“อีสเทิร์นโพลีเมอร์” มั่นใจไตรมาส 2-4 ปี 63/64 จะมีผลการดำเนินงานดีขึ้น หลังจากไตรมาสแรก (เม.ย.-มิ.ย. 63) ที่รายได้จากการขายและกำไรสุทธิวูบ คงเป้ารายได้ที่ 9 พันล้านบาท
นายเฉลียว วิทูรปกรณ์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อีสเทิร์นโพลีเมอร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ EPG เปิดเผยว่า บริษัทมั่นใจผลการดำเนินงานในอีก 3 ไตรมาสงวดปี 2563/65 (ก.ค. 63–มี.ค. 64) จะมีทิศทางที่ดีขึ้นทั้งในด้านรายได้จากการขายและกำไรสุทธิเมื่อเทียบจากไตรมาส 1 ปี 2563/64 ที่มีรายได้จากการขายรวม 1,952 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 75 ล้านบาท ลดลง 27% และ 65% ตามลำดับ สืบเนื่องจากผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19
แนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 2 นี้บริษัทได้รับผลดีจากราคาวัตถุดิบที่ยังต่ำอยู่ เป็นผลจากราคาน้ำมันดิบที่ต่ำ ล่าสุดเฉลี่ย 39 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ขณะที่ในประเทศไทยมีการบริหารจัดการการแพร่ระบาดโควิด-19 ได้ดี ทำให้หลายอุตสาหกรรมกลับมาผลิตได้ตามปกติจากเดิมที่มีการชะลอหรือหยุดในช่วงล็อกดาวน์ โดยในกลุ่มธุรกิจบรรจุภัณฑ์พลาสติกภายใต้แบรนด์ EPP พบว่ามียอดขายบรรจุภัณฑ์พลาสติกชนิดกล่องบรรจุอาหารเพิ่มขึ้นหลายร้อยเปอร์เซ็นต์ ชดเชยบรรจุภัณฑ์ถ้วยน้ำดื่มที่หดตัวไป
ส่วนธุรกิจฉนวนความร้อน/เย็น ภายใต้แบรนด์ Aeroflex พบว่าตลาดทั้งในและต่างประเทศเริ่มฟื้นตัวดีขึ้น ขณะที่ตลาดสหรัฐฯ อยู่ในภาวะรอทิศทาง เพราะใกล้เข้าสู่ช่วงเลือกตั้งประธานาธิบดีของสหรัฐฯ
และบางประเทศยังล่าช้าจากกระบวนการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ
ธุรกิจชิ้นส่วนอุปกรณ์และตกแต่งยานยนต์ภายใต้แบรนด์ Aeroklas พบว่าในเดือนมิถุนายน 2563 เริ่มมีสัญญาณการฟื้นตัวที่ดีขึ้นต่อเนื่องมาถึงปัจจุบันเนื่องจากไม่สามารถท่องเที่ยวต่างประเทศได้ ทำให้ประชาชนมีการท่องเที่ยวภายในประเทศแทนและขับรถส่วนตัวเพิ่มขึ้น โดยเลี่ยงการใช้รถสาธารณะ
ทั้งนี้ บริษัทได้ตั้งเป้าหมายรายได้จากการขายในปีบัญชี 63/64 (เม.ย. 63-มี.ค. 64) อยู่ที่ 9,000 ล้านบาท ลดอัตราการโต 12% และรักษาระดับอัตรากำไรขั้นต้นที่ 28-30%
บริษัทได้มีการนำนโยบาย USE (U : Utilization การใช้ประโยชน์จากทรัพยากรที่มีอยู่อย่างคุ้มค่า S : Save การประหยัดค่าใช้จ่าย และ E : Efficiency การเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน) มาใช้บริหารงานภายในองค์กร เพื่อช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานในช่วงล็อกดาวน์ป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 ทำให้บริษัทยังรักษาระดับอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 28.9% ในช่วงไตรมาส 1 ปีนี้
