กรมการขนส่งทางราง ออกประกาศผ่อนคลาย ให้รับผู้โดยสารได้เต็มความจุ โดยยังคงมาตรการสวมหน้ากากอนามัยและ คัดกรองอุณหภูมิ เพื่อป้องกันแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด -19
กรมการขนส่งทางราง (ขร.) ออกประกาศ เรื่อง การผ่อนคลายมาตรการพึงปฏิบัติด้านการจัดการระบบขนส่งทางราง ภายใต้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID - 19) ตามข้อกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน (ฉบับที่ 14) ลงวันที่31 สิงหาคม 2563 ข้อ 1 (3) ให้ระบบขนส่งสาธารณะทั้งทางบกและทางน้ำมีจำนวนผู้โดยสารได้เต็มตามความจุมาตรฐานของพาหนะ
ขร. ได้ดำเนินการติดตาม เฝ้าระวัง และป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID - 19 อย่างต่อเนื่อง ทั้งในระบบรถไฟฟ้าในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล และระบบรถไฟระหว่างเมือง เพื่อไม่ให้กลับมาระบาดซ้ำ โดยประกาศฉบับนี้ ขร. ได้มีการผ่อนคลายการรักษาระยะห่าง (Social Distancing) และความหนาแน่นของการเข้าใช้บริการระบบขนส่งทางรางให้สามารถใช้บริการได้เต็มความจุ เพื่อรองรับปริมาณการเดินทางในระบบขนส่งทางรางที่เพิ่มขึ้นจากการผ่อนคลายกิจกรรม/กิจการ โดยยังคงเข้มงวดในการป้องกัน คัดกรอง และควบคุมการเดินทาง โดยเฉพาะในเขตที่มีการเดินทางเชื่อมกับประเทศเพื่อนบ้าน
สำหรับประกาศนี้ แบ่งเป็น 2 ส่วน คือ 1) ส่วนของผู้ให้บริการระบบขนส่งทางราง ประกอบด้วย การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.), บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด (รฟฟท.) การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BEM) และบริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BTS) และ 2) ผู้ใช้บริการระบบขนส่งทางราง ดังนี้
ข้อ 1 ให้หน่วยงานที่ให้บริการขนส่งทางรางทุกระบบดำเนินการ ดังต่อไปนี้
(1) สามารถเดินรถโดยมีจำนวนผู้โดยสารเต็มความจุมาตรฐานของขบวนรถ โดยให้กำกับ ดูแล บริหารจัดการภายในสถานีและขบวนรถไม่ให้เกิดความหนาแน่นของผู้โดยสารมากเกินไปหรือมีลักษณะเบียดเสียดแออัด อันเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID - 19)
(2) คัดกรองตรวจวัดอุณหภูมิผู้โดยสารก่อนเข้าระบบ หากมีผู้โดยสารที่มีอุณหภูมิสูงมากกว่า 37.5 องศาเซลเซียส ควรแนะนำให้งดการใช้บริการและไปพบแพทย์
(3) แจ้งและกำกับดูแลให้ผู้โดยสารล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ทั้งก่อนและหลังเข้าใช้บริการในระบบ พร้อมทั้งจัดให้มีเจลแอลกอฮอล์บริการภายในสถานีอย่างเพียงพอ
(4) กำกับ ดูแล และประชาสัมพันธ์ให้ผู้โดยสารสวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัยตลอดเวลาทั้งภายในสถานีและขบวนรถ งดการสนทนาและไม่หันหน้าเข้าหากันภายในขบวนรถ
(5) เพิ่มความถี่ในการทำความสะอาด เช็ด พ่น ฆ่าเชื้อโรคบริเวณจุดมือสัมผัส ทั้งภายในสถานีและขบวนรถ
(6) ให้มีการใช้แอพพลิเคชั่นไทยชนะภายในสถานีและขบวนรถเผื่อกรณีสอบสวนโรค
(7) ประชาสัมพันธ์ภายในขบวนรถและภายในสถานีให้ประชาชนรับทราบและถือปฏิบัติตามมาตรการที่ราชการกำหนดเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID - 19)
(8) การให้บริการโดยสารรถไฟทางไกลข้ามเขตพื้นที่จังหวัด ให้เจ้าหน้าที่เพิ่มความเข้มงวดการคัดกรอง เฝ้าระวัง และตรวจสอบเอกสารการเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรที่ราชการกำหนด กรณีผู้โดยสารที่เป็นชาวต่างชาติหรือแรงงานต่างด้าว หากพบผู้ลักลอบเข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมายให้เร่งแจ้งสาธารณสุข เพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องโดยด่วนต่อไป
ข้อ 2 ให้ผู้ใช้บริการระบบขนส่งทางรางดำเนินการ ดังต่อไปนี้
(1) สวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัยตลอดเวลาที่ใช้บริการ ทั้งภายในสถานีและขบวนรถ
(2) งดการสนทนาและไม่หันหน้าเข้าหากันภายในขบวนรถ
(3) หลีกเลี่ยงการเดินทางในช่วงเวลาหรือในขบวนรถที่มีความหนาแน่นแออัด และพึงระวังการเบียดเสียดหรือการสัมผัสผู้อื่น
(4) หมั่นใช้เจลแอลกอฮอล์ล้างมือทั้งก่อนและหลังการใช้บริการในระบบ และหลีกเลี่ยงการใช้มือสัมผัสใบหน้า
(5) ใช้แอพพลิเคชั่นไทยชนะภายในสถานีและขบวนรถเผื่อกรณีสอบสวนโรค
ทั้งนี้ ขร. ขอความร่วมมือหน่วยงานที่ให้บริการขนส่งทางรางทุกระบบและผู้ใช้บริการระบบขนส่งทางรางถือปฏิบัติโดยเคร่งครัดเพื่อร่วมกันลดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสฯ ภายใต้การเดินทางวิถีชีวิตรูปแบบใหม่ (New Normal)