“พาณิชย์จังหวัดบุรีรัมย์” จัดประชุมชี้แจงโครงการเชื่อมโยงตลาดข้าวอินทรีย์ และข้าว GAP ครบวงจร เชิญเกษตรกร โรงสี ผู้ประกอบการค้าข้าว ร่วมหารือ ก่อนผลักดันลงนาม MOU ซื้อขายข้าวในราคาสูงกว่าตลาด เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรให้มีที่ขายผลผลิตเป็นการล่วงหน้า
นายศิริพงษ์ วิวัฒน์เกษมชัย พาณิชย์จังหวัดบุรีรัมย์ เปิดเผยว่า สำนักงานพาณิชย์จังหวัดบุรีรัมย์ได้ร่วมมือกับศูนย์วิจัยข้าวนครราชสีมา จัดประชุมซักซ้อมความเข้าใจในหลักเกณฑ์และเงื่อนไขต่างๆ ก่อนการทำบันทึกข้อตกลง (MOU) ภายใต้โครงการเชื่อมโยงตลาดข้าวอินทรีย์ และข้าว GAP ครบวงจร ระหว่างเกษตรกรผู้ปลูกข้าวกับโรงสีและผู้ประกอบการค้าข้าว เพื่อเป็นการหาตลาดรองรับผลผลิตให้แก่เกษตรกรผู้ปลูกข้าวเป็นการล่วงหน้า ตามนโยบาย “เกษตรผลิต พาณิชย์ตลาด” ที่ได้รับมอบหมายจากกระทรวงพาณิชย์
สำนักงานฯ ได้เชิญตัวแทนกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกข้าวตามโครงการอินทรีย์ล้านไร่ 38 กลุ่มรวม 200 ราย มาประชุมร่วมกับโรงสีจำนวน 10 ราย โดยได้ทำการชี้แจงรายละเอียดการจัดทำโครงการ การติดตามสถานการณ์ผลผลิตข้าว และความต้องการซื้อข้าวของโรงสีและผู้ประกอบการค้าข้าว เพื่อที่จะได้วางแผนในขั้นตอนต่อไป คือ การจัดเจรจาจับคู่ธุรกิจ และการลงนาม MOU ร่วมกันในการรับซื้อผลผลิตจากเกษตรกร
สำหรับการรับซื้อข้าวจากเกษตรกร ได้กำหนดให้มีการรับซื้อในราคาสูงกว่าราคาตลาด โดยข้าวที่ได้มาตรฐาน GAP เกษตรกรจะได้รับเงินเพิ่มตันละ 500 บาท และข้าวอินทรีย์ตันละ 2,000 บาท ทำให้เกษตรกรที่ปลูกข้าว นอกจากจะมีที่จำหน่ายผลผลิตอย่างแน่นอนแล้ว ยังช่วยให้มีรายได้ให้สูงขึ้น
นอกจากนี้ ยังได้ชี้แจงให้โรงสีและผู้ประกอบการค้าข้าวที่ประสงค์เข้าร่วมโครงการจะได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐด้วยการช่วยชดเชยดอกเบี้ยกรณีไปกู้เงินจากสถาบันการเงินเพื่อมาใช้ในการรับซื้อข้าวจากเกษตรกร ซึ่งจะทำให้ต้นทุนทางการเงินถูกลง และยังได้รับสิทธิในการขอโควตาเพื่อส่งออกข้าวไปยังตลาดสหภาพยุโรป (อียู) ด้วย ทำให้มีโอกาสทำตลาดข้าวคุณภาพดีในตลาดอียูได้เพิ่มขึ้น