริการ ก็ได้ความสะดวก รวดเร็ว และมีทางเลือก ยิ่งปรับตัวเร็ว ทำให้เราฟื้นตัวได้เร็วและไปได้ไกล แต่เดิมเราอาจมีรายได้จำนวนหนึ่ง การเข้าร่วมเป็นพาร์ตเนอร์กับ Beauty On Demand ก็ทำให้เราขยายฐานลูกค้าและรายได้ของเรา โดยไม่ได้เสียอะไร ในขณะที่ลูกค้าก็มีตัวเลือกมากมายในการหาช่างแต่งหน้าหรือทำผมสักหนึ่งคนมาให้บริการที่บ้าน เพียงแค่เปิดหาคนที่คุณถูกใจในแอปพลิเคชั่นของเรา ” นางสาวธันย์ชนก กล่าว