“นายกฯ” เปิดมอเตอร์เวย์สาย 7 ช่วงพัทยา-มาบตาพุด 24 ส.ค. ครบ 3 ด่าน ใช้ฟรีไปจนกว่าจะมีประกาศร่างกฎกระทรวงกำหนดอัตราค่าผ่านทาง และ 25 ส.ค.คิกออฟแบริเออร์-หลักนำทางยางพาราสายแรก ถนน “เขาไร่ยา-แพร่งขาหยั่ง” จ.จันทบุรี
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะเป็นประธานเปิดให้บริการโครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 7 สายกรุงเทพฯ-บ้านฉาง ส่วนต่อขยายช่วงพัทยา-มาบตาพุด ในวันที่ 24 ส.ค.นี้ ซึ่งจะเป็นการเปิดให้บริการทั้ง 3 ด่านอย่างเป็นทางการ ประกอบไปด้วย ด่านห้วยใหญ่ ด่านเขาชีโอน และด่านมาบตาพุด
ซึ่งจะทำให้ใช้เวลาการเดินทางจากมาบตาพุด-พัทยาไม่ถึง 30 นาที และคาดการณ์ว่าจะมีปริมาณรถใช้บริการไม่ต่ำกว่า 36,000 คันต่อวัน
โดยการจัดเก็บค่าธรรมเนียมผ่านทางเป็นแบบระบบปิด คิดอัตราค่าผ่านทางตามระยะทาง ประกอบด้วย ระบบจัดเก็บค่าธรรมเนียมผ่านแบบเงินสด (MTC) และระบบจัดเก็บค่าธรรมเนียมผ่านทางแบบอัตโนมัติ (ETC) สามารถพัฒนาสู่ระบบจัดเก็บค่าธรรมเนียมผ่านทางแบบไม่มีไม้กั้น (M-Flow) ตลอดสายทางได้ในอนาคต เป็นโครงข่ายที่เพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งและโลจิสติกส์ของภาคอุตสาหกรรม เติมเต็มโครงข่ายคมนาคมขนส่งในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC)
นอกจากนี้ กรมทางหลวง (ทล.) ยังจะดำเนินการมอเตอร์เวย์สาย 7 ส่วนต่อขยายไปถึงสนามบินอู่ตะเภา ระยะทางเพิ่มเติมอีกประมาณ 7 กม. เพื่อรองรับการเดินทางและผู้โดยสารของสนามบินอู่ตะเภาในอนาคตที่คาดว่าจะมีประมาณ 60 ล้านคนต่อปีอีกด้วย
ทั้งนี้ กรมทางหลวงได้เปิดให้ประชาชนได้ใช้บริการมอเตอร์เวย์สาย 7 ช่วงพัทยา-มาบตาพุด อย่างไม่เป็นทางการ โดยไม่เก็บค่าธรรมเนียมผ่านทาง มาตั้งแต่วันที่ 22 พ.ค. 2563 เนื่องจากการก่อสร้างด่านห้วยใหญ่และด่านเขาชีโอนยังไม่แล้วเสร็จ ส่วนการจัดเก็บค่าผ่านทางจะต้องรอประกาศร่างกฎกระทรวงกำหนดค่าธรรมเนียมการใช้ยานยนต์บนทางหลวงพิเศษหมายเลข 7 สายกรุงเทพมหานคร-บ้านฉาง พ.ศ. …ฉบับใหม่ ซึ่งจะต้องเสนอให้คณะรัฐมนตรีเห็นชอบก่อน
@“นายกฯ” คิกออฟแบริเออร์-หลักนำทางยางพารา ถนนเขาไร่ยา-แพร่งขาหยั่ง จันทบุรี
ในวันที่ 25 ส.ค. ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจรที่จังหวัดระยอง พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะเดินทางไปเป็นประธานเปิดการใช้กำแพงคอนกรีตหุ้มด้วยแผ่นยางธรรมชาติ (RFB) และหลักนำทางยางธรรมชาติ (RGP) ที่จังหวัดจันทบุรี เป็นการคิกออฟโครงการครั้งแรกในประเทศไทย ณ ทางหลวงหมายเลข 3249 กม.3+164 ตอนควบคุม 0100 ตอนเขาไร่ยา-แพร่งขาหยั่ง ต.แสลง อ.เมือง จ.จันทบุรี
โดยจะมีนิทรรศการ พร้อมการสาธิตขั้นตอนต่างๆ อย่างละเอียด ตั้งแต่การผสมยาง การขึ้นแบบ การอบ จนถึงการทาสีอุปกรณ์ทั้ง 2 ชนิด พร้อมรับชมการติดตั้งบนถนนจริงอีกด้วย
นายศักดิ์สยามกล่าวว่า มีเป้าหมายในการใช้ยางพาราในช่วง 3 ปีประมาณ 1.007 ล้านตัน ซึ่งจะช่วยให้เกษตรกรชาวสวนยางพารามีรายได้ไม่ต่ำกว่า 3 หมื่นล้านบาท ขณะที่ประเมินว่าวัสดุยางพาราจะมีอายุการใช้งาน 3 ปี ซึ่งจะนำยางพาราที่เสื่อมสภาพมารีไซเคิลผลิตหมุนเวียนได้ เริ่มจากปี 2566 เป็นต้นไปเป็นการสร้างเสถียรภาพยางพาราอย่างยั่งยืน