จากที่มีข่าวกรณีการดำเนินงานโครงการจัดประกวดราคาคัดเลือกเอกชนเข้ามารับงานจ้างทำของ ของสำนักงานปลัดกระทรวงวัฒนธรรม จำนวน 2 โครงการ คือ 1. จ้างทำเครื่องเกียรติยศประกอบศพในภารกิจพิธีการศพที่ได้รับพระราชทาน (เช่น หีบ โกศ ฉัตรตั้ง) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 วงเงิน 479,321,800 บาท 2. จัดทำโต๊ะหมู่ พร้อมอุปกรณ์ สำหรับภารกิจพิธีการศพที่ได้รับพระราชทานที่สำนักพระราชวังมอบหมายเพิ่มเติม จำนวน 78 ชุด วงเงิน 6,622,200 บาท ซึ่งปรากฏชื่อ บริษัท เอ็ม อาร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ที่เพิ่งจดทะเบียนจัดตั้งใหม่ไม่กี่เดือนและเป็นผู้ชนะการประมูลทั้ง 2 โครงการ
ขณะที่การจ้างทำเครื่องเกียรติยศประกอบศพในภารกิจพิธีการศพที่ได้รับพระราชทาน (เช่น หีบ โกศ ฉัตรตั้ง) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 วงเงิน 479,321,800 บาท คณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์และข้อร้องเรียนของกรมบัญชีกลางเคยทำหนังสือชี้แจงปลัดกระทรวงวัฒนธรรมเพื่อขอให้ปลัดกระทรวงวัฒนธรรมยกเลิกการจัดฃื้อจัดจ้างใหม่และดำเนินการใหม่ให้ถูกต้อง เนื่องจากเห็นว่ามีการดำเนินการที่ไม่เป็นไปตามระเบียบกระทรวงการคลัง ที่ว่าด้วยการจัดฃื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 ข้อ 55(4)(ง)(จ) และไม่เป็นธรรมต่อผู้เข้าแข่งขันในการเสนอราคาซึ่งก่อให้เกิดการได้เปรียบเสียเปรียบระหว่างผู้ยื่นข้อเสนอด้วยกัน แต่สำนักงานปลัดกระทรวงวัฒนธรรมไม่ได้มีการยกเลิกการประกวดราคาดังกล่าวแต่อย่างใด
มีรายงานข่าวว่า ล่าสุดนายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) เปิดเผยถึงเรื่องนี้ว่า ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม คือ นางยุพา ทวีวัฒนะกิจบวร ได้ชี้แจงไปที่กรมบัญชีกลางแล้ว ซึ่งเหมือนกับว่าขณะนี้สัญญาการจัดซื้อในระยะที่ 1 ได้มีการเดินหน้าไปแล้ว แต่นโยบายของกระทรวงถ้าพบความไม่ถูกต้องตรงไหนก็ต้องไปดำเนินการตามระเบียบ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่ได้มีการส่งมอบรายการที่จัดซื้อ ในเรื่องขั้นตอนการจัดซื้อจัดจ้างก็ได้ผ่านพ้นไปแล้วในช่วงเวลาที่ยังมีการระบาดของไวรัสโควิด-19
แหล่งข่าวกระทรวงวัฒนธรรมกล่าวว่า เพราะบริษัทที่เสนอราคาถูกกว่าถึง 34 ล้านบาท และมีประสบการณ์มากกว่ากลับไม่ได้รับการคัดเลือก โดยให้เหตุผลว่างานไม่มีคุณภาพ
“บริษัทที่เสนอราคาถูกกว่ากลับไม่ได้งาน แต่รายที่เสนอราคาแพงกว่ากลับได้งาน โดยอ้างว่าเจ้าที่เสนองานถูกกว่าไม่มีคุณภาพ ทั้งที่เมื่อ 2 ปีก่อนหน้านี้บริษัทที่เคยเสนอราคาถูกเคยได้งานมาตลอด ขณะที่บริษัทที่เสนอราคาแพงไม่เคยทำงานนี้มาก่อน เคยทำแต่เพียงโต๊ะหมู่บูชา ฃึ่งถ้าเจ้าที่เสนอถูกกว่าไม่มีคุณภาพจริงคงต้องถูกแบล็กลิสต์หรือไม่ สัญญาก่อนหน้านี้ก็ตรวจรับไม่ได้ แต่นี่กรรมการคัดเลือกเป็นผู้ทำหนังสือเชิญชวนบริษัทเอง ขณะที่ราคาของสองบริษัทที่เสนอห่างกันถึง 34 ล้านบาท” แหล่งข่าวจากกระทรวงวัฒนธรรมตั้งข้อสังเกต
รัฐเสียประโยชน์สูญงบกว่า 40 ล้านบาท
การที่กรมบัญชีกลางให้จัดจ้างใหม่ แต่กระทรวงวัฒนธรรมยังไม่ยอมดำเนินการ แต่ยังคงยึดสัญญาเดิมกับบริษัทที่เสนอแพง กระทรวงวัฒนธรรมน่าจะมีเบื้องหน้าเบื้องหลัง หรือมีการหมกเม็ดกรมบัญชีกลางโดยแจ้งว่าผู้ร้องไม่มีสิทธิร้อง แต่การจัดจ้างไม่ก่อให้เกิดการแข่งขันที่ยุติธรรมจึงให้จัดจ้างใหม่ ขณะที่กระทรวงวัฒนธรรมแจ้งไปยังผู้ร้องเพียงว่าผู้ร้องไม่มีสิทธิร้อง
“ต่อให้มีการดำเนินการจัดจ้างใหม่รัฐยิ่งเสียหายเพราะรัฐต้องการใช้ของในปีนี้ หรือหากจะเดินตามสัญญาเดิมกับบริษัทเสนอแพงตามข่าวก็ยังมีปัญหาส่งมอบงานไม่ได้ สัญญามีการกำหนดแบ่งเป็น 4 งวด ระยะเวลา 180 วัน ซึ่งสัญญาครบกำหนดเมื่อช่วงต้นเดือนกันยายน และเหตุในการจัดจ้างก็อ้างเรื่องฝีมือเฉพาะและความจำเป็นเร่งด่วน สรุปรัฐเสียหาย เพราะถ้าเร่งด่วนจริงตามคำอ้างปัจจุบันก็ต้องได้ใช้ของแล้ว และคำอ้างนี้ก็อ้างกับกรมบัญชีกลางพร้อมบอกว่าได้ลงนามในสัญญาแล้วแต่กรมบัญชีกลางก็
ยังจัดจ้างใหม่อยู่ดี” แหล่งข่าวกล่าวเพิ่มเติม